สำหรับแบรนด์ Tyson เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสูงในลำดับต้นๆในสหรัฐอเมริกาเราไปดูกันว่าแบรนด์นี้มีความน่าสนใจอย่างไร รวมไปถึงมูฟเมนต์ที่เกิดขึ้นในตลาดผู้บริโภคของไทยด้วย
อยากจะย้อนไปที่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่รัฐอาร์คันซอทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา โดยผู้ก่อตั้งธุรกิจ John W. Tyson ที่ได้มองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำในปี 1935 เขาขับรถบรรทุกคู่ใจออกไปส่งไก่คุณภาพดีถึงมือของแรงงานในเมืองด้วยตัวของเขาเอง โดย John W. Tyson เชื่อว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะยากดีมีจน หรืออยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแค่ไหน ทุกคนควรได้บริโภคไก่ที่มีคุณภาพดี ดังนั้นที่ Tyson จึงมีปณิธานที่มุ่งมั่นที่จะผลิตและเสริฟอาหารที่ดี มีคุณภาพสูงเท่านั้น จนมาถึงวันนี้ Tyson Foods กลายเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อไก่, เนื้อวัว และเนื้อหมู รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ และครอง market share ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทั่วโลกถึง 30%
ตลอดกว่า 80 ปีที่ดำเนินธุรกิจจนมาถึงปัจจุบัน Tyson ยังคงคอนเซ็ปต์ “farm-to-table” ซึ่งเป็นแนวคิดที่เรียบง่ายและจริงใจ
“เรามุ่งมั่นในการเสิร์ฟอาหารที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด โดยให้ความสำคัญตั้งแต่การเลี้ยงไก่ การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง การผลิตที่ปลอดภัย ตลอดจนระบบการขนส่งที่ดีที่สุดจากหน้าฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้มีความสุขกับอาหารของเรา”
นอกจากนี้แบรนด์ Tyson ยังมีจุดยืนที่ชัดเจนที่ต้องการยกระดับความสำคัญและมาตรฐานของอาหาร เราเชื่อว่า อาหารทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด และจะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาโลกของเราไปในทิศทางที่ดีขึ้น “Raise the world’s expectations for how much good food can do.” นี่ถือว่าเป็นเสน่ห์ของแบรนด์และ positioning ที่แข็งแรงทีเดียว
ภาพรวมธุรกิจ Tyson กับตำแหน่ง #1 ในตลาด USA
Tyson Foods ในปี 2019 มียอดขายรวมทั้งหมดสูงถึง 42,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อวัวเป็นโปรดักส์ที่ขายดีที่สุด 36% รองลงมาคือ เนื้อไก่ 31% และอาหารพร้อมทานประมาณ 20%
ลองมาดูว่ามีแบรนด์ลูกรายไหนบ้างที่ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่ง #1 ของ USA ในอาหารประเภทต่างๆ ภายใต้บริษัทใหญ่ Tyson Foods
- Tyson – เนื้อไก่ปรุงสุกแช่แข็งขายดีที่สุด
- Jimmy Dean – ไส้กรอกเกรดพรีเมียมขายดีที่สุด
- Ball Park Frank – ฮอทดอกที่ขายดีที่สุด โดยเฉพาะในสหรัฐฯ
- Hillshire Farm– ไส้กรอกลมควันเป็นโปรดักส์ขายดีที่สุด
จะเห็นว่าสำหรับ Tyson และแบรนด์อื่นๆ ภายใต้ Tyson Foods จะมีจุดดึงดูดผู้บริโภคในด้านที่แตกต่างกัน และไม่ใช่แค่เรื่องความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ แต่รวมไปถึงรสชาติ คุณภาพ ความสะอาด และความสะดวกของผู้บริโภค ด้วยความที่ Tyson Foods มีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ระดับ world-class กับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมากมาย จึงไม่แปลกใจว่าทำไมแบรนด์อาหารรายนี้ถึงกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคทั่วโลก
