กางยุทธศาสตร์ “ttb 2023” เส้นทางสู่ “Top 3 ดิจิทัลแบงก์กิ้ง” ครองใจมนุษย์เงินเดือน-คนมีรถ-มีบ้าน

หลังจาก “ทีเอ็มบี” (TMB) และ “ธนชาต” รวมกิจการเป็น “ทีเอ็มบีธนชาต” หรือ “ttb” ที่ต่างดึงจุดแข็งของตัวเองมา synergy โดยธนชาตมีความแข็งแกร่งในตลาดสินเชื่อรถยนต์ ขณะที่ทีเอ็มบี มีฐานแข็งแรงในตลาดผลิตภัณฑ์เงินฝาก ทำให้เปลี่ยนจากธนาคารขนาดกลาง เป็น 1 ใน 6 ธนาคารขนาดใหญ่ในไทย และมีฐานลูกค้ากว่า 10 ล้านราย พร้อมทั้งประกาศ Corporate Purpose เป็น “The Bank of Financial Well-being” หรือธนาคารที่มุ่งมั่นช่วยสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ

ในปี 2565 “ttb” ยังคงเดินหน้าตาม purpose ดังกล่าว ภายใต้ 3 กลยุทธ์สำคัญ คือ Synergy Realization ต่อยอดจุดแข็งรวมกิจการ – Digitalization เดินเกมรุกยกระดับดิจิทัลแบงก์กิ้ง – Ecosystem Play สร้างชีวิตการเงินให้มนุษย์เงินเดือน คนมีรถ มีบ้าน และมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น

ปี 2565 กำไร 14.2 พันล้านบาท “สินเชื่อ – เงินฝาก – ยอดบัตรใหม่” โต

เมื่อดูความสำเร็จในปี 2565 ของ “ttb” ได้นำเสนอ solutions ทางการเงินที่ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าองค์กร/ผู้ประกอบการ และลูกค้าบุคคล สามารถสร้างการเติบโตให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ และด้านผลประกอบการ

ผลิตภัณฑ์ ปี 2565

– เงินฝาก มูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท เติบโต 4.5%

– ยอดเปิดบัตรใหม่

เครดิตการ์ด จำนวน 76 แสนใบ โต 112%
แฟลชการ์ด จำนวน 01 แสนใบ โต 492%

– สินเชื่อบุคคล มูลค่า 22.9 หมื่นล้านบาท โต 71%

– สินเชื่อบ้านแลกเงิน มูลค่า 6.6 พันล้านบาท โต 151%

– สินเชื่อรถแลกเงิน จำนวน 6 หมื่นคัน โต 47%

– ประกันชีวิต มูลค่า 5.5 พันล้านบาท โต 26%

ผลประกอบการ ปี 2565

– รายได้ 65.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% จากปี 2021 ที่ทำได้ 65.5 พันล้านบาท

– กำไร 14.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.6% จากปี 2021 ที่ทำได้ 10.5 พันล้านบาท

– ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 30.0 พันล้านบาท ลดลง 4.1% จากปี 2021

– เงินตั้งสำรอง 18.4 พันล้านบาท ลดลงจากปี 2021 ซึ่งอยู่ที่ 21.5 พันล้านบาท

– อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลงจาก 48% ในปี 2564 มาอยู่ที่ 45%

– อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) 2.7%

“กว่า 3 ปี นับตั้งแต่เริ่มรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนชาต จนมาเป็น ‘ทีเอ็มบีธนชาต’ ธนาคารได้ประกาศถึงเจตนารมย์ที่จะเป็น The Bank of Financial Well-being หรือธนาคารที่มุ่งมั่นช่วยสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ

โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั่วโลกต้องประสบกับปัญหาความผันผวนทางเศรษฐกิจ ถึงแม้วันนี้ปัญหา COVID-19 เริ่มเบาบางลง แต่บาดแผลทางเศรษฐกิจที่ทิ้งไว้ยังคงอยู่ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อ

