จีน-สหรัฐฯ ไม่ทันจาง เมื่อสหรัฐฯ ขู่เล็งมาตรการขึ้นภาษีไวน์โต้กลับฝรั่งเศส

เรื่องราวระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ยังไม่ทันจางหาย แม้ว่าทางสหรัฐฯ ยังเริ่มเสียงอ่อยลงบ้าง และดูเหมือนจีนจะเริ่มส่งสัญญาณของความเป็นลูกพี่ใหญ่ที่ไม่ได้มาเล่นๆ ซึ่งเกมนี้จะออกมารูปแบบไหนคงไม่มีใครทราบได้ แต่ก็ยังพอจะมีสัญญาณสถานการณ์สงบนิ่ง เมื่อไม่มีการปะทะคารมหรือแสดงออกซึ่งอำนาจของความเป็นชาติมหาอำนาจของแต่ละซีกโลก

ทว่าดูเหมือนที่เป็นเช่นนั้นเพราะกำลังมุ่งเป้าไปยังคู่ขัดแย้งรายใหม่อย่างฝรั่งเศส นั่นเป็นผลมาจากการที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครอง (Emmanuel Macron) ของฝรั่งเศส วางแผนเตรียมจัดเก็บภาษีดิจิทัล จากการที่หลายธุรกิจเข้าสู่โลกดิจิทัล และเริ่มใช้บริการเพื่อการดำเนินแผนการตลาดหรือการโฆษณาทางออนไลน์

President — ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครอง ประเทศฝรั่งเศส และ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยแผนการจัดเก็บภาษีดิจิทัลจะเรียกเก็บภาษีในอัตรา 3% จากบริษัทดิจิทัลที่มีชาวฝรั่งเศสเป็นผู้บริโภค โดยบริษัทนั้นต้องมีรายได้รวมจากทั่วโลกมากกว่า 750 ล้านยูโร และมีรายได้ในฝรั่งเศสอยู่ที่มากกว่า 25 ล้านยูโร ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวจะทำให้เหลือเพียงไม่กี่บริษัท และเป็นบริษัทจากสหรัญฯ เป็นส่วนใหญ่อย่าง Google, Facebook, Apple, Amazon เป็นต้น

ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเดินทางไปยุโรปเพื่อร่วมประชุมผู้นำกลุ่ม G7 โดยก่อนออกเดินทางได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ตัวเขาเองไม่ใช่ผู้คลั่งไคล้บริษัทเทคเหล่านั้น แต่พวกเขาเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่จากสหรัฐฯ เขาไม่ต้องการให้ใครเข้ามายุ่งหรือมาแตะต้องบริษัทเหล่านี้ ซึ่งถ้าฝรั่งเศสดำเนินมาตรการดังกล่าว ฝรั่งเศสจะเจอมาตรการโต้กลับด้านภาษีในสินค้าไวน์จากฝรั่งเศส แบบที่ฝรั่งเศสไม่เคยเจอมาก่อน

Source: Reuters