อย่างในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ Tyson Food ได้ดำเนินการอยู่ใน 3 ประเทศ คือ ประเทศไทย, มาเลเซีย และออสเตรเลีย ทำให้ Tyson สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ได้มากกว่า 27 ประเทศจากภูมิภาคนี้ ขณะที่ในไทย Tyson Food ถือว่าเป็นผู้ส่งออก Top 3 ในผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก โดยมีโรงงานผลิตและแปรรูปเนื้อไก่ในไทยถึง 7 แห่งด้วยกัน
Tyson กับโอกาสเติบโตในตลาดไทย
จากข้อมูลของ Tyson ชี้ให้เห็นว่าในตลาดบริโภคของไทยสำหรับ ‘เนื้อไก่’ ถือว่ามีโอกาสเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะไก่แปรรูปที่ค่อนข้างโดดเด่น เนื้อไก่ดิบในตลาดไทยก็ยังมีดีมานด์ที่สูงและสำคัญ โดยในปี 2020 เติบโตที่ประมาณ 66.1% จากสัดส่วนเนื้อไก่ดิบทั้งหมด ซึ่งมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคหันมานิยมปรุงอาหารเองที่บ้านมากขึ้น (จากการแพร่ระบาด COVID-19)
ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป หรือไก่ปรุงสุกแช่แข็งในตลาดไทยมีความโดดเด่นขึ้นมาก โดยในปี 2020 คนไทยบริโภคเนื้อไก่แปรรูปมากขึ้นประมาณ 7% เทียบกับปี 2019 ส่วนหนึ่งมาจากความสะดวกในการเตรียมอาหารที่บ้าน ซึ่งในภาพรวมการบริโภคเนื้อไก่ทั้งหมดในไทยมีปริมาณสูงถึง 1.1 ล้านตันในปี 2020 (จากข้อมูลของ Euromonitor consulting)
อย่างที่บอกไปว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะปัจจัยจากการแพร่ระบาดของโควิด19บวกกับวิถีชีวิตที่วุ่นวายมากขึ้น มีเวลาน้อยลง ทำให้กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะผู้หญิงในช่วงวัย20 – 40 ปีไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน โสดหรือแต่งงาน พวกเขามองหาและต้องการผลิตภัณฑ์อาหารที่สะดวก สามารถทำได้ในเวลาที่รวดเร็ว มีคุณภาพ แต่ก็ไม่ลืมเรื่องรสชาติว่าอาหารที่ดีต้องอร่อยด้วย
ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ที่ผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงรสแช่แข็งพร้อมทานของ Tyson ได้รับความนิยมในไทยมากขึ้น เพราะ Tyson เน้นการสร้างความอุ่นใจให้ลูกค้าในทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเร่งรีบ ไม่มีเวลาทำอาหาร หรือทำอาหารไม่เป็น คุณสามารถไว้ใจเชื่อใจ Tyson ได้ You can “COUNT ON US” ทั้งในเรื่องของรสชาติ คุณภาพ และความสะดวก
- รสชาติ: ด้วยสูตรลับเฉพาะ และเทคโนโลยีการหมักสุญญากาศจึงทำให้เนื้อไก่มีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ และรสชาติเข้าเนื้อ ประกอบกับเทคนิคการเคลือบกรอบแบบพิเศษที่ทำให้คงความกรอบตั้งแต่คำแรกถึงคำสุดท้าย
- คุณภาพ: ด้วยมาตรฐานระดับโลกในการผลิต ที่สามารถผลิตและส่งออกสินค้าไปได้ทั่วโลก และได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าแบรนด์ใหญ่ๆ นี่คือเครื่องกรันตีคุณภาพไก่ทุกชิ้นของ Tyson ในเรื่องfood safety & food quality
- ความสะดวก: ทุกผลิตภัณฑ์ของ Tyson ได้ออกแบบให้สามารถทานได้ง่ายและสะดวกต่อลูกค้า โดยไม่ต้องรอทำละลาย และมีวิธีการอุ่นอาหารที่หลากหลายวิธีเพื่อเสิร์ฟกับความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่ม
