ช่วงนี้กระแส Cryptocurrency ยังคงอยู่ในความสนใจของบรรดานักลงทุนและผู้ที่ติดตามข่าวสาร ส่วนความนิยมในการใช้งานและการพัฒนาแอปพลิเคชั่น โซเชียลมีเดีย ก็ยังร้อนแรงไปทั่วโลก วันนี้เราจึงได้เห็นการเกิดของแพลทฟอร์มใหม่ในชื่อ Tuk Tuk Pass (ตุ๊ก ตุ๊ก พาส) กับเป้าหมายในการเป็นศูนย์รวมเรื่องการท่องเที่ยว เชื่อมโยงทั้งนักเดินทางและภาคธุรกิจเข้าด้วยกัน พร้อมกับเป้าหมายในการระดมทุนครั้งใหญ่ระดับโลกในกลุ่ม Tourism Platform
“แพลทฟอร์มของเราคือ Total Solution จากเดิมที่การใช้งานแต่ละบริการต้องมีแอปพลิเคชั่นแยกออกจากกัน เช่น บริการเรียกรถ ร้านอาหาร แต่แพลทฟอร์มของเรารวมทุกอย่างอยู่ด้วยกัน ผ่าน 3 แพลทฟอร์ม คือ คีออส , เว็บไซต์ , แอปพลิเคชั่น เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวและเชื่อมโยงบริการให้เข้าถึงผู้ใช้งาน ด้วยแนวคิดพ้องเสียงคำว่าตุ๊กตุ๊ก เป็น ทุกทุก ซึ่งหมายความว่า พาสของทุกอย่าง ทำให้การเดินทางของทุกคนสะดวกขึ้นและคนที่ยังไม่เคยเดินทางก็สามารถเริ่มต้นการเดินทางได้จาก Tuk Tuk Pass” คุณปรางพิสุทธิ์ แดงเดช Co-Founder, CEO อธิบายถึงคอนเซปต์ของ Tuk Tuk Pass
ปั้นแพลทฟอร์มการท่องเที่ยว สู่ Lifestyle Social Network
นอกจากความสะดวกในการใช้งาน Tuk Tuk Pass ที่ผู้บริโภคไม่ต้องดาวน์โหลดหรือใช้งานหลายๆ แอปสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวแล้ว เรายังตั้งเป้าหมายในการเป็น Lifestyle Social Network ให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งจะให้ประโยชน์ในการใช้งานได้อย่างครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ปักหมุดเป็น ICO ใหญ่สุดในโลก
เราต้องการระดมทุนผ่าน ICO (การเสนอขายเหรียญระยะเริ่มต้น) ซึ่งถือเป็นช่องทางการระดมทุนที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีโอกาสจากคนทั่วโลก โดยแบ่งประเภทเหรียญเป็น TTP-A (ใช้สำหรับ) เพื่อรับเหรียญ TTP-C (เหรียญสำหรับใช้จ่ายภายในแพลทฟอร์ม) ซึ่งจะได้รับเหรียญ TTP-C ทุกไตรมาสที่ 4 ซึ่งได้มีการ Pre ICO ไปเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถขายไปแล้วกว่า 2 ล้าน Token โดยผู้สนใจลงทุนสามารถเข้าไปที่ tuktukpass.co มีขั้นต่ำการลงทุนอยู่ที่ 100 เหรียญ (มูลค่า 1 TTP-A = 1 เหรียญสหรัฐ) นอกจากนี้ยังมีการมอบ Token แก่ผู้ที่ทำรีวิวที่เป็นประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวอื่นๆ บนแพลทฟอร์มของเราเพื่อนำไปแลกรับ Rewards ต่างๆ ภายในแพลทฟอร์มของเราด้วย
นอกจากนี้ เรายังตั้งเป้ามูลค่า ICO ของ Tuk Tuk Pass ไว้ที่ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะแบ่งการระดมทุนออกเป็น 10 เฟส ครั้งละ 70 ล้าน Token ซึ่งจะถือเป็นการเสนอขาย ICO ที่ใหญ่ที่สุดบน Tourism Platform
ประเดิม 4 ประเทศนำร่อง
โดยในช่วงแรก Tuk Tuk Pass จะเปิดให้บริการรวม 10 เมือง ใน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งคาดว่าจะเข้าถึงนักท่องเที่ยวประมาณ 110 ล้านคนในปีนี้
Kiosk จะไม่ใช่แค่ตู้ให้บริการข้อมูล
จากการมีคีออสเป็นหนึ่งในช่องทางการให้บริการทางข้อมูล แต่เราจะพัฒนาให้คีออสสามารถรองรับรูปแบบการชำระเงินได้ด้วย ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต และ Cryptocurrency เพื่อพร้อมรับพฤติกรรมนักท่องเที่ยว คนรุ่นใหม่ ซึ่งชื่นชอบการใช้จ่ายอย่างสะดวกและให้บริการ Blockchain Kiosk รูปแบบเรียลไทม์
ส่วน คุณศรัณญ์พงศ์ แดงเดช Co-Founder, Head of Systems Design ของ Tuk Tuk Pass กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้นักท่องเที่ยวทั่วโลกจะมีจำนวนถึง 1,200 ล้านคน แต่เราไม่ได้มองแค่โอกาสดังกล่าว เพราะยังมีผู้คนอีกกว่า 6,400 ล้านคนที่ยังไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศของตนเอง ดังนั้นทุกคนคือโอกาสของ Tuk Tuk Pass เรียกว่าทาร์เก็ตของเราคือผู้บริโภคทั้ง Local และ Global
ตั้งเป้าสร้างโอกาส พร้อมบริการทั่วโลก 100,000 Kiosk
เรามีเป้าหมายติดตั้งคีออสใน 100 เมืองท่องเที่ยวทั่วโลก รวมทั้งสิ้น 100,000 คีออส โดยจะติดตั้งอยู่ตามโรงแรมต่างๆ ซึ่งจะทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องจนครบจำนวนดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ยังมีเป้าหมายในการสร้างรูปแบบ Wallet รวมถึงการจับคู่กับภาคธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้าง API และให้บริการบนแพลทฟอร์มของเรา อาทิ ซิมการ์ด ไวไฟ หรือประกันภัยเพื่อการท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งจำนวน 100,000 คีออส จะกลายเป็นโหนดเพื่อต่อยอดบริการและรูปแบบใหม่ๆ ของเรา
ใช้ออนไลน์สร้างการรับรู้
สำหรับการขยายฐานลูกค้าในช่วงแรก บริษัทจะเน้นการทำโปรโมชั่นบริการ อาหาร เครื่องดื่ม เพื่อสร้างการรับรู้และดึงดูดใจผู้บริโภค รวมถึงใช้ช่องทางการโปรโมทผ่านสื่อออนไลน์
ทั้งนี้ ในเฟสแรก Tuk Tuk Pass จะเปิดให้บริการร่วมกับพาทเนอร์ด้านต่างๆ อาทิ การทำแพกเกจท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ โรงแรมที่พัก การเดินทาง ร้านอาหาร บริการทางด้านสุขภาพ บริการเลือกซื้อสินค้า ที่ปรึกษาทางธุรกิจ การให้บริการอินเทอร์เน็ตสำหรับนักท่องเที่ยว ประกันการเดินทาง กิจกรรมพิเศษ การจองตั๋วคอนเสิร์ต การศึกษา ให้บริการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และการแลกเงิน.
