ไม่ทันได้จินตนาการถึงนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางมาประเทศไทย นักท่องเที่ยวจีนก็เริ่มทยอยเดินทางเข้ามาจำนวนมหาศาล ส่งผลให้ตลาดการท่องเที่ยวของไทยที่กลับมาฟื้นตัวแล้วให้กลับมาเติบโตแข็งแรงอีกครั้ง โดนตัวเลขจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาประเทศไทยตกเฉลี่ยวันละประมาณ 16,000 คน
ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาประเทศไทยในช่วง 4 เดือนแรกของปี (มกราคม – เมษายน) พุ่งสูงถึงกว่า 2,351,909 คน ลองคิดเล่นๆ ว่าแต่ละคนใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 500 บาทต่อวันต่อคน จะสามารถสร้างรายได้สูงถึง 1,000 ล้านบาทต่อวัน
แต่พฤติกรรมการชำระเงินของนักท่องเที่ยวจีน ถึงจะไม่แตกต่างจากคนไทยเพราะมีการสแกนมากกว่าจ่ายเงินสด แต่ก็ไม่ได้สะดวกเหมือนคนไทย หลายร้านค้ายังไม่สามารถรองรับการสแกนชำระของคนจีนได้ นั่นจึงทำให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ออกโรงจับมือกับ Alipay+ เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถใช้จ่ายผ่านการสแกนกับร้านค้าต่างๆ ในประเทศไทยได้
ไม่ใช่แค่จีนแต่ยังรวมถึงนักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ ด้วย
ด้าน คุณฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อธิบายว่า Alipay+ เป็นหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนสะดวกในการใช้จ่ายในประเทศไทย ส่งผลให้เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวที่ตั้งไว้สำหรับปี 2024 เป็นไปตามที่กำหนด
จากรายงานจำนวนครั้งของการใช้จ่ายผ่าน e-Wallet ของ Alipay+ จากช่วงเทศกาลวันแรงงานที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 161% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และยังเติบโตสูงกว่าช่วงเริ่มต้นของการสถานการณ์โรคระบาด
การใช้จ่ายเหล่านั้นมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มร้านค้ารายย่อยในพื้นที่เมืองรองต่างๆ ทั่วประเทศไทย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวฟีเจอร์ Alipay+ D-hub และฟีเจอร์บัตรดิจิทัล Amazing Thailand e-Card บนแอปฯ Alipay ซึ่งเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีของทาง ททท. ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้งาน e-Wallet ได้ ทั้งในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ใช้ผ่าน Alipay, นักท่องเที่ยวมาเลเซียที่ใช้งานผ่าน Touch ‘n Go eWallet, นักท่องเที่ยวฮ่องกลที่ใช่งานผ่าน AlipayHK และนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ที่ใช้งานผ่าน Kakao Pay
ร้านค้ารายย่อยก็รับ Alipay ได้ผ่านแบงค์ไทย
สำหรับฟีเจอร์ Alipay+ D-hub จะรวมรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศไทย, ข้อมูลร้านค้า ร้านอาหารที่แนะนำ รวมไปถึงคู่มือการท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ และข้อมูลด้านวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่สนใจเข้าไปศึกษาข้อมูลเพื่อการวางแผนการท่องเที่ยวในประเทศไทย
ขณะที่ฟีเจอร์บัตรดิจิทัล Amazing Thailand e-Card จะช่วยผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยในประเทศไทยสามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยว ช่วยให้นักท่องเที่ยวที่ใช้แอปฯ Alipay สามารถสแกนชำระได้ ซึ่งจะช่วยต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ รวมไปถึงยังสามารถนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษของทางร้านค้าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนได้
โดยร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมฟีเจอร์ดังกล่าว สามารถติดต่อผ่านธนาคารที่ร้านค้าใช้บริการอยู่ได้ และจะทำให้การชำระเงินของนักท่องเที่ยวจีนสามารถเข้าบัญชีได้ทันที ปัจจุบันมีร้านค้าที่เข้าร่วมมากมาย อาทิ Dairy Queen, Burger King, The Coffee Club, D’Oro รวมไปถึงการใช้งานในร้านสะดวกซื้อ
เดินหน้าจัดกิจกรรมหนุนการชำระด้วยสแกน
ทางฝั่ง คุณเอ็ดเวิร์ด หยู ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล สนับสนุนว่า จากข้อมูลของทาง Alipay ในช่วงเดือนมกราคม – เมษายน 2024 มีการใช้จ่ายผ่านการสแกนเพิ่มขึ้น 70% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือนกันยายน – ธันวาคม 2023 โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมามีจำนวนครั้งการใช้จ่ายผ่าน Alipay+ เพิ่มขึ้นถึง 52% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม
สำหรับจำนวนร้านค้าในประเทศไทยที่รองรับการใช้จ่ายผ่านการสแกนของ Alipay+ กว่า 400,000 ร้านค้า โดยจังหวัดที่มีการใช้ Alipay+ แสกนส่วนใหญ่จะเป็นเมืองรอง อาทิ นครพนม จันทบุรี และลำปาง ช่วยให้จังหวัดเมืองรองเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวจีนนอกเหนือจากจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม
นอกจากนี้ร้านค้ากลุ่ม ร้านอาหารและคาเฟ่ สถานบริการสุขภาพและสปา และร้านค้าในสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงร้านค้าของที่ระลึกเริ่มให้บริการชำระผ่าน Alipay+ แล้ว และยังมีแผนขยายไปสู่การชำระในการเดินทางแก่นักท่องเที่ยวอย่างค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS ที่จะเปิดให้ชำระได้เร็วๆ นี้
ที่สำคัญยังมีแคมเปญ “A Thailand+ Experience” ที่จะนำเสนอสถานที่และร้านค้าที่น่าสนใจในจังหวัดเมืองรอง ผ่านมุมมองของ KOL ที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมแคมเปญ ผ่านฟีเจอร์ Alipay+ D-hub และเว็บไซต์ของ ททท.
มองรายได้เติบโตจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว
แน่นอนว่า การใช้จ่ายที่สะดวกขึ้นช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถเพิ่มปริมาณการใช้จ่ายได้มากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศอื่นๆ ที่ร้านค้ารองรับการชำระด้วยสแกน นอกจากนี้การที่สามารถสแกนชำระได้ในร้านสะดวกซื้อ ก็ช่วยให้มองเห็นถึงความร่วมมือที่เหนียวแน่นกับ True Wallet ที่สามารถให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถไปสแกนซื้อสินค้าที่ประเทศจีนได้
นั่นหมายความว่า โอกาสที่นักท่องเที่ยวไทยจะสามารถไปสแกนชำระสินค้าในประเทศอื่นๆ จะมีด้วยเช่นกัน ด้วยความง่ายในการใช้จ่ายจะช่วยให้นักท่องเที่ยวพร้อมเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ถือว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่
จากข้อมูล 5 ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในไทยมากที่สุดของ ททท. พบว่า จีนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่สุด รองลงมาจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ขณะที่นักท่องเที่ยวรัสเซียตามมาเป็นลำดับที่สาม ตามมาด้วยกลุ่มนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้และปิดท้ายที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจากอินเดีย