ต้องยอมรับหลาย ๆ ไวรัลยุคนี้ ไม่ได้ถูกใจผู้บริโภคเพราะโปรดักชั่นอลังการ แต่บางครั้งก็เป็นเพียงไอเดียง่าย ๆ ที่สื่อสารตรงไปตรงมา หรือแม้แต่แนวตลกขำขัน ก็กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้คนได้ไม่ยาก ยกตัวอย่าง ไวรัล ‘เงินติดล้อ’ กับไอเดียบิลบอร์ดสุดกวนที่กลายเป็นไวรัล ให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียกดแชร์และเกิด Engagement ที่เป็นออร์แกนิค แต่ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของแบรนด์นี้ ที่สามารถสร้างความสำเร็จในการเป็นไวรัลถูกแชร์อยู่บนโซเชียลมีเดียและกลายเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคจดจำได้ดี
เรียนรู้กลยุทธ์ไวรัลแห่งปี อยากปัง…ต้องทำเหมือนไม่ตั้งใจ ?
แคมเปญล่าสุดของเงินติดล้อกลายเป็นกรณีศึกษาที่ Marketing Oops! อยากหยิบมาพูดถึง กับสุดยอดความครีเอทีฟที่แบรนด์ใช้ความกวนมาสื่อสารถึงธุรกิจการเงินและประกันภัย เช่น ข้อความที่ว่า “ขับรถมองถนน มาอ่านป้ายทำไม ไม่ระวังแบบนี้ ทำประกันติดล้อไว้ก่อนเลย”ประโยคสุดกวนจนสะดุดสายตาเช่นนี้ มีแต่คนที่อ่านไม่ทันเท่านั้น…ที่จะไม่หยุดอ่าน และกลายเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงกลายเป็นไวรัลเรียกแชร์ เรียก Engagement จากผู้ใช้โซเชียลมีเดียได้มากขนาดนี้ ผู้บริโภคแชร์ เพจใหญ่ เพจเล็ก ต่างพากันหยิบไปแชร์ต่อกัน ไม่ได้แค่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างผู้ใช้รถใช้ถนน ลูกค้าสินเชื่อทะเบียนรถ หรือลูกค้าประกันภัย แต่ยังกลายเป็น Mass ได้แบบเนียน ๆ กับลูกเล่นข้อความสุดกวน เรียกว่าเห็นตอนไหนก็ต้องมียกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพ หรือไม่ก็สะกิดให้คนข้าง ๆ ได้ขำไปด้วยกัน
แต่ถ้ามองในมุมคนครีเอทีฟ นักการตลาด หรือนักโฆษณา ก็รู้เลยว่าแคมเปญลักษณะนี้แบรนด์ต้องคิดมาแล้วเป็นอย่างดี เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า เงินติดล้อ ไม่ได้เพิ่งมีไวรัลนี้เป็นครั้งแรก ไม่ได้เพิ่งถูกพูดถึงไอเดียครีเอทีฟของสื่อโฆษณาไม่ว่าจะทั้ง OOH (Out of Home) หรือภาพยนตร์โฆษณาที่ปรากฎบนทีวีหรือสื่อออนไลน์ แต่ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มใด สุดท้ายมักจะกลับมาเป็นไวรัลอยู่บนโซเชียลมีเดียอยู่เสมอ
หากวิเคราะห์แค่แคมเปญล่าสุดกับแฮชแท็ก #มาอ่านป้ายทำไม! ที่เป็นไวรัลอยู่ในขณะนี้ จะเห็นว่าเงินติดล้อเลือกใช้สื่อ OOH เป็นหลัก เพื่อสื่อสารโดยตรงกับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งไม่ได้มีแค่ข้อความรูปแบบเดียวแต่ยังมีอีกหลากหลาย Content เช่น “อยู่เมืองชล ไม่ต้องกลัวชน” เรียกว่าไม่ได้ใช้แค่กลยุทธ์ครีเอทีฟ แต่ยังฉลาดทำ Localized Marketing สร้างความแตกต่างให้บิลบอร์ดแต่ละพื้นที่ ไม่ใช่แค่โทนสีของแบรนด์ หรือตัวอักษร แต่เป็นข้อความเฉพาะที่เชื่อมโยงสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดที่กล่าวมา สามารถสรุปได้เลยว่า ไวรัลที่ดีไม่จำเป็นจะต้องเน้นโปรดักชั่นเสมอไป แต่แค่ใช้หลัก Back to Basic ใช้ความจริงใจและตรงไปตรงมาในการสื่อสาร ก็เข้าใกล้ความสำเร็จได้ไม่แพ้แคมเปญใหญ่งบเยอะเช่นกัน
ผู้บริโภคยุค Pandemic เปลี่ยนพฤติกรรม – คนชอบแบรนด์พูดความจริง
จากข้อมูลงานวิจัยหลายต่อหลายหน่วยงานล้วนยืนยันเป็นทิศทางเดียวกันว่า ผู้บริโภคยุค Pandemic เปลี่ยนแปลงไปแล้ว และหลาย ๆ พฤติกรรมก็จะไม่กลับเป็นเช่นเดิม โดยมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ เช่น ผู้คนนิยมความจริง และพวกเขามองหาแบรนด์ที่มอบสิ่งดี ๆ กลับสู่สังคม ดังนั้น จึงยิ่งตอบคำถามได้ง่ายและชัดเจนเข้าไปอีกว่าทำไมสื่อโฆษณาของเงินติดล้อจึงกลายเป็นไวรัลหลายต่อหลายครั้ง เพราะแบรนด์สื่อสารแบบไม่ซับซ้อน ตรงไปตรงมาอย่างจริงใจ ทั้งยังสะท้อนถึงความห่วงใยผู้คนบนท้องถนนให้จดจ่อกับการขับขี่อย่างไม่ประมาท
ย้อนกลับมาที่ Engagement บนโซเชียลมีเดียที่มีต่อแคมเปญ #มาอ่านป้ายทำไม! ก็ยิ่งชัดเจน เพราะแต่ละข้อความที่ผู้ใช้โซเชียลพากันพูดถึงแคมเปญและแบรนด์ ล้วนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน สื่อถึงความชื่นชอบ ถูกใจกับการตลาดเช่นนี้แทบทุกโพสต์ เช่น “ขายเก่ง, ซื้อประกันรถยนต์ ทักแชท, ขับรถไม่ระวังแบบนี้ต้องทำประกัน” เป็นต้น หรือแม้แต่การแชร์ไวรัลพร้อมกับอีโมจิหัวเราะเพียงอย่างเดียว ยิ่งชัดเจนว่าผู้คนมองหาความจริงและยังคงถูกใจกับเรื่องสนุกสนาน มุกตลกขำขัน อยู่เสมอ
แต่ในขณะเดียวกัน ไอเดียของเงินติดล้อ ก็ยังคงคอนเซปต์ตรงกลุ่มเป้าหมาย และสั้นกระชับ จึงยิ่งทำให้ผู้พบเห็นเข้าใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว
จากกลยุทธ์การสื่อสารที่ชัดเจนและต่อเนื่องของเงินติดล้อ นำไปสู่ Role Model ด้านการสื่อสารและสร้างแบรนด์ที่มีคำตอบพิสูจน์ได้ชัดเจน ส่งผลให้เงินติดล้อเป็นแบรนด์ผู้นำธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ และนายหน้าประกันภัย อันดับ 2 ของประเทศไทย ที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจ