เพราะวัยรุ่นกับความรักและเพลงเป็นของคู่กัน! ถึงเป็นเหตุผลให้ว่าทำไม tinder แอปฯ เดทสุดฮอตกับแอปฯ เพลง spotify จึงมาจับมือกัน ในการทำให้ผู้ใช้แอปฯ tinder สามารถเอาเพลงมาเป็นสื่อแทนตัวตน และช่วยหาคนที่มีสไตล์เหมือนๆ กับเราได้
จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่าง 2 แอปฯ เริ่มมาจากการที่ทีมงานของ tinder พบสถิติน่าสนใจที่ว่ามีการแชร์เพลย์ลิสต์เพลงหวานๆ ให้กันและกันมาเป็นพิเศษในช่วงวาเลนไทน์ ทีมงานจึงคิดหาวิธีที่จะร่วมมือกับ tinder จึงออกมาเป็นฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย อาทิ
* ฟีเจอร์เพลงชาติของฉัน (Tinder Anthem) โดยในประวัติของแต่ละคน สามารถที่จะเลือก 1 เพลงประจำตัว เพื่อบอกคนทั้งโลกว่าเราเป็นคนแบบไหน ซึ่งสามารถเดาได้จาก แนวเพลง ภาษาของเพลง และเนื้อหาของเพลงเป็นต้น เช่น กำลังอกหัก จึงเลือกเพลงเศร้าๆ มาประดับโปรไฟล์ เป็นต้น
วิดีโอแนะนำฟีเจอร์ Tinder Anthem
httpv://youtu.be/f49Z0ZPBaWA
* หาคู่ผ่านเพลย์ลิสต์ที่เราทั้งสองมีเหมือนกัน และก่อนที่เราจะส่งข้อความทักใคร เมื่อเข้าไปดูประวัติเบื้องต้น เกี่ยวกับ ชื่อ เมืองที่อยู่แล้ว เรายังสามารถดูรายการเพลงโปรดที่เรากับเขามีเหมือนกันได้ เพราะทีมงานเชื่อว่า การที่สองคนมีเพลงโปรดเหมือนกัน “เพลง” นี่แหละที่จะเป็นหัวข้อการเปิดตัวสนทนาระหว่างคนสองคนได้เป็นอย่างดี
ดูวิดีโอแนะนำการหาคู่ผ่านเพลย์ลิสต์ที่เราทั้งสองมีเหมือนกันได้ที่นี่
httpv://youtu.be/chejm2-qI_c
ดูวิดีโอสัมภาษณ์ทีมงานของ tinder และ spotify เกี่ยวกับการร่วมมือกันช่วยคู่รักจับคู่ได้ผ่านเพลง ที่นี่
httpv://youtu.be/SgAbgI0Dlc4
ผลประโยชน์สุดท้ายของทั้ง 2 ฝั่งก็คือ tinder ได้มี content อย่างเพลงมาเป็นสะพานเชื่อม 2 คนเข้าหากัน นอกเหนือจากการใส่ประวัติส่วนตัวธรรมดาๆ ส่วน spotify เองก็จะได้มีโอกาสเพิ่มยอดคนสมัครสมาชิกมากขึ้นเพราะยิ่งเล่นแอปฯ tinder ก็ได้โอกาสรู้จักเพลงใหม่ๆ ที่อยู่ในประวัติและเพลย์ลิสต์ของคนอื่นด้วยนั่นเอง