นอกจาก Shell จะมีบทบาทสำคัญยิ่งต่ออุตสาหกรรมปิโตรเลียม เป็นบริษัทพลังงานระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่กำลังเพิ่มขึ้นของโลกด้วยวิธีการที่มีความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมแล้ว
สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นมาและดำเนินต่อไป นับตั้งแต่วันที่ก่อตั้ง จนถึงวันนี้ครบรอบ 126 ปี Shell ยังคงมุ่งมั่นมีส่วนร่วมในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพให้กับคนไทย และเติบโตเคียงคู่กับสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ
ด้วยพนักงานกว่า 93,000 คนใน 70 ประเทศทั่วโลก สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ Shell สามารถเข้ามาเติมสุขให้ทุกชีวิตได้คือ การที่บริษัทให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาคน โดยเฉพาะเรื่องการช่วยให้พนักงานทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข Shell ถือเป็นโรงเรียนที่ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่พัฒนาคนให้ก้าวไปสู่บุคลากรที่มีคุณภาพ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และมีพลังที่จะส่งต่อความสุขให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
การอยู่ร่วมกันในองค์กรที่เคารพในศักยภาพของแต่ละบุคคล ก่อให้เกิดวัฒนธรรมความเป็นผู้นำ กลายเป็นภาระหน้าที่สำคัญและพลังที่แข็งแกร่ง สะท้อนออกไปสู่คุณค่าความรับผิดชอบต่อภายนอก ที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศภายใต้ค่านิยมหลัก (core values) ของ Shell ซึ่งประกอบไปด้วยความซื่อสัตย์ (honesty) คุณธรรม (integrity) และการให้เกียรติผู้อื่น (respect for people)
ด้วยการสนับสนุนจากองค์กรที่แข็งแกร่งอย่าง Shell ทุกคนสามารถค้นพบตัวเองและได้รับ “โอกาส” กุญแจสู่ความสำเร็จที่จะเข้ามาขับเคลื่อน “ฝัน” และนำไปสู่หน้าที่การงานอีกระดับได้ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา ผู้สำเร็จการศึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่มีประสบการณ์
“ที่ Shell มีโอกาสมากมายรออยู่”
คุณธเนศร์ รัชตะปีติ ผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจยางมะตอย ภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำอย่าง Shell มา 23 ปี โดยเริ่มต้นงานตำแหน่งวิศวกร เพราะมี background ทางด้านนี้มาก่อน ในระยะเวลาการทำงานที่ยาวนานนี้ คุณธเนศร์ได้มีโอกาสทำงานที่ประเทศสิงคโปร์เป็นเวลา 6 ปี ใน 4 ตำแหน่งงาน ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ภายใต้หน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง ตลอดเวลา ทำให้ได้ค้นพบตัวเองในหลายๆ ด้าน ซึ่งไม่คิดมาก่อนว่าจะทำได้ มีโอกาสได้ไปดูงานด้านโรงกลั่น รวมทั้งทำงานด้านฝ่ายขาย การได้รับโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากองค์กร ที่มีชื่อเสียงมายาวนานอย่าง Shell ทำให้ค้นพบา ศักยภาพของตัวเองไม่ได้มีขีดจำกัด
คุณธเนศร์ มองว่า “โอกาส” คือกุญแจของความสำเร็จ และที่ Shell นั้นมีโอกาสมากมายรออยู่ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพนักงานแต่ละคนเท่านั้น ว่าจะสามารถคว้าโอกาสนั้นไว้ได้ไหม นับเป็นการกระตุ้นให้ตัวเองรู้สึกถึงความท้าทายอยู่เสมอ ตระหนักถึงคุณค่าของงานที่ได้ทำ และย้อนกลับมาทบทวนความพร้อมของตัวเอง เพื่อพัฒนาตัวเองสำหรับโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ
