ยุคนี้ต้องทำหลายอย่าง! Swensen’s เปิดแบรนด์ใหม่ ‘SIP’ (ซิบ) ขายแต่เครื่องดื่ม มาพร้อมสูตรใหม่ไม่เหมือนใคร ‘ไข่+ครีม’ ได้ไอเดียจากเวียดนาม ประเดิมสาขาแรก เซ็นทรัลลาดพร้าว
เรียกว่าเป็นยุคที่ต้องเปิดตลาดใหม่อยู่ตลอดเวลา แม้แต่ Swensen’s เจ้าตลาดไอศกรีม ก็ต้องสร้างสิ่งใหม่ๆ ไม่หยุดนิ่งด้วย ล่าสุด เปิดแบรนด์ใหม่ ‘SIP’ (อ่านว่า ซิบ ที่หมายถึงการจิบ) ขายเครื่องดื่มหลากหลายรสชาติ มีทั้งสมูทตี้ผลไม้ กาแฟ และชา แต่เพื่อสร้างความแตกต่างกว่าใคร คือการครีเอทสูตรพิเศษด้วยการเพิ่มท็อปปิ้งด้านบนด้วย “ไข่ + ครีม” ที่ให้รสสัมผัสนุ่ม หวานมันเข้มข้น แต่ถ้าใครคิดว่า “ไข่” จะทำให้เครื่องดื่มคาว ก็ผิดถนัด เพราะมันลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ
อนุพนธ์ นิธิยานันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สเวนเซ่นส์ (ไทย) จำกัด เผยถึงที่มาของการเปิดแบรนด์ใหม่ว่า มันคือความท้าทายของการเป็นเบอร์ 1 ในตลาดของ Swensen’s มานานกว่า 37 ปี สิ่งที่ชาเลนจ์ไม่ใช่เรืองของการรักษาอันดับหรือสร้างยอดขาย แต่เป็นการที่จะทำอย่างไรให้การบริโภคเพิ่มขึ้น ผ่านการสร้างโอกาสในการเข้ามาของลูกค้า แต่ภาพของ Swensen’s ซึ่งเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งมากใครมาก็นึกถึงแต่ขายไอศกรีม ดังนั้น โจทย์คือจะสร้างการบริโภคเพิ่มได้อย่างไร คำตอบก็มาตกอยู่ที่การเปิดแบรนด์ใหม่ ด้วยโปรดักส์ใหม่ไปเลย ซึ่งเห็นว่าธุรกิจเครื่องดื่มในเมืองไทยน่าสนใจและยังเติบโตไปได้อีกมาก เป็นธุรกิจที่ซื้อกินได้ทุกวัน ที่สำคัญกำไรต่อการขายก็สูงกว่าไอศกรีมอีกด้วย
“สิ่งที่เป็นความท้าทายของเราก็คือ Swensen’s คือไอศกรีม เป็นแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็น Family with Kid และลูกค้าที่นัดสังสรรค์ในหมู่เครือญาติ ผ่านการนั่งทานไอศกรีมในร้าน ก็เป็นการยากที่จะทำให้การบริโภคเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น การมองหาธุรกิจใหม่จึงเป็นคำตอบที่ดีกว่า สร้างโปรดักส์ใหม่เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการพาลูกค้าเข้ามาหาเรา แม้ว่ามันจะเป็น Red Red Ocean เลยแหละ แต่ว่ามันยังโตไปได้อีก เพียงแค่เราทำอะไรที่มันแตกต่าง อย่างการใช้สูตรไข่ครีม ก็ไม่เหมือนใครแล้ว ”