คนไทยเองต้องประสบปัญหาเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้นที่กระทบต่อกำลังซื้อ ทำให้ประชาชนที่มีปัญหาด้านสภาพคล่อง หรือมีหนี้เดิมอยู่เกิดความยากลำบากทางด้านการเงินมากขึ้น ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนแตะระดับสูงถึง 86.8% ของ GDP ในไตรมาส 3/2565

จากสถานการณ์ที่ต้องเผชิญทำให้พันธกิจของธนาคารเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการจะได้รับและคาดหวังให้ธนาคารสามารถทำให้เป็นจริงขึ้นได้” คุณปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) ฉายภาพความท้าทายของเศรษฐกิจโลก และประเทศไทย

ttb Strategy 2023 — คุณปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb)

พร้อมขยายความเพิ่มเติมว่าตั้งแต่รวมกิจการ ttb ได้ส่งมอบชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าผ่านโซลูชันทางการเงินรูปแบบต่างๆ เช่น

– คนไทยกว่า 2 ล้านรายได้รับความคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุฟรี ผ่านบัญชี ttb all free รวมค่าดูแลรักษาพยาบาลละครอบครัวลูกค้ากว่า 110 ล้านบาท

– ช่วยลูกค้าที่มีหนี้ ทำการรวบหนึ้ (Debt Consolidation) เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ราว 2,000 ราย ประหยัดดอกเบี้ยไป 270 ล้านบาท และเพิ่มสภาพคล่อง ด้วยสินทรัพย์บ้านกว่า 9.2 พันล้านบาท

– ช่วยลูกค้าเริ่มลงทุนผ่าน ttb smart port รวม 2 หมื่นล้านบาท โดยมากกว่า 2,000 ราย ลงทุนสม่ำเสมอแบบ DCA

– ลูกค้ามีความคุ้มครองที่เหมาะสมผ่านผลิตภัณฑ์ประกัน ทั้งประกันสุขพา 20,000 กรมธรรม์, ประกันการออม 26,500 กรมธรรม์ และประกันคุ้มครองชีวิต 295,000 กรมธรรม์

“ตัวเลขเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเรามาถูกทางแล้ว แต่เราอยากไปต่อ ดังนั้นในปี 2566 มี 3 แกนที่เราโฟกัสคือ Synergy Realization, Digitization, Ecosystem Play”

ยุทธศาสตร์ “ttb” ตั้งเป้า Top 3 ดิจิทัลแบงก์กิ้ง

สำหรับในปี 2566 “ttb” ได้วาง 3 กลยุทธ์หลักที่จะนำพาไปสู่การเป็น Top 3 ดิจิทัลแบงก์กิ้งในประเทศไทย

1. Synergy Realization: การนำจุดแข็งและความแข็งแกร่งจากการรวมกิจการมาต่อยอดพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้า

หลังรวมกิจการทำให้ ttb มีความแข็งแกร่งด้วยฐานลูกค้ากว่า 10 ล้านราย สะท้อนได้จากผลประกอบการปี 2565 ของธนาคาร ทั้งกำไรสุทธิ และได้รับผลประโยชน์ด้านค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากการรับรู้ Cost Synergy ของการรวมกิจการ ทำให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลง

“วันนี้ธนาคารถือว่ามีความพร้อมทั้งศักยภาพที่แข็งแกร่งและงบประมาณในการลงทุน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า

จากเดิมที่ธนาคารมีสินเชื่อรถ สินเชื่อบ้าน บัญชีเพื่อใช้ เพื่อออม และบัญชีเงินเดือน เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าในตลาด ขณะที่ปีนี้ ttb จะต่อยอดจุดแข็งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปสู่สินเชื่อรถแลกเงิน (ttb cash your car) สินเชื่อบ้านแลกเงิน (ttb cash your home) สินเชื่อ ttb payday loan และกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถ

