อินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนในปัจจุบันอย่างปฏิเสธไม่ได้ ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) พบว่าประชากรไทยมีการอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตอยู่ที่ประมาณ 89.5% และมีช่องทางโซเชียลมีเดียมากถึง 50 ล้านคน คิดเป็น 71.5% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งสอดรับกับการเติบโตของกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) หรือจะเรียกว่า Content Creator ก็ดี เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ข้อมูลของ เทลสกอร์ (Tellscore) เปิดเผยโดย สุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด ระบุว่า จากสถิติของ Linktree พบว่าปัจจุบันมีคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ประมาณ 200 ล้านคนทั่วโลก หรือประมาณ 3% จากประชากรโลก ขณะที่ประเทศไทยคาดว่ามีคอนเทนต์ ครีเอเตอร์มากถึง 9 ล้านคน ครอบคลุมตั้งแต่ในระดับ Nano – Macro – Mega Creator ทั้งที่เป็น Full-time และ Part time ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียและการใช้เวลาท่องโลกออนไลน์ของคนไทยที่มีอัตราสูงในอันดับต้นๆ ของโลก
Top 3 Content ยอดนิยม – “ยานยนต์ – อสังหาฯ” แผ่วลง
- บิวตี้และเฮลท์ตี้
- กิน ดื่ม เที่ยว
- การเงิน ไฟแนนเชียล
แสดงให้เห็นว่า 2 กลุ่มแรกจะเป็นแนวไลฟ์สไตล์ แต่ในกลุ่มที่ 3 ค่อนไปทางอุตสหากรรมด้านการเงิน โดยทั้ง 3 กลุ่มนี้อิงตามการสนับสนุนของแบรนด์ด้วย
ขณะที่พบว่า คอนเทนต์ที่แผ่วลงไป ได้แก่ 1) ยานยนต์ เหตุที่กลุ่มนี้แผ่วแม้เราจะเห็นกระแสของรถยนต์ EV ที่เพิ่มขึ้น แต่เมื่อตลาดมันชะงักนิดนึง ก็ทำให้การทำคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งตรงนี้ชะงักลงไปด้วย และ 2) อสังหาริมทรัพย์ ก็จะสัมพันธ์กับธุรกิจของอุตสาหกรรมนั้นด้วย
ส่วน Content ที่เป็น Raising star ในปัจจุบัน มี 3 อันดับที่ น่าสนใจ ดังนี้
- กลุ่มนักข่าว/สื่อมวลชน ที่หันมาเปิดชาแนลของตัวเอง ซึ่งมีทั้งทักษะและองค์ความรู้ โดยที่ทางต้นสังกัดก็ไม่ได้มองว่าเป็นคอนเทนต์ของตัวเอง ค่อนข้างยืดหยุ่นถ้าพนักงานจะเปิดช่องทางตัวเองบ้าง
- กลุ่ม Science and Education ซึ่งตั้งแต่คอนเทนต์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ภาษาต่างๆ หรือแม้แต่เรื่องการเงิน ฯลฯ
- กลุ่มผู้สูงวัย ซึ่งมีตั้งแต่ทำแบบครอบครัวหรือทำเป็นคู่ แบบแม่ลูก หรือแบบหลานกับคุณปู่หรือคุณย่า ก็มี
การแข่งขันที่ดุเดือดใน Content Creator Economy
สิ่งที่ท้าทายสำหรับวงการครีเอเตอร์ คุณปู ระบุว่า จะเป็นการแข่งขันเพื่อแย่งยอดวิวจากคนดู ถึงแม้ว่าจำนวนครีเอเตอร์จะมีเพิ่มขึ้นแต่ก็จะทำให้เกิดการต่อรองจากแบรนด์ต่างๆ มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ปีนี้เราจะเห็นว่าค่าตัวของครีเอเตอร์จะเริ่มเสถียรมากขึ้น
มิติที่ 2 คือการสร้างจุดเด่นให้กับช่องหรือคอนเทนต์ของตัวเอง แล้วทำให้ผู้ชมติดใจ (stickiness) ดึงดูดผู้ชมให้อยู่กับเรานานๆ หรือสร้าง engagement ร่วมด้วย ซึ่งการทำให้เกิดขึ้นแบบออแกนิกมันจะเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ
เรตค่าจ้างของ Influencer
ค่อนข้างตอบยาก แต่ถ้าคิดแบบเทียร์แล้ว Micro – Influencer อาจจะประมาณคอนเทนต์ละ 4,000 – 5,000 บาท ในขณะที่ถ้าไซส์กลาง หรือยอด follower ประมาณ 1 แสนฟอลฯ ค่าตัวอาจจะประมาณหลัก 10,000 – 20,000 บาท ต่อ 1 คอนเทนต์ แต่สำหรับคนที่ค่อนข้างดังแล้วมีชื่อเสียงแล้ว 1 คอนเทนต์ก็อยู่ที่หลัก 100,000 บาท แต่เมื่อหารออกมาเป็นยอดวิว ค่อนข้างคุ้มมาก วิวละ 2 บาทรวมค่าคอนเทนต์ก็คุ้มค่ามากแล้ว
ผู้บริหาร Tellscoer ระบุว่า จากสถิติข้างต้นบ่งชี้ให้เห็นว่ากลุ่มคอนเทนต์ ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์เป็นฟันเฟืองสำคัญที่มี ความสัมพันธ์และอิทธิพลกับผู้บริโภค ประกอบกับพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกฉียงใต้ ที่ชอบรับข่าวสารและแสดงออกผ่านโซเชียลมีเดียมากกว่าสื่ออื่นๆ ดังนั้น นักการตลาดจึงโฟกัสและให้ความสำคัญในการเลือกร่วมงานกับคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดย Tellscore (www.tellscore.com) จะเข้ามาเติมเต็มทุกความต้องการของนักการตลาดด้านอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ทั้งระบบแบบ One-Stop-Service ตั้งแต่การคิดกลยุทธ์และสร้างสรรค์แคมเปญอินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์ที่อิมแพคกับกลุ่มเป้าหมาย การหาอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ที่ตรงกับความต้องการจากระบบฐานข้อมูลที่มีอินฟลูเอนเซอร์คุณภาพหลายหมื่นคน บริหารจัดการให้เป็นไปตามเป้าหมายภายใต้งบประมาณที่กำหนด ตลอดจนระบบกวาดผลลัพธ์อัตโนมัติ (Performance Collection Automation) ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความแม่นยำในผลลัพธ์ รวมทั้งลดความเสี่ยงให้กับนักการตลาดที่ต้องการความรวดเร็วและคล่องตัวในยุคดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูง มัดรวมครีเอเตอร์โซลูชั่นให้แบรนด์และเอเจนซี่ ดังนี้ Pay Per Post, Media Buy for Creator Content, Performance Marketing, Affiliated Marketing, Soft Power Content จากการตอบรับเป็นอย่างดีตั้งแต่ช่วงต้นปีทำให้มั่นใจว่าจะสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 30% จากปีที่แล้ว
ล่าสุด เทลสกอร์ ร่วมกับ เดอะมอลล์ กรุ๊ป จัดงาน The Mall Lifestore Presents Thailand Influencer Awards 2024 by Tellscore งานประกาศรางวัลสุดยอดอินฟลูเอนเซอร์ และสุดยอดอินฟลูเอนเซอร์แคมเปญ ที่สร้างสรรค์โดยแบรนด์และเอเจนซี่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 รวมทั้งสิ้น 59 สาขา ภายใต้แนวคิด The Future is Yours! ที่เน้นย้ำถึงศักยภาพอินฟลูเอนเซอร์และนักการตลาดที่มีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางและสร้างสรรค์อนาคตของเศรษฐกิจไทย โดยเฟ้นหาอินฟลูเอนเซอร์คุณภาพ ควบคู่กับการสร้างมาตรฐานและคอมมูนิตี้อินฟลูเอนเซอร์ของประเทศไทยให้เข้มแข็งต่อยอดสู่การยกระดับสู่สากล โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรภาครัฐและเอกชนหลายภาคส่วนที่มีเป้าหมายเดียวกันในการสร้างเครือข่ายและเสริมศักยภาพวงการอินฟลูเอนเซอร์ไทยทั้งระบบ ในวันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2567 ที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ
“เทลสกอร์ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นยกระดับและสร้างเสริมมาตรฐานอินฟลูเอนเซอร์ 5 มิติซึ่งเป็นเกณฑ์การตัดสินผู้ที่ได้รับรางวัลในงานครั้งนี้ ได้แก่ รูปแบบและความคิดสร้างสรรค์ (Creativity), ลำดับและการเล่าเรื่อง (Storytelling), การเข้าถึงคนส่วนมากได้อย่างมีคุณภาพ (Impact), ตัวตน, ศักยภาพในการเติบโตและการดูแลกลุ่มผู้ฟัง (Personal Branding & Community Building) และสำนึกที่ดีต่อผู้ฟัง, สังคม และสิ่งแวดล้อม (Social Conscience) ซึ่งงานดังกล่าวนอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จและการมีส่วนร่วมของอินฟลูเอนเซอร์คุณภาพในประเทศไทยแล้ว ยังแสดงถึงผลของการตกผลึกของเทลสกอร์ให้เห็นว่าคอนเทนต์ ครีเอเตอร์คือ Soft Power อันแข็งแกร่งของประเทศที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้จริงและยั่งยืน (Content Creator Economy) ในทุกอุตสาหกรรมแบบ 360 องศา ไม่ใช่เพียงเป็นเทรนด์ตามยุคสมัย แต่เป็นสื่อใหม่ที่เป็นสื่อหลักที่มีบทบาทสำคัญที่ได้รับการยอมรับ และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง”
นอกจากงาน The Mall Lifestore Presents Thailand Influencer Awards 2024 by Tellscore แล้ว เทลสกอร์ยังได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์จัดทำโครงการวิจัย Foresight ในหัวข้ออนาคตเศรษฐกิจคอนเทนต์ครีเอเตอร์ พ.ศ. 2578 (Futures of Content Creators 2035) เพื่อนำเสนอองค์ความรู้ด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ รวมทั้งจัดทำแคมเปญ Influencer for Change (Help You, Help Me) โครงการที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานภาคสังคม เข้าร่วมนำเสนอโครงการ เพื่อรับการสนับสนุนสื่ออินฟลูเอนเซอร์คอนเทนต์ เพื่อช่วยในการประชาสัมพันธ์โครงการของหน่วยงานภาคสังคม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยส่งแคมเปญหรือกิจกรรมรณรงค์ที่มีเป้าหมายแก้ไขปัญหาสังคมในด้านต่างๆ ผ่านกิจกรรม ‘Help You, Help Me’ ซึ่งทางเทลสกอร์ยังมองหาโอกาสและความร่วมมือในการต่อยอดแคมเปญดีๆ เพื่อพัฒนาวงการอินฟลูเอนเซอร์และสังคมต่อไป