หลังกรณี Huawei ถูกสงครามการค้าเล่นงานจนถึงขนาดถูก Google และพันธมิตรสัญชาติอเมริกันตัดความสัมพันธ์ ดูเหมือน DJI อีกหนึ่งบริษัทจีนที่ไปเติบโตในดินแดนสหรัฐฯ ก็ถูกจับตาด้วยเรื่องความมั่นคงของชาติที่ดูเหมือนสหรัฐฯ จะเชื่อว่าข้อมูลต่างๆ ถูกส่งไปให้ประเทศจีน ขณะที่ DJI ยืนยันข้อมูลทั้งหมดอยู่ในสหรัฐฯ
Trade War Impact
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนคงลุ้นระทึกโดยเฉพาะผุ้ใช้สมาร์ทโฟนแบรนด์ Huawei ที่ตอนแรกมีทีท่าว่าจะไม่สามารถใช้งานแอปฯ ต่างๆ ของ Google ได้ ซึ่งต่อมามีการผ่อนปรนให้เล็กน้อย รวมไปถึงการถูกตัดสัมพันธ์กับเหล่าผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ จน Huawei ต้องออกมาแก้ลำและแสดงความพร้อมหากถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิงจริง
ซึ่งทั้งหมกเกิดจากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ที่ให้บริษัทสัญชาติอเมริกันตัดขาดและยุติการค้ากับทางการจีน เพื่อตอบโต้หลังจากที่เกิดปะทะกันทางด้านนโยบายภาษีของทั้งสหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไปจากหลายคนเกรงจะก่อให้เกิดสภาวะเหมือนยุคสงครามเย็นในอดีต
ล่าสุด อีกบริษัทจีนที่ส่อแววว่ากำลังจะถูกเล่นงานจากนโยบายดังกล่าว เห็นจะหนีไม่พ้น DJI ผู้ผลิตโดรนรายใหญ่ระดับโลกจากจีน โดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่ชาวจีนของ DJI อาจส่งข้อมูลเที่ยวบินที่มีผลต่อความมั่นคงกลับไปยังบริษัทแม่ในประเทศจีนและอาจส่งถึงรัฐบาลจีนด้วย
ด้านบริษัทแม่ของ DJI ที่เสิ่นเจิ้นชี้แจงว่า ข้อมูลต่างๆ จะถูกจัดเก็บและผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานต่างๆ ได้ ขณะที่การถ่ายภาพหน่วยงานภาครัฐหรือพื้นที่ความมั่นคงต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น โดย DJI ยืนยันไม่มีการส่งข้อมูลใดผ่านการระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ใช้งานโดรนสามารถศึกษาข้อควรระวังตามคำแนะนำจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ
นอกจากนี้บริษัทสัญชาติอเมริกันและหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ มีการใช้งานโดรน DJI เพื่อปฎิบัติภาระกิจช่วยเหลือ ช่วยให้คนทำงานมีความปลอดภัย และเป็นฝ่ายสนับสนุนในการปฏิบัติงานที่สำคัญๆ นั่นทำให้ DJI ดำเนินธุรกิจภายใต้ความรับผิดชอบอย่างจริงจัง
ตามที่สำนักข่าว CNN รายงาน จากการเตือนของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ที่ระบุว่าโดรนที่ผลิตจากบริษัทจีนมีความเสี่ยงที่จะเกิดการรั่วไหลของข้อมูลองค์กร โดยระบุว่าโดรนที่ผลิตจากบริษัทจีนมีการติดตั้งอุปกรณ์ส่งถ่ายข้อมูลอัตโนมัติไปยังเซิฟเวอร์ที่คนอื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นด้วย แม้จะไม่มีการระบุชื่อบริษัทออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ DJI ครองส่วนแบ่งตลาดโดรนถึง 80% ในสหรัฐฯ และแคนนาดา
มีการระบุว่าคำเตือนของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ เกิดจากคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการห้ามบริษัทสัญชาติอเมริกันทำการค้ากับจีน ปัจจุบันโดรนในสหรัฐฯ ถูกใช้เพื่อถ่ายภาพทางอากาศ, การเกษตร, การสำรวจและทำแผนที่ทางธรณีวิทยา, สำรวจระบบไฟฟ้า, การตรวจสอบท่อส่งน้ำมันและปิโตรเลียม, การขนส่ง, การก่อสร้าง, การรักษาความปลอดภัยสาธารณะและ การบรรเทาภัยพิบัติ
โดย Gartner วิเคราะห์รายได้จากตลาดโดรนทั่วโลกคาดว่าจะเกิน 1.12 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3.47 แสนล้านบาทในปี 2563
ไม่รู้ว่างานนี้ GoPro จะแอบดีใจหรือเปล่า!!!
Source: China Daily