โซลูชันเหล่านี้นอกจากจะมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นแล้ว ยังจะสามารถช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาสภาพคล่องภายใต้เศรษฐกิจผันผวนของปีนี้ได้ด้วย”

2. Digitalization: การยกระดับประสบการณ์ทางการเงินและพัฒนาประสิทธิภาพของธนาคารผ่าน ttb touch เวอร์ชันใหม่

ttb มีเป้าหมายนำดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และขับเคลื่อนองค์กรให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนของธนาคาร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมีเป้าหมายก้าวสู่การเป็น “Top 3 Digital Banking Platform”

คุณปิติ ขยายความ่า วันนี้ธนาคารมุ่งยกระดับและขยายขีดความสามารถของ ttb touch ให้ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละรายได้อย่างรอบด้าน ซึ่ง ttb touch เวอร์ชันใหม่ได้เปิดตัวไปเมื่อไตรมาส 2/2565 และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างมาก จำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 46% และจำนวนรายการธุรกรรมบนแอปเติบโตขึ้น 25%

“ถึงแม้ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ttb touch เกิดปัญหาขัดข้อง ณ วันนั้นยอมรับว่าเรายังมือใหม่กับบริการ Mobile Banking การดีไซน์ยังไม่ดีพอ เรามองข้ามบางอย่างไป พอระบบล่ม ทีมงานได้เร่งปรับปรุงแก้ไข ซึ่งพอเจอจุดที่เป็นปัญหา ก็แก้ไขได้ถูกทาง

ถือเป็นบทเรียนราคาแพงให้กับเรา ทางแบงก์ชาติก็เข้าใจว่าเป็นน้องใหม่ Mobile Banking ซึ่งแบงก์ใหญ่ผ่านจุด Growing Pain และเกิดการเรียนรู้กันมาแล้ว เราก็รับ Growing Pain ประสบการณ์ราคาแพง และวางแผนพัฒนาความสามารถในการรองรับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง

โดยปัจจุบันนี้แอปมีความเสถียรและสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญด้วยศักยภาพของ ttb touch เวอร์ชันใหม่ทำให้ธนาคารสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงโปรโมชันต่าง ๆ ให้กับลูกค้าแบบ 1 ต่อ 1 หรือ Segment-of-One ยกระดับการให้บริการลูกค้าได้

ธนาคารจะเดินหน้าพัฒนาองค์กรให้เป็น Digital-First Experience เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมส่วนใหญ่ได้เองผ่าน ttb touch เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ในขณะที่พนักงานสาขาจะมีบทบาทสำคัญในการเป็น Trusted Advisor ให้คำปรึกษา แนะนำและให้บริการลูกค้าบนผลิตภัณฑ์และบริการที่ซับซ้อน”

3. Ecosystem Play: การสร้างชีวิตทางการเงินของลูกค้าบัญชีเงินเดือน มีรถ มีบ้านให้ดีขึ้นรอบด้าน

ttb เดินหน้าสร้างการเติบโตด้วย New Business Model มุ่งเน้น 3 กลุ่มลูกค้า

– มนุษย์เงินเดือน

– กลุ่มคนมีรถ

– กลุ่มคนมีบ้าน

เพราะเป็น 3 กลุ่มหลักที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญและมีฐานลูกค้าเป็นแต้มต่อ โดยธนาคารจะต้องเข้าไปอยู่ในชีวิตของลูกค้าตลอด Journey และช่วยให้ชีวิตของลูกค้าสามารถบริหารจัดการเรื่องสำคัญได้อย่างรอบด้าน และเน้นการทำงานจากทีมภายใน และร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำภายนอก (Partnership)