สำหรับ #สูตรไข่ครีม (Egg and Cream) ถูกคิดและพัฒนาโดยทีมอาร์แอนด์ดีของ Swensen’s ที่ได้แรงบันดาลใจจากหลายประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะกาแฟเวียดนาม ที่ใช้ไข่สดตอกลงไปทานกับกาแฟร้อน ซึ่งให้รสชาติหวานมันและไม่มีความคาวเลย แต่ทางทีมอาร์แอนด์ดีของ Swensen’s มองว่าสามารถต่อยอดได้มากกว่านั้น และสร้างสรรค์เมนูที่หลากหลาย ซึ่งเมนูก็มีตั้งแต่ปั่นและไม่ปั่น ร้อนและเย็น ส่วนใครที่ยังไม่อยากลองไข่ครีม ก็มีเครื่องดื่มปกติให้ลองเช่นกัน โดยร้าน Sip ยังมีกิมมิกที่น่าสนใจ คือวิธีการดื่ม ไม่แนะนำให้ดื่มจากหลอด แต่ให้ใช้วิธีการ “จิบ” จากถ้วยเลย เช่นเดียวกับที่มาของชื่อร้าน
#ราคา อยู่ระหว่าง 99-139 บาท มุ่งกลุ่มเป้าหมายคนทำงานคนกรุงมากกว่ากลุ่มนักเรียนนักศึกษา มีทั้งหมดประมาณ 30 เมนูด้วยกัน อย่างไรก็ตาม แบรนด์นี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง (Experiment Brand) ที่ขอทดสอบเพอร์ฟอร์แมนต์และความพึงพอใจของลูกค้าเป็นเวลา 2 เดือนก่อน (ปิดวันที่ 26 ก.ค.) และมาในรูปแบบ Grab and Go และ Delivery ไม่เน้นนั่งทาน ดังนั้นตัวร้านจึงเป็น Pop up store และหากผลตอบรับดี ลูกค้ามีการซื้อซ้ำ และจดจำแบรดน์ได้ ก็อาจจะประเมินในการเปิดเป็นแบรนด์ถาวรต่อไปก็ได้
“เราใช้เวลาในการพัฒนาประมาณ 6-7 เดือน และมองว่าการตั้งราคาที่ 99-139 บาท ไม่แรงเกินไป เพราะเรามีกลุ่มเป้าหมายไม่ใช่เด็กนักเรียนนักศึกษาแต่เป็นวัยทำงาน เป็นคนในเมือง นั่นจึงเป็นที่มาด้วยว่าทำไมเราเลือก ทดลองที่สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งถ้าดูแล้วก็จะเห็นว่าราคานี้ไม่หนีจากร้านอื่นในห้างเลย”
อย่างไรก็ตาม การทดลองนี้เปิดแบรนด์ใหม่ ด้วยการเปิดร้านจริง ทดสอบจริง ถือเป็นการทำการตลาดรูปแบบใหม่ ที่ อนุพนธ์ มองว่า คุ้มกว่าการที่มานั่งทำการทดสอบผ่านกลุ่มเป้าหมายแบบในอดีต เพราะได้คำตอบที่มักไม่ตรงกับความเป็นจริง
ส่วนในการทำการตลาดนั้นแน่นอนว่าจะเน้นไปที่ช่องทางดิจิทัลและการใช้ KOL เพื่อต่อยอด และชักชวนให้มาลองสิ่งใหม่ๆ เพราะเป็นสูตรใหม่ในตลาดไทยที่ไม่เคยมีมาก่อนจริงๆ นอกจากนี้ หากว่าแบรนด์ได้รับการตอบรับที่ดีในอนาคต ก็อาจจะถอดคำว่า by Swensen’s ออก เมื่อเราเห็นว่าแบรนด์แข็งแรงและสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง
“กับการเปิดเป็นแบบ Experiment Brand คุ้มค่ากว่า การทดสอบแบรนด์หรือการทำรีเสิร์ชแบบเก่าๆ เพราะเมื่อเปิดและขยายแบรนด์จากการสำรวจความเห็น มันจะเจ็บหนักกว่าถ้าทำไปแล้วมันไม่เวิร์คซึ่งเราก็มีให้เห็นกันบ่อยๆ แต่ถ้าเราเปลี่ยนใหม่ เราทดสอบกันจริงๆ บนสนามจริง เรียนรู้กันจริงๆ ไปเลย เจ็บน้อยกว่าแน่นอน แถมถ้าเกิดว่ามันไปไม่ได้ ผมก็ยังสามารถนำเมนูสัก 3 ตัวเด่นนี้ไปจับใส่ในร้านของ Swensen’s ได้ด้วย ดังนั้น ลงทุนไปกับตรงนี้ไม่สูญเปล่าแน่นอน” อนุพนธ์ บอกอย่างมั่นใจ
