ธุรกิจบริการสุขภาพ ทั้งโรงพยาบาล สถานพยาบาล เป็นหนึ่งใน Star Business ที่ธุรกิจมีการขยายตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีหลายประเทศต้องการจะพัฒนาธุรกิจบริการสุขภาพให้มีความโดดเด่น แต่ก็ยังสู้ประเทศไทยไม่ได้
สำหรับประเทศไทย มีธุรกิจบริการ 2 ประเภทหลักที่ทำรายได้มหาศาล คือ ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจบริการสุขภาพ โดยเฉพาะธุรกิจบริการสุขภาพที่ต้องการ บุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญระดับสูง มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และยังมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิต ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ ที่ค่ารักษาพยาบาลสูงกว่าไทย 3 เท่า หรือ อินเดีย ที่ค่ารักษาพยาบาลใกล้เคียงกับไทยแต่สภาพแวดล้อมไม่ดี ดังนั้นจึงเห็นนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการสุขภาพปีละกว่าล้านคน
นพ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน บอกว่า ไม่น่าแปลกใจที่มีโรงพยาบาลไทยพัฒนาเป็น International เพื่อรองรับผู้ใช้บริการจากต่างประเทศ ส่วนนครธน มีหน่วยงานที่รองรับอยู่ ซึ่งส่วนมากเป็นชาวจีน และพม่า แต่ก็ถือว่าเป็นจำนวนน้อยมาก เพราะเป้าหมายของนครธน ต้องการเป็นโรงพยาบาลเพื่อคนในท้องที่ เน้นกรุงเทพตะวันตก และภาคใต้ตอนบนเช่นเดิม
ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมถึงเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ส่งผลให้การรักษาใช้เวลาสั้นลงเหลือ 1-3 วันก็สามารถกลับบ้านได้จากเดิมใช้เวลา 5-7 วัน ทำให้จำนวนผู้ป่วยในลดลง เหลือประมาณ 100 – 110 คนต่อวัน ขณะที่ผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,000 คนต่อวัน และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีก รพ. จึงปรับแผนและเน้นการลงทุนเพื่อรองรับการให้บริการผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น
สำหรับแผนของ รพ. จะเน้นให้บริการด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน โดยมีการรักษาผ่านศูนย์ทางการแพทย์ เช่น ศูนย์หัวใจ, ศูนย์รักษ์เต้านม, ศูนย์กระดูกและข้อ, ศูนย์สุขภาพนครธนอายุวัฒนา เป็นต้น ทำให้สามารถวินิจฉัยและตรวจรักษาได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว
“คนรุ่นใหม่หาข้อมูลทางสุขภาพมาในระดับหนึ่งแล้ว พอมาโรงพยาบาล ก็สามารถพบแพทย์เฉพาะทางได้เลย นี่คือแนวทางของ รพ.นครธน”
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างเตรียมจัดตั้งศูนย์การแพทย์ใหม่เพิ่มเติม เช่น ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคทางเดินอาหารเพิ่มขึ้น เพราะเป็นโรคที่มากับความเครียด ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่อรองรับกลุ่มผู้สูงอายุ อีกทั้งได้พัฒนาศูนย์ภูมิแพ้ เพราะปัจจุบันคนกรุงเทพเป็นภูมิแพ้กันมากขึ้น เพราะอากาศมีความเป็นมลภาวะสูงขึ้น หรือการพัฒนาศูนย์สุขภาพเด็ก แยกเด็กสุขภาพดี ที่มาฉีดวัคซีน ด้านพัฒนาการและด้านจิตวิทยาเด็ก ออกจากเด็กป่วย ที่มารับการรักษา ทุกศนย์จะมีบุคลากรการแพทย์ที่ครบถ้วน มีอุปกรณ์การแพทย์ และให้การดูแลรักษาแบบครบวงจร
แผนงานทั้งหมด รพ. เตรียมงบลงทุนกว่า 240 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงด้านสถานที่ อุปกรณ์การแพทย์ และลงทุนด้านระบบไอที ซึ่งจากแนวทางการทำธุรกิจ และการที่บริการด้านสุขภาพเป็นสิ่งที่จำเป็น รพ.นครธน ตั้งเป้าการเติบโตทางธุรกิจในปีนี้ 15% โดยไตรมาสแรกสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ปี 58 มีการเติบโตกว่า 6% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่แน่นอน
นพ.วิโรจน์ บอกว่า แม้ธุรกิจบริการสุขภาพจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่ก็ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและการเมืองเช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ เพียงแต่อาจจะกระทบน้อย แต่ถ้ารัฐบาลไทยมีการสนับสนุนที่ชัดเจนมากขึ้น เชื่อว่าจะส่งผลให้ธุรกิจบริการสุขภาพ ขยายตัวได้มากกว่านี้ และขยับฐานะเป็น Medical Hub ชั้นแนวหน้าของโลกได้ไม่ยาก