กลยุทธ์สื่อสารแบรนด์ด้วยความจริงใจ กรณีศึกษา “ถูกดี มีมาตรฐาน” กับหนังโฆษณาไม่มีสตอรี่บอร์ด

 

ทุกวันนี้มีแบรนด์มากมายเลือกที่จะท้าทายตัวเองผ่านการสื่อสารในรูปแบบใหม่ ด้วยการใช้กลยุทธ์ใหม่ๆ มากขึ้น ไม่เพียงเพื่อให้ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักมองเห็นชัดขึ้นเท่านั้น แต่ยังเพื่อบอกความจริง และความจริงใจ จากแบรนด์ด้วย

อย่างการสื่อสารผ่านหนังโฆษณาในยุคนี้ หลายแบรนด์ก็จะเลือกออกจากขนบของการเล่าเรื่องแบบเดิมๆ ไปสู่การเล่าเรื่องแบบใหม่ที่มีความเรียล (Real) หรือจริงมากขึ้น แม้จะมีความเสี่ยงกับขั้นตอนการทำงานจากสถานการณ์เกินคาดเดา แต่หลายแบรนด์ก็เลือกวิธีนี้

เหตุผลหนึ่งคือ ความท้าทาย โดยเฉพาะในยุคที่การสื่อสารคือการแย่งพื้นที่ หรือ Airtime จากผู้รับสาร หรือผู้บริโภค ให้ได้มากที่สุด การเล่าเรื่องได้แตกต่าง ทำให้แบรนด์โดดเด่นและได้รับการมองเห็น และที่มากไปกว่านั้น หากเล่าเรื่องผ่านความจริงที่ไม่ปรุงแต่ง ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการบอกความจริงใจจากแบรนด์ได้ดี

 

 

กรณีศึกษา แบรนด์ถูกดี มีมาตรฐาน กับหนังโฆษณาที่เล่าเรื่องจากความจริง

 

 

ตัวอย่างของหนังโฆษณาที่เล่าเรื่องจากความจริงได้น่าสนใจเรื่องหนึ่ง คือแบรนด์ “ถูกดี มีมาตรฐาน” นำเสนอกิจวัตรประจำวันของเจ้าร้านน้ำขิงน้ำชา จังหวัดสุพรรณบุรี หนึ่งในร้านค้าจากจำนวน 5,000 ร้านค้าในปัจจุบัน ภายใต้แบรนด์ถูกดี มีมาตรฐาน ที่เริ่มต้นจากแนวคิดเรื่องการเข้าไปยกระดับร้านค้าในชุมชนให้ทันสมัยขึ้น

หนังโฆษณาชิ้นนี้ไม่มีนักแสดง ไม่มีบทพูด ไม่ผ่านการจัดแสง เหมือนการถ่ายทำหนังโฆษณาทั่วๆ ไป แต่เลือกที่จะเก็บภาพจากสถานที่จริง สถานการณ์จริง ก่อนบอกเล่าอย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่ผู้ชมได้เห็นจึงเป็นกิจวัตรประจำวันจริงๆ ของเจ้าของร้าน กับลูกค้าตัวจริงที่แวะเวียนมา โดยตอนแรก แบรนด์พยายามบอกเล่าเรื่องราว ให้ Production House ทำ ผ่านหนังที่ถ่ายมาเรื่องนี้ แต่สุดท้ายผู้บริหารและทีมก็ตัดสินใจยอมทิ้งหนังที่จ้างผลิต ด้วยเหตุผลที่ว่ามันไม่จริงใจ และเลือกใช้เรื่องเดิม ที่ถ่ายกันเอง ด้วยอุปกรณ์ที่มีในบริษัท ที่แสงอาจจะไม่ได้ เสียงไม่ได้ แต่มีความจริงใจ  และนี่จะถือเป็นแนวทางในการสร้างแบรนด์ “ถูกดี มีมาตรฐาน” ต่อไป โดยจะพูดเฉพาะในสิ่งที่เราทำได้ และ ทำไปแล้ว เพราะนี่คือเรื่องจริง

ร้านค้าภายใต้แบรนด์ถูกดี มีมาตรฐาน เป็นร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชน ในเขตตำบล หรือหมู่บ้าน เหตุนี้สิ่งที่ผู้ชมได้เห็นจากร้านน้ำขิงน้ำชา ที่ตั้งอยู่ใกล้โรงเรียน จึงเป็นบรรยากาศจริงๆ จากลูกค้าตัวจริง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนตัวน้อย ที่แวะเข้ามามากกว่าเพื่อการซื้อของ

 

 

กิจวัตรของเจ้าของร้านน้ำขิงน้ำชา จากหนังโฆษณาที่ผู้ชมได้เห็น จึงเป็นมากกว่าการขายสินค้า แต่คือการใช้ชีวิตร่วมกับลูกค้า การถ่ายทอดเรื่องราวจริงๆ ออกมาด้วยหนังโฆษณาชิ้นนี้ ช่วยขยายภาพจริงได้ชัดเจนด้วยว่า ร้านถูกดี มีมาตรฐาน นั้นเป็นมากกว่าร้านสะดวกซื้อชุมชน แต่คือที่ที่ลูกค้าได้ใช้ชีวิตในพื้นที่หนึ่งร่วมกัน

