ปัจจุบันมีแบรนด์ไทยหลายแบรนด์ ที่มีแผนขยายตลาดไปยังประเทศจีน ทั้งจำนวนประชากรภายในประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยในแต่ละปีก็มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่ “ประเทศจีน” จะเป็นอีกหนึ่งเวทีการค้าของแบรนด์ไทย คุณกฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ประเทศจีน ถือเป็นหนึ่งในตลาดใหญ่สำคัญลำดับต้นๆ ของโลก ที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 50% จากประชากรกว่าพันล้านคน จึงเต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจ และด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาเมืองไทยกว่า 8.7 ล้านคน ยังสามารถสร้างมูลค่าการตลาดได้กว่า 3 แสนล้านบาท ในปี 2015 มีคนจีนเข้ามาเที่ยวในไทยมากถึง 7.93 ล้านคน และเพิ่มเป็น 8.7 ล้านคนในปัจจุบัน
นอกจากนี้ คุณกฤตธี ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมการใช้อินเตอร์เน็ตของประเทศจีน โดยในปี 2016 สัดส่วนการใช้อินเตอร์เน็ตในจีนอยู่ที่ 731 ล้านคน หรือ 53% ของประชากรจีนทั้งหมด และ 90% ใช้อินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ
เมื่อแบ่งตามเพศ-อายุ พบว่า ผู้หญิง และผู้ชายค่อนข้างใกล้เคียงกันอยู่ที่ 52% และ 48% ช่วงอายุส่วนใหญ่อยู่ที่ 10-39 ปี คิดเป็น 74% ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั้งหมด
ระยะเวลาของการใช้อินเตอร์เน็ตต่อคนอยู่ที่ 26 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และกิจกรรมส่วนใหญ่คือ การแชท ตามมาด้วยการใช้ Search Engine
ทั้งนี้ ธุรกิจของ Tencent ในประเทศจีนนั้นครอบคลุมทุกกิจกรรมในแต่ละวัน ทำให้ 68% ของคนจีนใช้เวลาอยู่บนแพลตฟอร์มของ Tencent อาทิ WeChat, QQ, Tencent Game, Video, News, Music และอื่นๆ
นอกเหนือจากฮ่องกง และมาเก๊าแล้ว “ประเทศไทย” ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจีนให้ความสนใจและต้องการมา
โดยก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ คนจีนจะค้นหาข้อมูลต่างๆ ผ่าน Social Network เป็นหลัก ตามมาด้วยการใช้ Search Engine ทั้งนี้ กิจกรรมที่ทำส่วนใหญ่จะเป็นการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และพักผ่อน
สำหรับงบการท่องเที่ยวต่อหนึ่งทริป 38% ของนักท่องเที่ยวจีนมีงบ 25,000-30,000 บาท และแบ่งงบไว้ช้อปปิ้ง 41% โดย 63% จะซื้ออาหารและขนม ตามมาด้วย 62% ของขวัญ ของที่ระลึก, 51% เสื้อผ้า และ 49% เครื่องสำอาง และของใช้ส่วนตัว (Personal Care)
แล้วแบรนด์ไทยจะเจาะตลาดจีนต้องทำอย่างไร?
คุณกฤตธี เผยว่า ผู้ประกอบการในยุคนี้ต้องนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้ เพื่อเพิ่มช่องทางและโอกาสในการขาย ซึ่งการจะทำตลาดในจีนนั้นไม่สามารถใช้ Facebook หรือ Line ได้ แบรนด์จึงต้องรู้ว่าพวกเขาใช้แพลตฟอร์มไหน ทาง Tencent จึงได้นำเสนอเครื่องมือ “Tencent Social Ads” (TSA) เพื่อช่วยให้แบรนด์เจาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนได้ง่ายขึ้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ การสร้างการรับรู้-การให้ข้อมูล และกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจ โดยเริ่มจากการสร้าง Official Accounts, ครีเอทคอนเท้นต์ ให้ข้อมูลที่ครบถ้วน, สร้าง Awareness ชิ้นงานโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ (WeChat Ads, Qzone Ads และ QQ Ads) และสร้าง Engagement ด้วยการใช้คูปอง แคมเปญ คอนเท้นต์ภาษาจีน ฯลฯ
เนื่องด้วยคนจีนใช้แอปฯ WeChat มากถึง 938 ล้านคนต่อเดือน แบรนด์จึงควรมี Official Accounts บนแพลตฟอร์มดังกล่าว นอกจากนี้ยังมี WeChat Pay ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ซื้อสินค้า และชำระเงินได้ภายในแอปฯ เดียว ทั้งนี้ WeChat Pay มีผู้ใช้ที่ผูกบัญชีต่อวันอยู่ที่ 600 ล้านคนทั่วโลก สำหรับแบรนด์ไทยที่ใช้ WeChat Pay ตอนนี้มีประมาณ 10 แบรนด์ ทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งช้อปปิ้ง สปา รีเทล โรงแรม และร้านอาหาร เป็นต้น ทั้งนี้ อุปสรรคสำคัญของแบรนด์ไทยในการตีตลาดจีน ยังคงเป็นเรื่องภาษา Tencent จึงได้จัดตั้งทีมสำหรับผลิตคอนเท้นต์ภาษาจีน เพื่อช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างการใช้คูปองใน WeChat Pay