มาแล้ว!!! กลับมาอีกครั้งกับการแข่งขันประกวดวงดนตรีสากลครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่ง “The Power Band 2023” ซึ่งครั้งนี้เป็น Season 3 โดยมาพร้อมกับคอนเซปต์ “IT’S POSSIBLE : MUSIC MAKES LIFE POSSIBLE” พลังแห่งดนตรี พลังแห่งทุกความเป็นไปได้ ที่จัดขึ้นโดย King Power ภายใต้โครงการ “King Power Thai Power พลังคนไทย” โดยการประกวดครั้งนี้ยังคงเป็นความร่วมมือกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย 6 ค่ายเพลงชั้นนำของไทย อย่าง Muzik Move, LOVEiS Entertainment, What The Duck, Warner Music Thailand, Smallroom และ XOXO Entertainment นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ร่วมให้การสนับสนุน คือ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จํากัด, นิตยสาร GuitarMAG, บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด และ T-POP
โดยการประกวดครั้งนี้ยังคงเป็นความร่วมมือกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และยังคงได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก 5 ค่ายเพลงชั้นนำของไทย อย่าง Muzik Move, LOVEiS Entertainment, What The Duck, Warner Music Thailand, Smallroom และอีกหนึ่งค่ายเพลงที่เข้าร่วมสนับสนุนในปีนี้อย่าง XOXO Entertainment นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ร่วมให้การสนับสนุน อย่าง บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จํากัด, นิตยสาร GuitarMAG, บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด และ T-POP
ถ้าใครที่ติดตามการประกวด “The Power Band” มาตั้งแต่ซีซั่น 1 จนถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ถึงการพัฒนารูปแบบการประกวดที่เรียกว่าเปิดทุกๆ โอกาสเท่าที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่กฎกติกามีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้การประกวดครั้งนี้ทุกความเป็นไปได้สามารถเกิดขึ้นได้จริงตามคอนเซปต์โครงการ “IT’S POSSIBLE : MUSIC MAKES LIFE POSSIBLE”
ความพิเศษของเวทีการประกวด “The Power Band” ไม่ใช่แค่ชิงรางวัลหรือถ้วยรางวัล หากแต่เป็นโอกาสที่ให้ทุกคนได้ทำงานร่วมกันเป็นทีม สร้างสรรค์การแสดงที่ไม่ใช่แค่การโชว์ฝีมือด้านดนตรีขั้นเทพเพียงอย่างเดียว แต่การแข่งขันยังมีเรื่องของความคิดสรร้างสรรค์ในการแสดงดนตรี องค์ประกอบความพร้อมเพรียงของวงดนตรี ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้สามารถนำไปใช้กับการทำงานนทุกๆ ด้านในอนาคต
ด้าน คุณอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์กล่าวว่า การประกวด The Power Band 2023 Season 3 ยังคงตั้งเป้าหมายให้นักเรียน นักศึกษารุ่นใหม่ และประชาชนทั่วไปที่รักในเสียงดนตรีทั่วประเทศเข้าร่วมประกวดวงดนตรีในครั้งนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์และมอบโอกาสในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ ความสามารถ และการใช้ชีวิตเพื่อก้าวสู่การเป็นคนดนตรีมืออาชีพอย่างมีคุณภาพ
โดยเวทีแห่งนี้ยังได้รับเกียรติจากคณะกรรมการที่มีประสบการณ์และชื่อเสียงทางด้านดนตรีแถวหน้าของเมืองไทย และที่สำคัญที่สุดคือกิจกรรม The Power Band Music CAMP ที่จะช่วยพัฒนาฝีมือด้านการแสดง การโชว์และการเล่นดนตรีสู่แนวทางการเป็นศิลปินอย่างมืออาชีพ เสริมสร้างทักษะการเป็นนักดนตรีที่ดี และเรียนรู้วิธีการทำเพลงที่จะช่วยดึงศักยภาพออกมาใช้ให้ได้มากที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการชนะใจตัวเองและกล้าที่จะแสดงออก
ขณะที่ ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นว่า การประกวดThe Power Band 2023 Season 3 เป็นเวทีที่เปิดกว้างในการแสดงความสามารถทางด้านดนตรีอย่างแท้จริง โดยจะเปิดเวทีให้ออดิชั่นทั้งหมด 5 สนาม ได้แก่ ขอนแก่น, เชียงใหม่, สงขลา, นครปฐม (ศาลายา) และกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงในโอกาสในการประกวดครั้งนี้
โดยการประกวดในปีนี้จะเหลือการประกวดเพียง 2 รุ่น ทั้งในรุ่น Class A สำหรับมัธยมศึกษาไม่เกิน ม.6 และรุ่น Class B สำหรับบุคคลทั่วไป แต่ความพิเศษของการแข่งขันครั้งนี้ คือ ในรุ่น Class A สามารถฟอร์มวงโดยสมาชิกสามารถมาจากต่างโรงเรียนได้ จากเดิมที่สมาชิกในวงจำเป็นต้องมาจากสถาบันเดียวกัน นั่นเป็นผลมาจาก Pain Point ของการแข่งขันในซีซั่นที่ผ่านมา ที่น้องๆ หลายคนมีวงที่เกิดจากกลุ่มเพื่อนที่อยู่แถวบ้าน ซึ่งแต่ละคนมาจากโรงเรียนที่แตกต่างกัน
สำหรับรุ่น Class A สมาชิกในวงต้องกำลังศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า และอายุไม่เกิน 19 ปีบริบูรณ์ โดยจะต้องเกิดตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2547 เป็นต้นไป ทุกวงจะต้องมีสมาชิก 3-12 คนและทุกวงต้องมีสมาชิกในตำแหน่งนักร้องอย่างน้อย 1 คน โดยอนุญาตให้นักร้องสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้
โดยผู้ชนะการประกวดจะได้รับชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศและรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,500,000 บาท โดยสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ผ่านทางเว็บไซต์ www.music.mahidol.ac.th/thepowerband และเฟซบุ๊ก thepowerband.mahidol โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการสมัคร ผู้ผ่านเข้ารอบในแต่ละสนามจะได้ร่วม The Power Band Music CAMP เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน สำหรับรอบชิงชนะเลิศจะเริ่มขึ้นในวันที่ 21-22 กันยายน 2566 ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ กรุงเทพฯ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-800-2525 ต่อ 3109 และ 02-441-5305