โดยมี ttb touch เป็นตัวขับเคลื่อนให้ลูกค้าบริหารจัดการชีวิตได้อย่างครบวงจร อาทิ สำหรับคนมีรถจะสามารถบริหารจัดการทุกเรื่องเกี่ยวกับรถ เช่น จ่าย-เช็คยอดสินเชื่อรถ ต่อประกันภัยรถและพรบ. เติมเงิน-เช็คยอดบัตรทางด่วน Easy Pass ค้นหาโปรโมชันเกี่ยวกับการดูแลรถ สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน แม้กระทั่งการขายรถแบบ e-auction ทุกอย่างสามารถทำบนฟีเจอร์ “My Car” บนแอป ttb touch ได้อย่างสะดวก

“ปัจจุบัน Top 3 Digital Bank คือ กสิกรไทย, กรุงไทย, ไทยพาณิชย์ ส่วนสองธนาคารใหญ่คือ กรุงเทพ กับกรุงศรี มีฐานลูกค้าใช้ Mobile Bank มากกว่าเรา ดังนั้นถ้าเราจะขึ้น Top 3 แปลว่าเราจะหายใจรดต้นคอรายใหญ่ แต่การเป็น Top 3 ในทีนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปแทนที่ใคร แต่เราสามารถอยู่กับธนาคารอื่นได้ในระดับเดียวกัน

อย่างวันนี้เราเห็นคนทำงานใช้ payroll ผ่าน ttb พอเงินเดือนเข้าบัญชี เขาถอนออกไปเข้าธนาคารที่ตัวเขาเองคุ้นเคยกว่า เพราะฉะนั้นด่านแรกทำอย่างไรให้เราตีคู่กับ Top 3 เช่น เราอาจมีข้อเสนอให้ดอกเบี้ยเงินฝากที่ดีกว่า เป็นต้น นี่คือสิ่งที่จะทำให้เราสามารถก้าวเป็น Top 3 Digital Bank ที่ทำให้ลูกค้ามี Financial Well-being ดีขึ้น และเมื่อใช้แล้วเขาจะบอกต่อเพื่อน” คุณปิติ ขยายความเพิ่มเติมถึงเป้าหมายใหญ่

สร้างทีม Tech & Data

นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการแล้ว อีกสิ่งที่ ttb ให้ความสำคัญและเร่งทำคือ การเตรียมความพร้อมบุคลากร เพื่อให้สามารถร่วมกัน Transform องค์กรได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเพิ่มศักยภาพและจำนวนทีมงานด้าน Tech & Data ให้มากขึ้น

ที่ผ่านมา ttb ได้จัดตั้งทีมดิจิทัล ttb spark และ ttb spark academy เพื่อที่มุ่งเน้นเรื่องการสร้าง Talent รุ่นใหม่ที่มีความสามารถสอดรับกับโลกธุรกิจผ่านการขับเคลื่อนนวัตกรรมและดิจิทัลโซลูชัน

โดยปัจจุบันมีทีมงาน ttb spark มากกว่า 400 คน ดูแลทั้งในส่วนของฝั่ง Tech และ Beyond Banking Business พร้อมผลักดันและพัฒนาแอป ttb touch ให้มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ขณะที่ด้าน ttb spark academy ได้มีกิจกรรมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นนำและมีนักศึกษาเข้ามาฝึกงานด้วยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้จัดกิจกรรม ttb hackathon: Financial Well-being for Thais ซึ่งมีผู้ร่วมสมัครมากกว่า 100 ทีม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ในกลุ่มเด็กรุ่นใหม่เพื่อให้ Talent เหล่านี้สนใจร่วมงานกับธนาคารในอนาคต

“ด้วยศักยภาพของ ttb ที่มีความพร้อมในทุกด้าน ณ วันนี้ ผนวกกับกลยุทธ์ทั้ง 3 ด้าน จะสามารถทำให้ปีนี้ เราจะยังคงเดินหน้าไปสู่การเป็นธนาคารที่ Make REAL Change เพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง” คุณปิติ สรุปทิ้งท้าย