เทรนด์การใช้จ่ายแบบ Cashless ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาไปเสียแล้ว เพราะการเติบโตของ e-Commerce ผสานกับเทคโนโลยีที่รวดเร็วและปลอดภัย อย่างสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มีระบบสแกนลายนิ้วมือและใบหน้าผสานเทคโนโลยี 5G ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมการไม่ใช้เงินสด ทั้งความเสี่ยงจากการเกิดอาชญากรรมและความเสี่ยงจากการสัมผัสเงินสดที่ไม่รู้ว่าไปผ่านมือใครมาบ้าง และมือเหล่านั้นปนเปื้อนอะไรมา
ปัจจุบันมีทั้งกลุ่มธุรกิจสถาบันการเงินและธนาคารต้องให้บริการในรูปแบบ Cashless มากขึ้น ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่แบงค์ (Non-Bank) ก็หันมาทำด้วยเช่นกัน TOYOTA Leasing ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ TOYOTA ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใชแบงค์ แต่ให้บริการ Cashless ในรูปแบบ TOYOTA Wallet ที่ช่วยให้การใช้จ่ายสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
โดย กระเป๋าเงินดิจิทัลจากโตโยต้า (TOYOTA Wallet) ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ให้อิสระแห่งการใช้จ่าย ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีผ่านแอปพลิเคชันแพลตฟอร์ม ในรูปแบบกระเป๋าเงินดิจิทัล (e-Wallet) ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าภายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ให้ความสะดวกสบาย และปลอดภัยในทุกการใช้จ่าย
ลูกค้าสามารถใช้ TOYOTA Wallet กระเป๋าเงินดิจิทัล ที่ใช้งานง่าย ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งในร้านค้าทั่วไปและร้านค้าออนไลน์ พร้อมทั้งยังสามารถเชื่อมต่อบัตรเครดิตและบัตรเดบิตเพื่อเติมเงิน โดยลูกค้าสามารถใช้จ่ายผ่าน TOYOTA Wallet เพียงมีบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์และแอปพลิเคชัน SCB Easy ได้แล้ววันนี้
นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นประเทศแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ที่มีการใช้ TOYOTA Wallet สำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สามารถใช้ได้ทั้งโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าและร้านค้าทั่วไป TOYOTA Wallet จะเป็นกุญแจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงจากบริษัทผลิตรถยนต์ไปสู่ “องค์กรแห่งการขับเคลื่อน (Mobility Company)” ช่วยให้โตโยต้าอยู่ในฐานะผู้นำการให้บริการที่เรียบง่ายแต่ปลอดภัยสำหรับทุกการใช้จ่าย
ซึ่งในอนาคต TOYOTA Wallet จะมีการพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มเติม เพื่อให้ TOYOYA Wallet เป็นมากกว่าช่องทางการชำระเงิน โดยจะร่วมมือกับผู้ให้บริการภายในประเทศ ซึ่ง TOYOTA Wallet มีเป้าหมายไปสู่การเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่สามารถใช้ได้ทุกที่ ทุกประเทศทั่วโลก
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน TOYOTA Wallet ได้จากระบบปฏิบัติการ Android ในช่วงเปิดตัว และมีแผนจะขยายไปสู่ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android เร็วๆ นี้ โดยผู้ที่สนใจจะต้องมีบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์และแอปพลิเคชัน SCB Easy เพียงลูกค้าลงทะเบียนครั้งแรกจะได้สิทธิพิเศษบัตรกำนัล Starbucks มูลค่า 100 บาท และส่วนลดค่าบริการหลังการขายมูลค่า 100 บาท เมื่อชำระค่าบริการภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดที่ศูนย์บริการโตโยต้าที่เข้าร่วมโครงการฯ
โดยภายในปี 2563 TOYOTA Wallet สามารถให้บริการเพื่อใช้จ่ายภายในศูนย์บริการโตโยต้าของผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และมีแผนที่จะขยายให้ครอบคลุมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศภายในปี 2564 รวมถึงร้านค้าจากเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังรวมถึงบริการต่างๆ ที่เป็นของ TOYOTA โดยจะมีการเชื่อมต่อระบบกับ T-Connect ของ TOYOTA
ทั้งหมดนี้ลองนึกภาพว่า ในอนาคตผู้ใช้ TOYOTA Wallet จะสามารถซื้อของออนไลน์ได้ รวมไปถึงชำระค่างวดรถยนต์ หรือแม้แต่การซื้อประภัยรถยนต์สามารถทำได้ง่ายบนแอปฯ เดียว แล้วถ้าวันหนึ่งมีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศก็สามารถใช้ TOYOTA Wallet ซื้อตั๋วเครื่องบินหรือแม้แต่จองที่พัก เช่ารถยนต์และซื้อของได้ทั่วทุกมุมโลก
นั่นหมายความว่า TOYOTA Wallet นอกจากจะเป็นกระเป๋าเงินอิเลคทรอนิกส์แล้ว ในอนาคตยังกลายเป็น Marketplace ขนาดเล็กเพื่อให้ธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายลูกค้า TOYOTA สามารถเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อนำเสนอบริการที่ตอบ Lifestyle ความต้องการผู้ใช้งานรถยนต์ TOYOTA และคงเป็นความสะดวกสบายที่หาได้ไม่ยากจาก TOYOTA