ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงมากของตลาดชานมไข่มุก ซึ่งมีทั้งแบรนด์นอก แบรนด์ไทย ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีอยู่หนึ่งแบรนด์ที่ยังคงฮิตไม่เลิก ร้านไม่เคยเหงา แถมยังขยันออกเมนูใหม่กันทุกเดือน นั่นก็คือ The Alley แบรนด์ชานมไข่มุกจากไต้หวันที่ใช้เวลาเพียง 5 ปีในการขยายสาขากว่า 10 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง หรือแคนาดา
เมื่อมาถึงบ้านเราก็ไม่น้อยหน้า เข้าตลาดไทยได้ไม่นานก็ขยายไปแล้ว 7 สาขา โดยในปีนี้มีแผนจะขยายไปมากกว่า 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต
ทั้งๆ ที่เป็นแบรนด์ที่อายุยังไม่ถึง 1 ปีถือว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ แล้วนี่ก็ไม่ใช่เรื่องฟลุก หรือ โชคช่วย เพราะทุกอย่างถูกจัดสรร และวางแผนอย่างดีมาตั้งแต่ต้น
ถึงจะถูกเรียกว่า เป็นร้านชานมไข่มุก และมีสินค้าหลัก คือ เครื่องดื่ม แต่แบรนด์ The Alley กลับขอเป็นมากกว่านั้น โดยผสานเอาศิลปะ สุนทรียภาพ การออกแบบ และศาสตร์แห่งการชงชามามิกซ์เข้ากันอย่างลงตัว ด้วยสูตรเด็ด คือ ‘A-C-D-L’ ที่ประกอบด้วย Aesthetic-Creativity-Design-Life ทำให้ชาเป็นได้มากกว่าชา
เช่น การตกแต่งร้านที่ให้บรรยากาศร่มรื่นผ่อนคลายเหมือนยกธรรมชาติมาอยู่ในเมือง ขณะที่โลโก้น้องกวางน้อยก็ดูสง่างาม หรูหรา แต่เป็นมิตรในเวลาเดียวกัน และการใช้กวางที่มีคำภาษาอังกฤษว่า Deer ซึ่ง พ้องกับคำว่า Dear ที่แปลว่าที่รัก ยิ่งไปกว่านั้น The Alley ยังมีชื่อเรียกไข่มุกของตัวเองว่า Deerioca มาจากคำว่า Deer กับ Tapioca จนกลายเป็น Deerioca เป็นคำเรียกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนให้เห็นถึงความรัก ความใส่ใจต่อเครื่องดื่มและลูกค้า
ทั้งหมด คือ สุนทรียภาพที่ถูกหลอมเข้าไว้ในแบรนด์อย่างแนบเนียน เมื่อเสริมด้วยรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทรงโค้งมนที่ก้นแก้ว ลายหินอ่อนของบราวน์ชูการ์เมื่อถูกเสริฟ์ หรือจะเป็นคำเรียกคนชงชาว่า ‘เดียร์ริสต้า’ (Deerista) ทั้งหมดล้วนสื่อถึง “ความใส่ใจ” และแน่นอนว่า ความอร่อยยังต้องเป็นหัวใจที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ
เริ่มตั้งแต่การให้ความสำคัญในการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี เช่น เลือกใช้ใบชาคัดพิเศษจากประเทศไต้หวัน ไข่มุก Deerioca ทุกเม็ดผ่านกรรมวิธีอย่างพิถีพิถัน ด้วยการเคี่ยวและอบในแบบฉบับของ The Alley ตั้งแต่ควบคุมอุณหภูมิ Deerioca ในระดับพอดี พนักงานจะไม่หยุดคน Deerioca ในตลอดเวลาการต้ม ซึ่งแค่ขั้นตอนนี้ก็ใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงเต็มๆ จนออกมาเป็น Brown Sugar Deerioca ที่มีความสุกพอดี ให้เนื้อสัมผัสที่หอม นุ่มหนึบละมุน เคี้ยวเพลิน เมื่อเสิร์ฟตอนยังอุ่นๆ ก็ยิ่งอร่อยฟินขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ The Alley ยังมีอีกหนึ่งกฎเหล็กที่ยึดถือมาก นั่นก็คือ ชาและ Deerioca ที่ทางร้านทำออกมาในแต่ละครั้ง จะอยู่ได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพื่อรักษารสชาติของชาและความนุ่มหนึบของไข่มุก จึงมั่นใจได้ว่า ทุกๆ แก้วของน้องกวางจะสดใหม่อยู่เสมอ
