หลังจากปีที่ผ่านมาสร้างความฮือฮา ด้วยการเทคโอเวอร์ ‘สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น’ เจ้าของช่องสปริงนิวส์ 19 โดยเตรียมเข้าไปซื้อหุ้นในสัดส่วน 90.10% มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ล่าสุด ‘ทีวี ไดเร็ค’ ประกาศยุติดีลดังกล่าวแล้ว เพราะเจรจาเงื่อนไขใหม่ไม่ลงตัว หลัง กสทช. เตรียมออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล
การยกเลิกเดินหน้าต่อในดีลนี้ เกิดขึ้นในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ ในวันนี้ (26 กุมภาพันธ์ 2562) ที่มีมติให้ยุติการเข้าซื้อหุ้นบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ในเครือ บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัลช่อง 19 หรือ สปริงนิวส์ เนื่องจากภายหลังที่ กสทช. เตรียมออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ส่งผลให้เกิดการเจรจาระหว่างกันภายใต้เงื่อนไขใหม่ ซึ่งยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้
ย้ำไม่กระทบรายได้บริษัทฯ
การยกเลิกเข้าลงทุนในธุรกิจทีวีดิจิทัลช่องดังกล่าว ‘ทรงพล ชัญมาตรกิจ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานและเป้าหมายการเติบโตในปี 2562 โดย ทีวี ไดเร็คยังคงเป็นผู้เช่าเวลากับช่อง 19 เพื่อผลิตรายการโฮมช้อปปิ้งออกอากาศทางสถานี และเดินหน้าขยายการลงทุนในส่วนอื่นๆ เพื่อผลักดันการเติบโตและเพิ่มศักยภาพการขายสินค้าและบริการที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สำหรับผลประกอบการในปี 2561 ถือว่า เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะผลกำไรสุทธิถือว่าดีที่สุดในรอบ 5 ปีนับจากปี 2557 ด้วยการมีกำไรสุทธิ 57.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187.41% จากปีก่อนที่ขาดทุน 68.29 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 3,993.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.24% จากปีก่อนที่ทำได้ 3,329.11 ล้านบาท โดยปัจจัยมาจากการปรับรูปแบบโฆษณาและรายการโฮมช้อปปิ้งให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น การนำเสนอสินค้าใหม่ๆ และยอดขายช่องทางออนไลน์ที่เติบโตได้ดี
ตั้งเป้าปี 62 รายได้รวม 4,800 ล้านบาท โต 20%
ส่วนผลประกอบการปี 2562 ตั้งเป้าหมายรายได้รวม 4,800 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20% มาจากรายได้ธุรกิจของทีวี ไดเร็ค 3,300 ล้านบาท และ 6 บริษัทในเครืออีก 1,500 ล้านบาท ได้แก่ 1. ทีวีดี ช้อปปิ้ง (ถือหุ้น 65%) 2. ลาสไมล์ ไดเร็ค (ถือหุ้น 99.99%) 3. ทีวีดี โบรกเกอร์ (ถือหุ้น 99.99%) 4. ทีวีดี เซอร์วิสเซส (ถือหุ้น 99.99%) 5. เมจิก พีวอท (ถือหุ้น 60%) และ 6. ทรี-อาร์ดี (ถือหุ้น 25%) ซึ่งจะรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนถือหุ้น
ขณะที่กลยุทธ์หลักของทีวี ไดเร็ค จะมุ่งเน้นการทำ Omni Channel Direct Marketing Experience ผสมผสานการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยช่องทาง ‘ออนไลน์ ช้อปปิ้ง’ ได้ร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กับสื่อโซเชียล มีเดียชั้นนำเพื่อพัฒนากลยุทธ์การทำโฆษณาร่วมกัน พร้อมกับวางแผนปรับโฉมเวบไซต์และโมบาย แอปพลิเคชั่นใหม่
ส่วนช่องทาง ‘ทีวี ช้อปปิ้ง’ จะมุ่งพัฒนารูปแบบการนำเสนอสินค้าและสปอตโฆษณาใหม่ๆ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า (Create Customer Experience) ขณะที่ช่องทางสุดท้าย ‘ไดเร็ค ช้อปปิ้ง’ จะรุกใช้สื่อโฆษณาทางทีวีดิจิทัลช่องต่างๆ พร้อมนำเทคโนโลยีแชตบอทและ AI เข้ามาใช้งาน รวมถึงพัฒนาร้านทีวี ไดเร็ค โชว์เคส ภายใต้คอนเซปต์ใหม่และแฟลกชิพสโตร์รูปแบบใหม่ภายในห้างสรรพสินค้า
นิวส์ เน็ตเวิร์ค เปลี่ยนชื่อ‘NOW 26’ เป็น ‘SPRING26’
ขณะที่กลุ่มนิวส์ เน็ตเวิร์ค ผู้ถือหุ้นใหญ่ ‘สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น’ , เนชั่นทีวี 22 และNOW 26 ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อ ‘บริษัท แบงคอก บิสสิเนส บรอดแคสติ้ง จำกัด’ ผู้ดำเนินการทีวีดิจิทัล ช่อง NOW26 เป็น ‘บริษัท สปริง 26’ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 และเปลี่ยนชื่อ NOW 26 เป็น SPRING26 ในวันที่ 1 มีนาคม 2562 พร้อมกับปรับรูปแบบการนำเสนอ ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ ‘มากกว่าทีวี มีดีกว่าใคร’