ประเด็นการค้าขายออนไลน์กำลังหมุนจากยุค E-commerce สู่ยุค Social Commerce คงเป็นเรื่องที่เราเริ่มเห็นกันมากขึ้นและชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ จากพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงสถิติต่าง ๆ ที่มีข้อมูลออกมา ซึ่งประเด็นนี้ SHOPLINE Thailand ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจ จากสถิติการซื้อขายบนออนไลน์ในประเทศไทยระหว่าง
โดย คุณชนนันท์ ปัญจทรัพย์ Country Manager ของ SHOPLINE Thailand เล่าข้อมูลที่น่าสนใจว่า COVID-19 ทำให้สถานการณ์ E-commerce เติบโตขึ้น โดยเฉพาะปี 2020 ซึ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 35% แต่ภาพรวมในปี 2021 คาดว่าจะเติบโตราว 15-20% และเติบโตในระดับดังกล่างต่อเนื่องไปอีก 3 ปี
ปัจจัยที่ทำให้ E-commerce เติบโต ก็มาจากสาเหตุที่รู้กันดี คือ แบรนด์สามารถ Direct to Consumer (D2C) ได้เลย เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน ทำให้พ่อค้าแม่ขายที่เคยมองออนไลน์เป็นทางเลือก ต้องมองใหม่ว่าเป็นช่องทางหลักของการทำธุรกิจ ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไป เช่น จากเดิมที่คนซื้อสินค้าออนไลน์จะอยู่ในวัย 15-45 ปี แต่ปัจจุบัน กลุ่มผู้สูงอายุก็หันมาซื้อของออนไลน์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ E-commerce ทำให้เห็น 2 เทรนด์ คือ 1.ผู้บริโภคมีความคาดหวังสูงขึ้น เช่น ส่งของเร็วขึ้น และให้บริการแบบ Seamless 2.การแข่งขันที่สูงขึ้น ผู้ประกอบการต้องมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
Top Trend ที่จะยังคงอยู่กับยุค E-commerce ต่อไป
Omnichannel: คนขายต้องพึ่งพาการขายจากหลาย ๆ ช่องทาง
Availability of Payment and Delivery Options: ช่องทางส่งของและการชำระค่าสินค้า ร้านค้าต้องมีครอบคลุม ทั้งเครดิต การโอนเงิน พร้อมเพย์ หรือวอลเล็ตต่าง ๆ ว่ามีเพียงพอให้ลูกค้าหรือยัง / การเก็บและส่งของ มีเพียงพอหรือยัง
Creative Wins: ในอดีตคนซื้อสินค้าออนไลน์เพราะราคา แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ผู้ประกอบการจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์เพื่อทำให้ร้านค้าของตนเองมีความโดดเด่นกว่าคู่แข่ง
Seamless Customer Experience: แค่เสิร์ชหาสินค้า กระทั่งเจอร้านค้า เลือกสินค้า และการซื้อ ทุกขั้นตอนต้อง Seamless
Direct to Consumer: ตอนนี้แบรนด์ใหญ่ ไม่ต้องการขายผ่านพ่อค้าคนกลางหรือผ่านแพลตฟอร์มแล้ว แต่ต้องการเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าจึงกลายเป็นการขายแบบ D2C ทั้งแบรนด์ใหญ่และกลาง
Social Commerce: จากเทรนด์ในประเทศไทย พบว่าผู้บริโภคนิยมเลือกซื้อสินค้าจาก Facebook คิดเป็น 58%, LINE 35%, Instagram 21%, Twitter 11% โดยตัวเลขที่น่าสนใจ คือ ช่วงวัยที่นิยมช้อปผ่าน Facebook มากที่สุด คือ 35-44 ปี ส่วน Twitter คือวัย 18-24 ปี อย่างไรก็ตาม 69% ของผู้ที่ซื้อสินค้าผ่าน Facebook บอกว่าเลือกซื้อผ่าน Page
สถิติอื่น ๆ บน Social Commerce ของคนไทย
- 56% คนไทยซื้อสินค้าผ่าน Social Commerce ในช่วง COVID-19
- 62% ระบุว่ารู้สึกพึงพอใจที่ได้มีประสบการณ์ Social Commerce
- 45% ซื้อสินค้าผ่าน Social Commerce ด้วยมูลค่าประมาณ 1,000-3,000 บาทต่อเดือน
- มากกว่า 50% ทั้งวัยทำงานและนักเรียน ต่างใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อดูหรือเลือกสินค้าผ่าน Social Commerce
- สินค้าที่ผู้หญิงนิยมซื้อ คือ เสื้อผ้า (62%) และผลิตภัณฑ์ความงาม (59%)
- ส่วนผู้ชายนิยมซื้อ Gadget (25%) และของตกแต่งบ้าน (21%)
- ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ หรือวัย 55 ปีขึ้นไป จะสนใจอาหารและเครื่องดื่ม (40%)
Social Commerce อนาคตการค้าออนไลน์ ที่ต้องเรียนรู้
คุณชาญฤทธิ์ อนันตประยูร Marketing Manager ของ SHOPLINE Thailand อธิบายว่า Social Commerce คือ การค้าขายออนไลน์ในอนาคต หากเปรียบเทียบสถานการณ์ระหว่างในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชีย เกี่ยวกับการเติบโตในปี 2021 ของ Social Commerce ในไตรมาสที่ 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 จะพบว่า…
ทิศทาง Live Commerce ในไทย
มียอดขายเพิ่มขึ้นราว 300%
จำนวนคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 210%
ปริมาณการ Live เพิ่มขึ้น 300%
จำนวนการคอมเมนต์เพิ่มขึ้น 283%
ทิศทาง Live Commerce ในเอเชีย
มียอดขายเพิ่มขึ้นราว 160%
จำนวนคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 180%
ปริมาณการ Live เพิ่มขึ้น 70%
จำนวนการคอมเมนต์เพิ่มขึ้น 125%
-จากสถิติของ SHOPLINE พบว่า วันจันทร์ เวลา 20.00 น. คือช่วงเวลาที่มีออเดอร์เข้ามาสูงที่สุด (โดยเฉพาะช่วงต้นเดือน) ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์จะเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมทำกิจกรรมอื่นมากกว่า แต่หากเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในเอเชีย จะพบว่า วันพุธ เวลา 22.00 น. คือช่วงเวลาที่มีออเดอร์เข้ามาสูงสุด
-ช่วงเวลาในการ Live ที่เหมาะสมต่อครั้ง คือ 120 นาที ส่วนเวลาที่ร้านค้านิยม Live คือ 19.00 น.
-สินค้าที่ขายดี 3 อันดับแรกสำหรับการ Live คือ สินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ (37%), เครื่องแต่งกาย (28%) และ อาหาร-เครื่องดื่ม (24%)
SHOPLINE กับเป้าหมาย Top 3 Smart Commerce ไทย
SHOPLINE เปิดให้บริการในประเทศไทยเป็นเวลา 8 เดือน ในบทบาท Global Smart Commerce Enabler ผู้ให้บริการระบบจัดร้านค้าบน E-commerce และ Social Commerce แบบครบวงจร ทั้งเว็บไซต์ การตลาด การจัดการออเดอร์ เพื่อช่วยผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ เพิ่มยอดขาย และประหยัดเวลา ปัจจุบัน ให้บริการใน 7 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย เวียดนาม จีน สิงคโปร์ และไทย โดยมีลูกค้าที่ใช้งาน SHOPLINE มากกว่า 250,000 แบรนด์ และทำยอดขายได้กว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยช่วงครึ่งหลังของปีนี้ SHOPLINE มีแผนเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง LIVE bidding ฟีเจอร์การประมูลแบบ LIVE ที่จะทำให้ลูกค้าที่ให้ราคาสูงสุดใน LIVE สามารถรับสินค้าได้อัตโนมัติ และ Golden Minutes นาทีทอง สำหรับร้านค้าที่จะจัดกิจกรรมเล่นเกมกับลูกค้าเพื่อแจกของกำนัล อำนวยความสะดวกแก่ร้านค้าออนไลน์เพื่อรองรับความต้องการของการใช้งาน Live Commerce ในประเทศไทย
นอกจากนี้ SHOPLINE ยังมีฟีเจอร์พร้อมให้บริการในรูปแบบ E-commerce Solution เช่น Chat bot, ฟีเจอร์ LIVE, ระบบจัดการหลังบ้าน และการสร้าง Website ที่ทำได้ง่ายใน 5 นาที พร้อมมี Drag & Drop Website, Shoplytics ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และ CRM ในการจัดทำระบบสมาชิกและดูแลลูกค้า
ส่วนบริการเพื่อ Social commerce เช่น Message Center ช่วยดึงทุกข้อความมารวมไว้ทีเดียวทำให้บริหาร จัดการ และตอบได้ง่าย, Live Streaming Tools ช่วยขายสินค้าผ่าน Live ช่วยในการดูด CF ส่งออเดอร์ผ่านแชทอัตโนมัติ, Chatbot ที่สามารถโต้ตอบและปิดการขายได้ เป็นต้น