และมีใครเคยสังเกตไหมว่า ในขณะที่ร้านชานมไข่มุกทั่วๆ ไปจะต้องใช้เครื่องเขย่าชาเพื่อทุ่นแรงพนักงานชงชา แต่ที่ The Alley “เดียร์ริสต้า” ทุกคนจะต้องใส่ความรักในทุกๆแก้วที่ชง โดยใช้เทคนิคการเชค ถ้าเป็นพนักงานหญิงจะเชค 15 ครั้ง ส่วนพนักงานผู้ชายจะเชค 10 ครั้ง แม้กระทั่งระดับน้ำแข็งที่ใส่มาให้ บางคนเห็นแล้วอาจมองว่าดูน้อย แต่นั่นคือปริมาณที่คำนวณมาแล้วอย่างดี เพื่อให้ทานน้ำแข็งหมดพอดีกันกับเครื่องดื่มในแก้วนั่นเอง
ทั้งหมดที่เล่ามานั้นสะท้อนได้เป็นอย่างดีว่าทุกๆ แก้วจาก The Alley เป็นการชงจากใจ เพื่อให้ลูกค้าได้บริโภคสิ่งที่ดีที่สุด
สำหรับลูกค้ามือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มต้นรู้จักเจ้ากวางน้อย เราขอแนะนำเป็น Brown Sugar Deerioca & Fresh Milk ซิกเนเจอร์ของทางร้าน วิธีดื่มให้เริ่มจากการดื่มทันทีโดยไม่คน เพื่อให้ได้รสชาติ Brown Sugar Deerioca อุ่นๆที่แสนอร่อย จากนั้นลองคนให้เข้ากัน ตามเข็มนาฬิกานับไปให้ครบ 9 ครั้ง แล้วจะเซอร์ไพรส์กับรสชาติที่เปลี่ยนไป ดื่มภายในครึ่งชั่วโมงเพื่อให้ได้รสชาติที่สดใหม่ และไข่มุกที่ยังอุ่นๆ หอม นุ่ม หนึบหนับ
ส่วนใครที่อยากจะแอดวานซ์ ก็ขอให้ลองสั่งเมนูดังในตระกูล Brown Sugar Deerioca Series เมนูอื่นๆ เช่น สูตร MATCHA หรือ COCOA สามารถคนให้ Brown Sugar เข้ากัน จากนั้นดื่มได้เลย หรือ อย่าง Brown Sugar Deerioca Puff & Fresh Milk ที่มีวิธีการดื่มเหมือน Fresh Milk
นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูไฮไลต์อื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Royal No.9 Milk Tea ที่ใช้ใบชาซึ่งต้องคอยเก็บเกี่ยวนานถึงกว่า 500 วันเพื่อจะได้ใบชาคุณภาพดีที่สุด นำมาอบด้วยกรรมวิธีพิเศษ ได้กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ และยังมีเมนู Snow Velvet Brown Sugar Tea Latte ชาสีเข้ม มีจุดเด่นที่ครีมชีสเป็นซิกเนเจอร์ด้านบน
และยังมีเครื่องดื่มที่เติมเต็มความสดชื่นระหว่างวันอย่าง Tropical Passion Fruit Green Tea รสชาติเปรี้ยวอมหวานของเสาวรส ผสมกับความหอมของกลิ่นชาที่เข้ากัน ได้รสชาติแปลกใหม่และ Orange Lulu ชาหอมๆ ที่มาพร้อมเกล็ดส้ม และความสดชื่น หรือถ้าใครอยากเพิ่มทอปปิ้งไข่มุกเข้าไปด้วยก็ได้ ไม่ว่ากัน
หมดข้อสงสัยกันไปได้เลยว่า ร้านชาที่ให้มากกว่าชาคืออะไร เพราะที่ The Alley มอบให้กับลูกค้าก็คือประสบการณ์ร่วมกับการดื่มเครื่องดื่มแสนพิเศษไม่เหมือนใคร สมกับปรัชญาของแบรนด์ที่ย้ำเสมอว่า
“We are not serving beverage, we are creating and pouring happiness into people’s lives – So customers will never forget our beverage by creating experience and happiness”
สำหรับใครที่อยากจะไปลิ้มลองรสชาติของชาที่มากกว่าชาของ The Alley สามารถไปได้ที่ สยามสแควร์วัน , เซ็นทรัลเวิลด์, สยามเซ็นเตอร์, ซีคอน สแควร์, อาคาร ต้นทิพย์ ซอยสุขุมวิท 60/2 , สาขาเซ็นทรัลบางนา, สาขานิมมาน โครงการเดอ มาร์เช่ เชียงใหม่ และเร็วๆ นี้ที่กำลังจะเปิดใหม่คือ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว
ข้อมูลเพิ่มเติมคลิก FB: The Alley Thailand, Line: @thealleythailand, IG: thealleythailand
