กระแสของการรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยแบรนด์เป็นผู้ผลักดันกลับมาอีกครั้ง หลังสาไปในช่วงวิกฤตโรคระบาด แม้ว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจผลักดันมานานนับ 10 ปี แต่ในระยะหลังก็เริ่มเห็นหลายแบรนด์กลับมาพูดอีกครั้ง โดยประกาศเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสำคัญขององค์กร Net Zero หรือการตั้งเป้าลด Carbon Footprint เรียกได้ว่าตั้งแต่ปลายปีจนถึงต้นปี เราเห็นความเคลื่อนไหวนี้ที่ชัดเจน
ล่าสุด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DMHT ผู้นำด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้าพรีเมียมระดับโลก ประกาศเปิดตัวโครงการ “STEP OUT OF THE BOX #ก้าวต่อไปไร้กล่อง” โครงการระดับโลกของดิอาจิโอที่มุ่งลดการใช้กล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของแบรนด์ต่างๆ ของดิอาจิโอ ได้แก่ Johnnie Walker Red Label, Johnnie Walker Black Label, Johnnie Walker Double Black, J&B Rare รวมถึง Smirnoff Midnight Max, Benmore Four Casks, Golden Stag และ Bells ตั้งเป้าลดปริมาณขยะจากกล่องบรรจุภัณฑ์ได้กว่า 183 ล้านชิ้นทั่วโลก ซึ่งจะช่วย ลดปริมาณคาร์บอนได้กว่า 7,430 ตันต่อปี สอดคล้องกับเป้าหมายในการเป็นบริษัท Zero Waste
สำหรับประเทศไทย DMHT ตั้งเป้า ลดมลพิษจากการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 1 ล้านกล่อง ลดขยะจากการสังสรรค์จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 1 ล้านกล่อง ใน 1 ปี และ ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนกว่า 2.5 ล้านกิโลกรัม ภายในระยะเวลา 10 ปี ผ่านความร่วมมือกับ EcoMatcher ในการปลูกป่า Keep Walking Forest ซึ่งผู้บริโภคสามารถร่วมปลูกต้นไม้ได้ที่เว็บไซต์ www.ecomatcher.com/keepwalkingforest พร้อมชวนร้านค้าพันธมิตรมากกว่า 30,000 ร้านค้า และผู้บริโภคทั่วประเทศมาร่วมลดการใช้กล่อง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป เพื่อร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับโลกไปพร้อมกัน
จรินี วงศ์กำทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DMHT กล่าวว่า ในฐานะที่ Johnnie Walker เป็นแบรนด์สก็อตช์วิสกี้อันดับหนึ่งทั้งของโลกและของไทย เรามีหน้าที่ในการเป็นผู้นำที่จะต้องลุกขึ้นมาสร้างความเปลี่ยนแปลงและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างกล้าหาญ หรือ Take a Bold Step ภายใต้ปรัชญา Keep Walking ของแบรนด์ โดยล่าสุด เราได้เปิดตัวแคมเปญ ‘ไม่ว่าโลกจะมาท่าไหน ก้าวต่อไปใช้ชีวิต’ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคยังคงที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าอยู่เสมอท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและไม่สามารถคาดเดาได้อีกต่อไป นอกจากนี้ เรายังได้เชิญชวนศิลปินรุ่นใหม่เข้ามาร่วมนำเสนอแนวคิดดังกล่าวในมิติต่างๆ ทั้งประเด็นด้านการยอมรับความหลากหลาย และการเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและโลกอย่างยั่งยืน ซึ่ง STEP OUT OF THE BOX #ก้าวต่อไปไร้กล่อง คือโครงการด้านความยั่งยืนล่าสุด เพื่อร่วมลดขยะ ลดมลพิษ และเพิ่มออกซิเจนให้กับโลกที่เราอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมก้าวไปด้วยกัน
โครงการ STEP OUT OF THE BOX #ก้าวต่อไปไร้กล่อง เป็นหนึ่งในการดำเนินงานภายใต้แผนงาน SOCIETY 2030: SPIRIT OF PROGRESS แผนงานด้านความยั่งยืนระยะยาวในระดับโลกของดิอาจิโอ โดยโครงการ STEP OUT OF THE BOX #ก้าวต่อไปไร้กล่อง มีเป้าหมายใน 3 ส่วน คือ
- The Goal: ลดมลพิษจากการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 1 ล้านกล่อง ใน 1 ปี
- The Box: ลดขยะจากการสังสรรค์จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 1 ล้านกล่อง ใน 1 ปี
- The Tree: ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กว่า 2.5 ล้านกิโลกรัม ใน 10 ปี ผ่านความร่วมมือกับ EcoMatcher ในการปลูกป่า Keep Walking Forest
“การเปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน การออกมาเสต็ปเอาท์ในครั้งนี้ของ ดิอาจิโอฯ เป็นโกลบอลแคมเปญ เพื่อเมคชัวร์ว่าประสบการณ์ที่ผู้บริโภคได้รับนั้นยังดีเหมือนเดิมหากเรานำกล่องกระดาษออก จนกระทั่งค้นพบว่า ปัจจัยหลักที่ทำการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้านั้น ไม่ได้อยู่ที่ว่าจะมีกล่องหรือไม่มีกล่อง แต่อยู่ที่ ความแข็งแกร่งของแบรนด์ ราคา และคุณภาพ รวมถึงความคาดหวังของผู้บริโภคที่ต้องการให้แบรนด์มีบทบาทมากขึ้นในการผลักดันเรื่องความยั่งยืน และปัญหาสิ่งแวดล้อม”
อย่างไรก็ตาม ทางเราพบว่า แม้หน้าเชลฟ์จะไม่มีกล่อง กลับทำให้ตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น และไม่ได้สนใจเลยว่ากล่องจะมีหรือไม่มี เรียกว่าเรื่องกล่องถือเป็นเรื่องเล็กไปเลย
ส่วนเรื่องการขนส่งตรงจุดนี้ในตอนแรกบรรดาคู่ค้าก็มีความกังวลเหมือนกันว่าจะทำให้เกิดปัญหาได้ แต่เราก็ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าของเราที่ดีแลเรื่องขนส่งจนเกิดความมั่นใจ นอกจากนี้ โปรดักส์อื่นๆ ในเครือก็ไม่มีกล่อง ใช้แต่ลังคีปเปอร์เช่นกัน รวมไปถึงตั้งแต่เริ่มโปรเจ็คต์มาก็ยังไม่เกิดปัญหาแต่อย่างใด ดังนั้น เราจึงมั่นใจว่าโครงการนี้น่าจะไปได้ดีพร้อมกับการตอบรับจากผู้บริโภค
รณพงศ์ คำนวณทิพย์ กรรมการอำนวยการ บริษัท มีเดีย ออกซิเจน จำกัด ตัวแทน EcoMatcher ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกับดิอาจิโอ เราใช้ความเชี่ยวชาญของเราอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านความรู้และความเชี่ยวชาญในการปลูกต้นไม้และป่าไม้ รวมถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาสร้างความโปร่งใสในการปลูกต้นไม้ เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามาปลูกต้นไม้ร่วมกับโครงการนี้สามารถติดตาม ดูตำแหน่งและรายละเอียดของต้นไม้ ทั้งยังได้รับความสนุกสนาน และผูกพันกับต้นไม้ที่ปลูกอีกด้วย และมั่นใจได้ว่าทุกคนมีส่วนร่วมในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อคืนลมหายใจบริสุทธิ์ให้กับโลกอย่างแท้จริง”
STEP OUT OF THE BOX #ก้าวต่อไปไร้กล่อง ถือเป็นก้าวใหญ่สู่ความยั่งยืนสำหรับดิอาจิโอ บริษัทจึงได้ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างรัดกุม เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเลิกใช้กล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์ โดยจากการศึกษาของดิอาจิโอพบว่าการไม่มีกล่องช่วยให้ประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคดีขึ้น ใช้เวลาในการเลือกซื้อเครื่องดื่มบนชั้นวางสินค้าน้อยลง และสร้างปฏิสัมพันธ์กับสินค้าได้มากขึ้น 2.6 เท่า นอกจากนี้ มีผู้บริโภคเพียง 1 ใน 10 เท่านั้นที่สังเกตว่าเครื่องดื่มไม่ได้มาในกล่องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งหมายความว่ากล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษนี้ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่มักซื้อสินค้าของดิอาจิโอเป็นของขวัญ ก็ยังสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ของดิอาจิโอเป็นของขวัญได้เช่นเดิม เพราะสิ่งสำคัญของผลิตภัณฑ์คือสิ่งที่บรรจุอยู่ในขวด ไม่ใช่บรรจุภัณฑ์ภายนอก
ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของดิอาจิโอในการเป็นผู้บุกเบิกด้านความยั่งยืนในทุกขั้นตอนการผลิต หรือ From Grain to Glass Sustainability ภายใต้แผนงาน SOCITEY 2030: SPIRIT OF PROGRESS และการเป็นผู้นำที่เข้าใจความต้องการของผู้บริโภค เพื่อการเป็นบริษัทอุปโภคบริโภคชั้นนำที่ผู้บริโภคไว้วางใจ
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา Johnnie Walker ได้ดำเนินการส่งเสริมด้านความยั่งยืนมาแล้วหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น ความร่วมมือระหว่างดิอาจิโอและบางกอกฟลาวเออร์เซ็นเตอร์ ในการสนับสนุนการใช้ขวดผลิตภัณฑ์ Johnnie Walker ที่ใช้แล้วในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อกล้วยไม้ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Johnnie Walker AIR-INK® LIMITED EDITION ที่ใช้หมึกจากฝุ่นในการสร้างสรรค์ลวดลายบนขวด และล่าสุด งาน Awakening Bangkok 2022 เทศกาลแสงไฟประจำปีกรุงเทพฯ ที่ Johnnie Walker ได้ร่วมมือกับ Time Out Bangkok และพาร์ตเนอร์อีกมากมาย โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสื่อสารแนวคิดเรื่องความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยกันผลักดันให้เกิดความยั่งยืน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องความยั่งยืนเป็นอย่างมากในปัจจุบัน