“เมื่อเรามองเห็นโอกาส เราสามารถเตรียมพร้อมสำหรับตัวเองได้มากขึ้น ยิ่งอยู่นานไม่ใช่แค่ตัวเราเองที่แข็งแรงหรือเติบโตขึ้น ตัวบริษัทเองก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถนำcore values และ mission มาเชื่อมโยงสู่สังคมไทยและสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติมากขึ้นและที่สำคัญ Shell จะเปิดโอกาสให้ทุกคนอย่างเท่าเทียม” คุณธเนศร์ กล่าว
ค่านิยมหลักที่รับทราบ และสืบทอดกันมาตั้งแต่แรกก็คือ ความซื่อสัตว์ คุณธรรม และการให้เกียรติผู้อื่น ที่ได้กลายเป็นดีเอ็นเอของ Shell เป็นสิ่งที่พูดกันเป็นเรื่องปกติ แต่ชัดเจนมาก ทั้งในเรื่องของการปฏิบัติงานทั่วไป และการรับคน ซึ่งจะมีการแจ้งให้ทราบเรื่องค่านิยมหลักตั้งแต่เริ่มรับคนเข้ามาทำงาน และสอดคล้องไปในทุกๆ ส่วน ทั้งการทำงาน การวัดผลงาน จนถึงการลงทุนในธุรกิจต่างๆ รวมทั้งเรื่องของความปลอดภัย (safety) ซึ่ง Shell มุ่งมั่นที่จะดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบและปลอดภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับพนักงาน ชุมชนท้องถิ่น หรือสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกว่า การทำงานที่ Shell นั้นมีคุณค่าในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืนแก่สังคมและประเทศชาติต่อไป
“เราจะยึด 2 สิ่งนี้ไว้เป็นหลักในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ตลอดเวลา กล่าวคือ เราจะพิจารณาว่าสิ่งที่เราทำกระทบต่อคนอื่นอย่างไรบ้างในทุกๆ มิติและขั้นตอนของการทำงาน คุยกันเองในองค์กร กับคนข้างในข้างนอก ในแง่ลงทุนธุรกิจ ชุมชน และคู่ค้าของเราด้วย” คุณธเนศร์ กล่าว
ประการสำคัญของการทำงานที่บริษัท Shell สิ่งที่ทุกคนจะได้รับก็คือ การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากหัวหน้างาน ทั้งการดูแลอย่างใกล้ชิด แนะนำวิธีทำงานที่ดี ชี้ช่องทาง หรือตักเตือนเมื่อจำเป็น สร้างความรู้สึกเหมือนอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวที่หวังดีและห่วงใย ทำให้รู้สึกคล้ายกับสำนวนไทย “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” อาจไม่ทุกกรณีแต่ก็สามารถนำมาใช้ได้กับยุคสมัยปัจุบัน ซึ่งคุณธเนศร์ก็ได้พิสูจน์ตัวเองตลอดมา รวมทั้งได้รับการสนับสนุนที่ดีจากหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ
“เด็กรุ่นใหม่ๆ สามารถเข้าร่วมงานได้ที่ Shell ถ้ามีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองให้พร้อมกับโอกาสที่จะได้รับ เพราะ Shell ก็คือสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยม หรือ ‘a great place to work’ ครับ” คุณธเนศร์ กล่าว
นอกจากการเป็นบริษัทพลังงานระดับโลกแล้ว Shell ยังมีความหลากหลายของธุรกิจอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง หรือปั้ม Shell ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง น้ำมันที่ใช้กับยานพาหนะหลายประเภท ยางมะตอย ฯลฯ
โดยเฉพาะธุรกิจภายในสถานีบริการ ที่มีศูนย์บำรุงรักษารถยนต์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้ว ธุรกิจค้าปลีก ร้านกาแฟ และร้านสะดวกซื้อ ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่นและจำเป็นของผู้บริโภค กลายเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่สำคัญของวงการค้าปลีกไปแล้ว
