สิงห์ เอสเตท ไม่หวั่นตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว ลงทุนเพิ่ม 10,000 ล้าน เล็งปักหมุด “พม่า-เวียดนาม”

  • 24
  •  
  •  
  •  
  •  

Singha-Estate

สิงห์ เอสเตท (Singha Estate) ธุรกิจด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในเครือบุญรอดฯ เจ้าตลาดธุรกิจเครื่องดื่มที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ปัจจุบันถือธุรกิจ 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ธุรกิจอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก, ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่พักอาศัย รวม 39 แห่ง ตั้งเป้าเป็น “โกลบอล โฮลดิ้ง คัมปานี” (Global Holding Company) ปีนี้เตรียมพร้อมลงทุนเพิ่มสูงสุด 10,000 ล้านบาท เพื่อสร้างรายได้ให้ถึง 20,000 ล้านบาท ภายในปี 2563 ท่ามกลางสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว แย้มอาจปักหมุดเพิ่ม “พม่า-เวียดนาม”

จากการประเมินสถานการณของ สิงห์ เอสเตท คาดรายได้ช่วงครึ่งปีหลัง 2562 ยังพบสถานการณ์การชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ส่วนพื้นที่ทำเลคุณภาพในอนาคตยังการเติบโตที่ดีอยู่ สำหรับสิงห์ เอสเตท ในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2562 สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มีกำไรสุทธิ 293 ล้านบาท มีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท สูงขึ้นมากกว่า 160% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้

นริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชนกล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 ว่า มีความมั่นใจที่จะเดินหน้าลงทุนและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามที่วางไว้ด้วยงบลงทุน 8,000-10,000 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อสร้างรายได้ให้ถึง 20,000 ล้านบาท ภายในปี 2563

ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ คาดว่าจะมียอดขายและยอดโอนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยจะมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ ซอยรางน้ำ, อาคารสำนักงาน Oasis บนถนนวิภาวดี-รังสิต และโรงแรม 2 แห่ง ในโครงการ CROSSROADS สาธารณรัฐมัลดีฟส์ จากแผนดังกล่าวนี้จะทำให้ สิงห์ เอสเตท ก้าวขึ้นเป็น โกลบอล โฮลดิ้ง คัมปานี อย่างสมบูรณ์แบบในปีนี้

ในส่วนโครงการเดิมที่มีอยู่แล้ว เช่น THE ESSE ASOKE ซึ่งมีการทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ส่วนโครงการ THE ESSE @SINGHA COMPLEX จะมีการโอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบห้องให้ลูกค้าในไตรมาส 3 ปีนี้ นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการอื่นๆ ที่ทยอยรับรู้รายได้อีกอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ สิงห์ เอสเตท มียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในปี 2562 และที่เหลือในปี 2563

Singha-Estate
ดิ เอส อโศก

ถึงแม้ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีการปรับตัวจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ อาทิ เช่น เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และนโยบายกำกับดูแลสินเชื่อของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อบ้าน แต่ สิงห์ เอสเตท ยังคงเดินหน้าลงทุนและพัฒนาโครงการตามแผนที่วางไว้ โดยมีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ พร้อมรับความท้าทายของตลาดอสังหา นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย นายนริศ กล่าว

โดยปี 2562 ยังคงเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวรายได้จากการลงทุนในกิจการกลุ่มเอาท์ริกเกอร์ ที่มีโรงแรม 6 แห่ง และอาคารสำนักงานสิงห์ คอมเพล็กซ์ (The Office at SINGHA COMPLEX) ที่แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย และเริ่มรับรู้รายได้จาก โครงการ CROSSROADS สาธารณรัฐมัลดีฟส์

วางแผนปักหมุดเพิ่ม “พม่า-เวียดนาม” เจาะตลาดพรีเมียม

Singha-Estate

นริศ เปิดเผยว่า “ได้รับการเชิญชวนจากนักลงทุนรายใหญ่ในประเทศพม่า ให้สิงห์ เอสเตท ไปลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เพราะเห็นศักยภาพของบุญรอดฯ ที่สามารถรุกธุรกิจอสังหาฯ ได้สำเร็จ โดยยื่นข้อเสนอบนทำเลทองของประเทศ ‘ย่างกุ้ง’ จัดทำโครงการในรูปแบบมิกส์ยูส กลุ่มเป้าหมายยังคงเป็นกลุ่มพรีเมี่ยมเหมือนเดิม”

“ก่อนหน้านี้สัก 3 ปี ประเทศพม่ามีความผันแปรด้านการลงทุนเป็นอย่างมาก เกิดจากความไม่ชัดเจนในการเลือกตั้ง แต่ปัจจุบันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ประเทศพม่ามีศักยภาพที่จะเติบโตได้สูง เพราะมีทรัพยากรธรรมชาติที่ค่อนข้างสมบูรณ์ มีท่าเรือทางผ่านให้การขนส่งสินค้าไปยังหลายๆ ประเทศ มีแรงงานที่สามารถขับเคลื่อนพัฒนาประเทศได้อีกเยอะ นอกจากนี้ยังมีอีกประเทศที่น่าสนใจ นั่นก็คือ เวียดนาม ที่ยังมีศักยภาพสูง แต่คู่แข่งด้านการลงทุนจะสูงกว่าพม่า ถือเป็นสองประเทศที่น่าลงทุนในอนาคต”

เตรียมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่ม ใช้ชื่อ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท

นอกจากนี้ สิงห์ เอสเตท ยังมีแผนนำธุรกิจโรงแรมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงปลายปีนี้ โดยใช้ชื่อ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้ลงทุนโรงแรมและบริหารรีสอร์ทระดับพรีเมียม ในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมุ่งสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ ผ่านการบริการที่เป็นเลิศ การให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ตลอดจนธรรมชาติที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับ สิงห์ เอสเตท และเพิ่มความพร้อมในการลงทุนขยายธุรกิจในแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำทั่วโลก ให้กับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เพื่อตอบสนองต่อโอกาสจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

เมื่อต้นปี 2652 บริษัทฯได้จัดตั้งกองทรัสต์  SPRIME สำหรับธุรกิจอาคารสำนักงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม และยังเคยประสบความสำเร็จในการนำธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ภายใต้ชื่อ บริษัทเนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปี 2560

Singha-Estate


  • 24
  •  
  •  
  •  
  •  
Roboots
Tech Savvy Lv.14