สถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นประวัติศาสตร์ของโลกที่ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างร้ายแรงและยังก่อให้เกิดพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หลายปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น เช่น รถจักรยานยนต์สีสันคัลเลอร์ฟูลจากบริการ Food Delivery ที่อยู่บนท้องถนน หรือปรากฏการณ์ห้างสรรพสินค้าร้างผู้คน
ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้คนที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการพยายามลดการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง รวมไปถึงการสนับสนุนมาตรการหยุดแพร่เชื้อด้วยการอยู่ที่บ้าน พร้อมด้วยมาตรการ Work from Home ที่ช่วยให้หลายคนอยู่แต่ในบ้านก็สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ ทำให้โอกาสการเดินทางของผู้คนลดลง รวมถึงในบ้านเรายังมีกลุ่มคนอีกจำนวนไม่น้อยที่มีรถแต่ใช้งานน้อยหรือบางคนมีรถหลายคันบางคันจอดไว้เฉยๆ หรือมีไว้แค่รับส่งลูกไปกลับบ้าน-โรงเรียนเท่านั้น
โดยมีการเปิดเผยข้อมูลจาก Google Mobility ที่มีการสำรวจสถิติข้อมูลการเดินทางของคนไทยพบว่า แนวโน้มการเดินทางไปยังร้านกาแฟ ร้านอาหาร ศูนย์การค้า ลดลงกว่า 31% ส่วนการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ รถประจำทาง รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ลดลงสูงถึง 62% ขณะที่การเดินทางไปที่ทำงาน ลดลงเพียง 10% การเดินทางไปยังสวนสาธารณะ ท่องเที่ยว ตลาดนัด ลดลงมากถึง 53% แต่การเดินทางไปยังร้านขายของชำ ร้านขายยา ตลาดชุมชนที่มีระยะทางสั้นๆ กลับเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 3% และการอยู่ภายในที่พักอาศัยเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 10%
ข้อมูลตัวเลขจาก Google Mobility ดังกล่าว กำลังสะท้อนให้เห็นถึงการใช้รถยนต์ของคนไทยว่า มีแนวโน้มลดลงตามการใช้ชีวิตแบบใหม่ในโลกหลังโควิด นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่า คนไทยนิยมเดินทางไปในจุดใกล้ที่พักซึ่งแทบจะไม่จำเป็นต้องใช้ รถยนต์ ที่สำคัญสะท้อนให้เห็นถึงอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ลดลงอีกด้วย
แม้ว่าพฤติกรรมการใช้รถของคนจะเปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งหนึ่งที่ยังมั่นคงและไม่เคยเปลี่ยนแปลงตามคือ อัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ และดูเหมือนจะไม่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุค Next Normal นั่นจึงทำให้ TQM ผู้ให้บริการประกันภัย ต้องกลับมาแก้โจทก์เมื่อใช้รถยนต์มีการใช้งานน้อยลง ประกันรถยนต์ทำไมยังต้องจ่ายเท่าเดิม แล้วจะทำอย่างไรให้ยังคงคุ้มครอง 24 ชั่วโมง
TQM จึงเกิดโซลูชั่นการประกันภัยใหม่เพื่อผู้บริโภคในยุคโควิดกับ “ประกันรถยนต์เติมเงิน” ประกันภัยรถยนต์ที่สามารถซื้อประกันตามระยะทางที่ใช้จริง สามารถซื้อเติมได้ตามการใช้งาน โดยประกันรถยนต์เติมเงินจะมาพร้อมกับนวัตกรรม UBI (Usage Base Insurance) แพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเชื่อมโยงการประกันภัยกับข้อมูลพฤติกรรมการใช้รถของผู้บริโภค ช่วยให้สามารถวัดระยะทางการขับขี่
โดยในครั้งนี้ TQM ได้ร่วมมือ กับ AIS ในการนำแพลตฟอร์มมาพัฒนาเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการขับรถ ภายใต้ชื่ออุปกรณ์ TQM UBI Connect ซึ่งจะช่วยวัดระยะทางในการขับขี่แต่ละวัน ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เข้ากับตัวรถผ่านช่อง USB แล้วลงทะเบียนเข้าใช้งานผ่าน LINE โดยอุปกรณ์นี้สามารถอัพเดทเลขไมล์ตามจริง และแจ้งเตือนให้ลูกค้าคอยอัพเดทเลขไมล์เป็นระยะๆ รวมถึงระบบแจ้งเตือนเมื่อประกันจะหมดตามระยะทางที่ทำประกันไว้ โดยสามารถเข้าไปเติมไมล์ได้จากระบบที่รองรับไว้
ประกันรถยนต์เติมเงินยังเหมาะกับการเดินทางแบบระยะสั้น เช่น ถ้าต้องเดินทางแค่ 10 กิโลเมตร แต่ดันเจอสภาพการจราจรรถติดขัดยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง ประกันเติมเงินก็คิดเบี้ยประกันภัยแค่ 10 กิโลเมตรเท่านั้น
ประกันรถยนต์เติมเงิน คือประกันภัยชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองทั้งกรณีรถชนรถ กรณีเกิดความเสียหายกับตัวรถ กรณีรถน้ำท่วม กรณีไฟไหม้รถ รวมถึงคุ้มครองกรณีได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยเบี้ยประกันเริ่มต้นจ่ายเพียง 4,900 บาท สามารถคุ้มครองระยะทางได้ไกลถึง 5,000 กิโลเมตรต่อปี ขณะที่ประกันภัยชั้น 1 ทั่วไปปกติต้องจ่ายเบี้ยเป็นหมื่นต่อปี
อีกหนึ่งจุดเด่นของอุปกรณ์ TQM UBI Connect นี้แม้ในอนาคตลูกค้ามีการเปลี่ยนบริษัทประกันภัยก็ยังสามารถใช้อุปกรณ์ร่วมกับบริษัทประกันรายอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ ในอนาคต TQM ยังได้เตรียมพัฒนาเพิ่มรูปแบบการให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ถือเป็นครั้งแรกที่ประกันรถยนต์ออกแบบมาเพื่อใช้งานในรูปแบบแบบเติมเงิน ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้าในภาวะที่ต้องวางแผนการใช้เงินอย่างรัดกุม
ประกันรถยนต์เติมเงิน มาพร้อมแบบประกันให้ผู้บริโภคได้เลือกหลากหลายจากพันธมิตรบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการทั้ง ทิพยประกันภัย เมืองไทยประกันภัย MSIG และ ไทยวิวัฒน์ โดยแพกเก็จราคาเริ่มต้นเพียง 4,900 บาท สามารถเลือกเติมระยะไมล์ได้ 5,000 กิโลเมตร/ปี เลือกแพกเก็จที่เหมาะกับการขับขี่ได้ด้วยตนเองผ่านออนไลน์ที่ www.tqm.co.th หรือ Line Official TQM Insurance Broker