“พนักงานสามารถเลือกงาน เลือกแผนก หรือเลือกตำแหน่ง ที่อยากจะทำต่อไปได้”
คุณทัศน์พล เจนไชยวัฒน์ ผู้จัดการธุรกิจเชลล์ชวนชิม แผนกการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ร่วมงานกับ Shell เข้าปีที่ 4 จากที่เคยผ่านงานด้าน marketing ธุรกิจสี เพราะความชื่นชอบงานด้าน brand and consumer experience ที่ Shell ที่ได้คิดงานมากกว่าทำหน้าที่แค่ทำสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์
สำหรับคุณทัศน์พล การได้รับผิดชอบงานที่เกี่ยวกับ consumer experience แบบเจาะลึก ท้าทายมากกว่าการทำ marketing แค่มิติเดียว ซึ่งก็ได้มีโอกาสไปฝึกอบรมที่ต่างประเทศหลายแห่ง เช่น อังกฤษ สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยตำแหน่งปัจจุบันเป็นตำแหน่งงานที่ 2 ที่ Shell คือ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจเชลล์ชวนชิม
คุณทัศน์พลกล่าวว่า Shell เป็นบริษัทที่เปิดโอกาสให้พนักงานเติบโตในหน้าที่การงาน ซึ่งมีไม่กี่บริษัทในประเทศไทยที่สามารถมอบโอกาสเช่นนี้ได้ พนักงานสามารถเลือกงาน เลือกแผนก หรือเลือกตำแหน่งที่อยากจะทำต่อไปได้ และไม่ใช่แค่พนักงานที่เป็นฝ่ายมองหาตำแหน่งใหม่ๆ ใน Shell เอง แต่ทั้งหัวหน้างานและผู้ใหญ่ในองค์กร จะคอยให้คำแนะนำและดูว่า พนักงานแต่ละคนจะเติบโตต่อไปได้อย่างไรบ้าง
“วัฒนธรรมองค์กรของ Shell จะแตกต่างจากที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด Shell จะมองเห็นความสามารถของเรา ให้ คุณค่ากับสิ่งที่พนักงานอยากจะทำ เป็นสิ่งที่มีไม่กี่บริษัทจริงๆ ที่ให้โอกาสเราได้ขนาดนี้ ยกตัวอย่างเช่น เราอาจเคยอยู่แผนกสถานีบริการน้ำมัน แต่อยากเปลี่ยนไปทำงานคลัง หรือสายการเดินเรือ ไม่ว่าจะจบการศึกษาด้านไหนมา Shell มีกระบวนการที่จะนำความรู้ความสามารถของน้องๆ มาพัฒนาได้เต็มที่ ซึ่งน้องๆ เป็นได้ทั้งนักการตลาด นักวางกลยุทธ์ แคทแมนหรือ Category Manager ดูแลร้าน SELECT ดูแลด้านผลิตภัณฑ์ หรือเป็นได้แม้กระทั่ง barista” คุณทัศน์พล กล่าว
การทำงานภายใต้ชายคา Shell จะมีโอกาสได้ลองทำอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งการเปิดโอกาสไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำตำแหน่งเดิมตลอดไป แต่จะนำเสนองานส่วนที่เหมาะสม มีความท้าทาย เหมือนตัวเองได้ออกจาก comfort zone ซึ่งหัวหน้างานเป็นส่วนสำคัญมากที่ช่วยเหลือเรื่องการเติบโต นั่นคือ การให้โอกาส
ความรู้สึกภูมิใจของคุณทัศน์พล หรือคุณเต้ย ในการร่วมงานกับ Shell คือ การได้ลองทำอะไรที่เป็น “ครั้งแรก” ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก อาทิ การเปิดตัว V-Power น้ำมันระดับพรีเมียมของ Shell การสร้างแบรนด์ Deli Café ที่นำเข้าประเทศไทยตั้งแต่ปี 2015 รวมถึงการเปิดตัว Shell SELECT ที่เริ่มเปิดในไทยตั้งแต่ปี 1993 ถือเป็นร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมันเจ้าแรกของประเทศ เช่นเดียวกับการเปิดโอกาสให้ดูแลงานด้านเชลล์ชวนชิม เพราะหัวหน้างานมองว่า มีความสามารถ รวมทั้งความชื่นชอบส่วนตัวของคุณเต้ยเกี่ยวกับอาหาร
