ความคืบหน้ากรณีข้อมูลบัตรประชาชนลูกค้าของทรูมูฟ เอช หลุด วันนี้(18 เม.ย.2561 )ทาง กสทช.ได้มีหนังสือแจ้ง ทรูมูฟ เอช รับผิดชอบและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้บริการทั้งทางแพ่งและอาญา พร้อมกับให้เร่งทำแผนและรายงาน หากฝ่าฝืนจะถูกปรับวันละ 2 หมื่นบาท
หลังจากเมื่อวันที่ 17 เม.ย.2561 ที่ผ่านมา ทาง กสทช. ได้เรียก ทรูมูฟ เอช มาชี้แจงกรณีข้อมูลบัตรประชาชนลูกค้าหลุด ล่าสุดเมื่อ 18 เม.ย.2561 ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ได้เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือถึงบริษัท เรียล มูฟ จำกัด เรื่อง ให้ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม อาศัยอำนาจตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มีคำสั่งให้ บริษัทฯ ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน แก้ไขปรับปรุง และปฏิบัติให้ถูกต้องเหมาะสม ในเรื่องดังต่อไปนี้
1. จัดให้มีมาตรการป้องกันและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลทั้งทางด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรในรูปแบบที่เหมาะสมกับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยอย่างน้อยต้องปรับระดับรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นตามการพัฒนาทางเทคโนโลยี และให้มีการตรวจสอบระบบการรักษาความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของข้อมูล
2. จัดให้มีช่องทางการตรวจสอบจากประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
3. ให้บริษัท เรียล มูฟ จำกัด รับผิดชอบและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นในทางแพ่งและทางอาญา
4. ให้รายงานผลการดำเนินการตามคำสั่งตามข้อ 1. 2. และ 3. มายังสำนักงาน กสทช. ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ และรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามคำสั่งนี้เป็นระยะๆ ทุก 15 วัน
หากบริษัท เรียล มูฟ จำกัด ไม่ดำเนินการตามคำสั่งนี้ เลขาธิการ กสทช. จะใช้มาตรการบังคับทางปกครองกำหนดค่าปรับทางปกครองตามกฎหมายไม่ต่ำกว่าสองหมื่นบาทต่อวัน ตามมาตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ทั้งนี้ บริษัท เรียล มูฟ จำกัด มีสิทธิโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวได้โดยยื่นอุทธรณ์ต่อ กสทช. ภายในระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ ตามมาตรา 65 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544
นอกจากนี้ กสทช. ได้ส่งหนังสือถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่นๆให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรด้วยเช่นกัน