ดูเหมือนเรื่องราวการหลอกลวง เพื่อล้วงข้อมูลส่วนบุคคลหรือทั้งที่ประสงค์ต่อทรัพย์สิน จะกลายเป็นภัยร้ายเข้าใกล้ตัวพวกเราได้ง่ายและมากขึ้น แม้จะเคยได้ยินกระแสข่าวมาแล้วหลายครั้ง แต่คราวนี้เหล่ามิจฉาชีพลองดี! ด้วยการสวมรอยเป็นคอลล์เซ็นเตอร์จาก True ผู้ให้บริการเครือข่าย โทรหลอกลูกค้าว่าจะถูกตัดสัญญาณโทรศัพท์ โดยให้ทำการยืนยันตัวตนด้วยหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งล่าสุดทาง True ได้ออกประกาศชี้แจงและเตือนภัยถึงเรื่องดังกล่าว ดังนี้…
“เนื่องจาก ขณะนี้เริ่มมีลูกค้าติดต่อสอบถามมายังศูนย์บริการทรู เรื่องมีเบอร์โทรศัพท์ในระบบอัตโนมัติติดต่อเข้าหาลูกค้าอ้างเป็นศูนย์บริการลูกค้าทรู จะระงับการใช้เบอร์เนื่องจากไม่ชำระค่าบริการ พร้อมให้ยืนยันตนโดยใส่หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ทรูจึงขอเรียนให้ลูกค้าทราบว่า คอลล์เซ็นเตอร์ของกลุ่มทรูที่จะติดต่อแจ้งเรื่องยอดค่าบริการค้างชำระ จะไม่มีการขอให้ลูกค้าต้องใส่หมายเลขบัตรประชาชนใดๆ ทั้งสิ้น หากมีการแอบอ้างว่าเป็นศูนย์บริการลูกค้าทรู และขอให้บอกหรือกดเลขบัตรประชาชน ขออย่าได้หลงเชื่อให้ข้อมูลใดๆ หรือทำตามขั้นตอนของเหล่ามิจฉาชีพ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัย ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามด้วยตนเองมายังหมายเลข 1242”
สำหรับยุคนี้ แบรนด์คงต้องเร่งหาวิธีพัฒนาช่องทางป้องกันการสวมรอยหรือถูกเจาะเข้าสู่ระบบ ซึ่งผู้ไม่หวังดีอาจฉวยโอกาส…ใช้สร้างความเข้าใจผิด หลอกลวงผู้บริโภค หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจและภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ แต่ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคก็จำเป็นจะต้องมีความรู้พื้นฐาน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเองและไม่ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพด้วยเช่นกัน.
