ปัจจุบันกลุ่มคนในรุ่น Gen X ที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2508 – 2522 เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของโลกในยุคนี้ เนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน กลุ่มคนเหล่านี้จึงเริ่มใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์ที่ใฝ่ฝัน และด้วยความเป็นตัวของตัวเองสูง ประกอบกับการไม่ชอบทำตามใคร ทำให้คนกลุ่มนี้มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันในแต่ละคน
ในช่วงที่ทุกคนต่างมองหาความสำเร็จ บางครั้งก็อาจหลงลืมความสำคัญในด้านอื่นๆ ในชีวิต จนเมื่อมองย้อนกลับไป จึงได้พบว่ายังมีหลายความฝันที่ยังไม่ได้ทำ กลับปล่อยปละละเลยและมองข้ามความสุขมากมายหลายอย่างในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องราวประทับใจของมิตรภาพดีๆ ที่ไม่เคยถูกลบเลือนไปตามกาลเวลา
โตโยต้าเลือกใช้การสื่อสารทางการตลาดผ่านรูปแบบ Emotional โดยใช้ Viral Movie Marketing หยิบเรื่องราวของกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน ช่วงวัย 30-45 ปี แต่ห่างหายในเรื่องของมิตรภาพและความฝันวัยเด็ก และใช้ Time Capsule ที่เป็นเหมือนคำสัญญาระหว่างเพื่อน เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เพื่อนทั้งสี่ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เป็นตัวดำเนินเรื่อง โดยมีรถฟอร์จูนเนอร์พาพวกเขาไปทำสิ่งที่ฝันไว้ร่วมกันในตอนเด็กให้สำเร็จ
ด้วยวิธีการนำเสนอแบบที่ทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกร่วม หวนกลับไปนึกถึงสมัยวัยเด็กและเพื่อนเก่าๆ ด้วย Mood & Tone สไตล์ Drama Comedy พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการถ่ายทำในสถานที่ Unseen ที่สวยงาม ทำให้เรื่องดูสนุกน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ เหมือนได้ร่วมเดินทางย้อนเวลาไปกับฝันวัยเด็ก ที่สำคัญยังช่วยกระตุ้นให้รู้สึกถึงความต้องการในการออกเดินทาง
พร้อมสอดแทรกจุดเด่นของ Fortuner ไว้ในเรื่องอย่างไม่ hard sale จนเกินไป ผ่าน Key Message หลักของแคมเปญที่ว่า “Best performance for all road conditions” ไม่ว่าเส้นทางจะเป็นอย่างไรก็สามารถไปได้ทุกที่ แสดงให้เห็นบทบาทของ Fortuner ที่พร้อมสนับสนุนให้ทุกความฝันและการเดินทางไปให้ถึงจุดหมายได่อย่างราบรื่น
ไวรัลคลิปนี้นอกจากจะให้อรรถรสในความสนุกและความประทับใจระหว่างกลุ่มเพื่อนด้วยกันแล้ว ยังได้เห็น Character ของ Fortuner ในมุมใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่รถยนต์อีกต่อไป แต่จะเป็นเสมือนเพื่อนร่วมเดินทางในทุกเส้นทางอีกด้วย
Fortuner – Time Travel