อย่างร้านน้ำขิงน้ำชา แห่งนี้ที่เด็กๆ เข้ามาทักทาย มายืนรอผู้ปกครอง หรือแม้แต่มานั่งทำการบ้านในร้าน ขณะที่เจ้าของร้านเองก็เป็นมากกว่าเจ้าของร้านสะดวกซื้อ และสิ่งนี้ถือเป็นเสน่ห์แบบหนึ่งของร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ในชุมชน

 

เพื่อการ “สะดวกซื้อ” ได้ความ “สนิทใจ”

 

 

หากถามว่า แบรนด์อะไร ผ่านการสื่อสารภาพความจริงลักษณะนี้ในหนังโฆษณาที่บอกเล่าความจริง

ที่แน่ๆ ผู้ชมจะได้เห็นเรื่องจริงจากแบรนด์ สำหรับแบรนด์ถูกดี มีมาตรฐาน นั้นถือเป็นแบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจโดยบริษัทขนาดใหญ่ที่มีจุดมุ่งหมายน่าสนใจ โดย บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ผู้ขับเคลื่อนผ่านหวังจะยกระดับร้านค้าชุมชน หรือร้านโชห่วยอย่างในอดีตให้มีมาตรฐานในแบบร้านสะดวกซื้อยุคใหม่ ขณะที่ยังคงไว้ด้วยหัวใจแบบเดิม

แนวทางของแบรนด์คือ การนำความรู้ อุปกรณ์ เทคโนโลยี และระบบการบริหารจัดการ เข้าไปช่วยเจ้าของร้าน ในการสร้างร้านสะดวกซื้อที่มีมาตรฐาน และทันสมัยขึ้น รวมถึงครบครันด้วยสินค้าหลากหลาย สมกับการเป็นร้านสะดวกซื้อยุคใหม่

อีกทั้งยังนำระบบการจัดการมาช่วยดำเนินงาน รวมถึงช่วยทำการตลาดแบบต่างๆ อาทิ “ระบบสมาชิกถูกดี” เพื่อกระตุ้นยอดขาย หรือล่าสุดกับบริการ “ถูกดีสั่งได้” ที่ให้ลูกค้าเลือกสินค้าผ่านแคตาล็อกหน้าร้าน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยสั่งซื้อล่วงหน้าที่หน้าร้าน แล้วค่อยมารับภายหลังโดยไม่เสียค่าขนส่ง

 

 

ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ทุกร้านมีชื่อร้านของตัวเองที่ต้องการกำกับอยู่ อย่างร้านน้ำขิงน้ำชา จากหนังโฆษณา โดยดำเนินการขายสินค้า บริการต่างๆ และบริหารร้านโดยเจ้าของร้านตัวจริงที่อาศัยอยู่ในชุมชน และมีความคุ้นเคยกับผู้คนในละแวกนั้น

เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับบริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด โดยบริษัทเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์และสินค้าภายในร้านจัดทำโปรโมชั่น ระบบเทคโนโลยีบริหารจัดการในแบบของร้านสะดวกซื้อยุคใหม่

แต่ไม่ว่าหน้าตาภายนอกจะเปลี่ยนไปอย่างไร “ความสนิทใจ” ก็ยังเป็นสิ่งเดิมเสมอ

สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับเสมอจึงหมายถึงมิตรภาพที่มีให้แก่กัน เป็นเสน่ห์ของร้านสะดวกซื้อชุมชน หาไม่ได้จาก ร้านสะดวกซื้อทั่วๆ ไป เหมือนที่เรื่องราวจากร้านน้ำขิงน้ำชาในหนังโฆษณาได้บอกเล่าอย่างตรงไปตรงมานั่นเอง

หากเอ่ยถึงความสำเร็จของหนังโฆษณาชิ้นนี้ การรับรู้ได้ถึงความจริงใจจากแบรนด์ ที่ผู้ชมได้รับผ่านการรับชมเรื่องราวจริงๆ ก็นับได้ว่าเป็นความสำเร็จ ซึ่งหากประเมินผ่านสถิติการรับชม ปัจจุบันโฆษณาชิ้นนี้ผ่านสายตาของผู้ชมใน YouTube Channel : ถูกดีมีมาตรฐาน ไปแล้วกว่า 845,000 ยอดวิว ในระยะเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น

 

 

เรียกได้ว่ามีส่วนสนับสนุนจุดยืนของแบรนด์ในการวางตัวเป็นร้านสะดวก ที่สนิทใจ ลูกค้าได้อย่างชัดเจนขึ้นอีกด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าเรื่องราวในลักษณะเดียวกันนี้ ก็จะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ที่ร้านน้ำขิง น้ำชา จังหวัดสุพรรณบุรีแห่งนี้เท่านั้น แต่กับอีกกว่า 5,000 ร้านทั่วประเทศ และมุ่งสู่ 30,000 ร้านค้าภายในปี 2567 นี้ ก็จะวางตัวอยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวนี้เช่นกัน

มาตรฐานที่เป็นมากกว่าร้านสะดวกซื้อยุคใหม่ที่ทันสมัยและมีสินค้าหลากหลายครบครันแต่คือร้านสะดวกซื้อที่สนิทใจผู้มาเยือน

 

 

ทำความรู้จักกับ แบรนด์ถูกดี มีมาตรฐาน เพิ่มเติมได้ที่

Facebook: https://bit.ly/3P4MRCB