สิ่งที่ภาคภูมิใจของคุณเต้ยก็คือ การทำแคมเปญกึ่ง CSR เช่น โครงการเชลล์ “เติมสุขเติมโอกาส” (Fuel the Happiness) ซึ่งเปิดโอกาสให้คนใน Shell ได้นำความสามารถของตัวเอง เข้าไปช่วยเด็กด้อยโอกาส รวมทั้งเปิดโอกาสให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในแคมเปญผ่านการเติมน้ำมัน กดไลค์ เป็นต้น
ซึ่งเป็นอีกตัวอย่างของ Shell ในเรื่องของการเปิดโอกาสให้พนักงานได้เรียนรู้ตลอดเวลา และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างไม่รู้จบ
“Shell ไม่ได้สอนให้เราเป็นเหมือนพ่อครัวร้านอาหารตามสั่ง สั่งมาก็ทำตามสั่งตลอดเวลา แต่จะเปิดโอกาสให้เราเลือกเส้นทางของเราเองว่า เราอยากไปทางไหน โดยมีหลายเส้นทาง ไม่เฉพาะในไทย แต่ต่างประเทศอีกด้วย”
“พนักงาน Shell สามารถทุ่มเทความสามารถที่มีอยู่ พิสูจน์ถึงความพร้อมของตัวเองกับโอกาสที่จะได้รับจากต่างประเทศ ซึ่งจากธุรกิจของ Shell ทั่วโลก ที่มีขนาดใหญ่มาก ถ้าเราคิดว่าเราพร้อม โอกาสที่จะแสดงออกถึงความสามารถ ในกลุ่มธุรกิจ Shell ที่อังกฤษ ยุโรป หรืออเมริกา ก็เปิดกว้าง นอกจากนี้ ในการทำงานส่วนใหญ่ จะร่วมงานกับทีมระดับโลก บางแคมเปญเป็นงานที่จะต้องทำทุกประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นการให้โอกาสกับพนักงานในไทยมาก”
“อยากให้ลองถามตัวเองว่า เราต้องการอะไร ถ้าอยากทำงานกับบริษัทระดับโลก ที่พร้อมจะผลักดันไอเดียเล็กๆ ซึ่งเป็นไอเดียที่ดี ให้เกิดผลที่ยิ่งใหญ่ หรืออยากสร้างสรรอะไรใหม่ๆ ที่เป็น ‘ครั้งแรก’ ในประเทศไทย หรือแม้กระทั่งระดับโลก ต้องการโอกาสเรียนรู้งานเพื่อการเติบโตในหน้าที่การงาน หรือมองหาความก้าวหน้าในระดับต่างประเทศ Shell เป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบมาก” คุณเต้ย กล่าว
คุณธเนศร์ กล่าวเสริมว่า “ส่วนตัวแล้ว ผมประทับใจมากกับการทำงานที่ Shell ตั้งแต่เริ่มเข้าทำงานใหม่ๆ ซึ่งเคยได้ร่วมงานเป็น Technical Support ให้กับทีมเฟอร์รารีในอิตาลี เป็นเหมือนฝันเป็นจริงสำหรับผม เพราะผมเป็นคนชอบรถมาก การที่ Shell สามารถสนับสนุนความชื่นชอบตรงนี้ได้ ซึ่งมีไม่กี่บริษัทที่ให้พนักงานได้เช่นนี้ เพราะมันเป็นการย้ายงานข้ามประเทศ และย้ายข้ามฟังก์ชั่น การมองเห็นโอกาสในที่ทำงาน สามารถเตรียมตัวของเราได้ สามารถวางแผนให้ตัวเองได้ ผมเชื่อว่าเป็นระบบที่ดีมากๆ แฟร์ เพราะทุกคนจะมองเห็นเหมือนกันหมด เราขาดอะไรที่จะทำให้เราไปถึงจุดที่ต้องการไม่ได้ Shell จะบอกกับเรา แต่เราต้องวิ่งเข้าหาโอกาส”
“หลายๆ คนบอกว่า Shell เป็นเสมือนโรงเรียนชั้นดี ส่วนตัวผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ สิ่งที่ Shell ทำได้ดีมากๆ นั่นคือ การให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน ฝึกฝนในเรื่องของ Outward Mindsetหรือการทำความเข้าใจคนอื่น และวัดความสำเร็จของเราจากการที่เราช่วยให้ผู้อื่นประสบความสำเร็จ ทั้งในสังคมและสถานที่ทำงาน ซึ่ง Shell ก็ทำได้ดีจริงๆ ในมุมของผม และที่องค์กรของเราทำได้ทั้งหมด ก็เพราะบริษัทเรามีความมั่นคง มีความเป็น ‘a great place to work’ ทำให้พนักงานทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข” คุณธเนศร์ กล่าว
Shell งานในฝันของใครหลายคน เพราะที่ Shell ทำงานที่มีคุณค่า เพื่อนร่วมงานต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และหัวหน้าให้การสนับสนุน ประการสำคัญ ต้องมีความก้าวหน้า และตัวเองมีความพยายามทำให้สำเร็จ
Shell โอกาสที่จะได้ทำงานในฝัน…มีอยู่จริง http://bit.ly/Shelldreamjob