สำหรับเรื่องรสชาติของ Tyson มองว่าน่าสนใจเพราะการหมักด้วยสุญญากาศเพื่อให้รสชาติเข้าเนื้อ เนื้อนุ่ม กลมกล่อม น่าจะเป็นแม็กเน็ตแรกที่ดึงดูดลูกค้าให้รู้สึกอยากลองอยากทาน นอกจากนี้อย่างในวิดีโอ (แนบลิงค์ VDO ค่ะ) คอนเซ็ปต์ #ฉีก ทอด อร่อย ฟิน ที่ค่อนข้างติดหูซึ่งเราจะเห็นเลยว่าเทคนิคการเคลือบกรอบพิเศษนั้นทำให้ไก่ทุกชิ้นกรอบถูกใจหลายๆ คน แค่ฉีกซอง-ทอดแล้วรอรับความอร่อยฟินได้เลย (ไม่ต้องรอให้น้ำแข็งละลายด้วย)
นอกจากกรรมวิธีการผลิตที่ดูพิถิพิถันมาก Tyson ยังมีสินค้าให้เลือกหลายรสชาติ ซึ่งได้คิดสูตรลับเฉพาะเพื่อให้ถูกปากคนไทย ด้วย เช่น
- ไก่ทอดกรอบสูตรคลาสิก: ถือว่าเป็น best seller ในไทย ที่มีรสชาติเอกลักษณ์ ไก่เนื้อแน่น กรอบนอก แต่มีความนุ่มข้างในไม่แห้ง อร่อยด้วยเครื่องเทศสูตรเฉพาะ
- นักเก็ตไก่: เนื้อไก่ล้วนๆ กรอบนอก นุ่มใน เคลือบด้วยแป้งสีเหลืองทอง รสชาติน่าจะถูกใจทุกวัย
- ปีกไก่บนสไตล์อเมริกัน: เป็นไก่ที่มีรสชาติจัดจ้านสไตล์อเมริกัน ซึ่งจะคลุกเคล้าด้วยซอสสูตรพิเศษ มีความเข้มข้น เหมาะกับเป็นมื้ออาหาร หรือจะเป็นหนึ่งในเมนูในงานปาร์ตี้ก็ได้
- ไก่ป๊อปคอร์น รสฮอตแอนด์สไปซี่: อีกหนึ่ง best seller จาก Tyson รสชาติเผ็ดร้อนเหมาะกับคนไทยที่ชอบความแซ่บ ทานง่ายเป็นมื้อหลักหรือ snack ระหว่างวันก็ได้เหมือนกัน
- ไก่คาราเกะสไตล์ญี่ปุ่น: เมนูขายดีที่คนไทยชอบ ทำจากเนื้อไก่คุณภาพดี หมักด้วยเครื่องปรุงสูตรต้นตำรับสไตล์ญี่ปุ่น พออดออกมาจะมีสีเหลืองทองสวย กรอบเนื้อด้านในนุ่ม
- ไก่กรอบไม่มีกระดูก: เมนูนี้เหมาะมากๆ ที่จะเป็นมื้อว่าง ไก่กรอบชุบแป้งทอด ที่ทำจากเนื้ออกไก่แต่นุ่มชุ่มฉ่ำไม่แห้งฝืดคอ กับการเคลือบที่กรอบทุกคำที่เรากัด
- ไก่ย่างเนื้อนุ่ม: เป็นไก่ย่างเนื้อนุ่ม ชิ้นพอดีคำ แค่เอาเข้าไมโครเวฟ 5 นาทีเราจะได้กลิ่นความหอมจากการย่าง เหมาะที่จะทานเล่นๆ หรือเป็น base ให้กับเมนูอื่นได้หลากหลาย
ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ Tyson ได้ง่ายๆ ทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตและช่องทางออนไลน์ อย่างเช่น Tops market, LOTUS’s, Lotus Express, Big C, Big C mini, Foodland, Fresh Mart, Gourmet Market, Villa Market, Max Value และ Rimping หรือ Shopee, Lazada, JD.com ทั้งทางเว็บไซต์ https://tyson.co.th/ รวมไปถึงที่ Food Panda
จากที่ศึกษาแนวคิดตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ จนถึงมูฟเมนต์ของแบรนด์เอง ชอบตรงที่ความกระตือรือร้นในการพัฒนาและสร้างสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ นอกจากรสชาติที่ใหม่และหลากหลาย Tyson ยังเพิ่มนวัตกรรมทางอาหารอยู่ตลอดเวลาด้วย ส่วนในด้านการตลาดแน่นอนว่าเราคงได้เห็น Tyson ในช่องทางต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง ทั้งทางโซเชียลมีเดีย, แคมเปญออนไลน์, KOLs, ป้ายโฆษณาหรือบิลบอร์ดในที่ต่างๆ จนไปถึงการลงพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้ (On Ground Activation) มองว่าในอนาคตธุรกิจอาหารอย่างผลิตภัณฑ์แปรรูปในไทยน่าจะคึกคักยิ่งกว่านี้อีก
ในเคสของ Tyson ทำให้เรามองเห็นอะไรหลายๆ มุมเกี่ยวกับ Tyson brand concept ไม่ว่าจะการพัฒนาทั้งกระบวนการผลิต และเพิ่มความหลากหลายในรสชาติของผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมใหม่ ซึ่งมองว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่พยายามสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดและส่งตรงถึงมือผู้บริโภค แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็น DNA ของ Tyson ที่ชูความ real “Keep it real. Keep it Tyson” นี่แหละความเรียบง่ายและอร่อยที่มีอยู่จริง