เป็นเบอร์ 1 ของประเทศไทย ด้วยสาขามากกว่าหมื่นแห่งในปัจจุบัน แถมยังขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็น 7-ELEVEN อยู่รอบตัว แต่เกมของ “ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ” วันนี้ไม่ได้แข่งขันกันแค่เรื่องจำนวนสาขาอีกต่อไป! เพราะการเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชน พื้นที่ที่ตั้ง หรือแม้แต่การสร้างความแปลกใหม่เพื่อเป็นแรงดึงดูดผู้บริโภค ก็กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสีสันและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันด้วยเช่นกัน
แต่ยุคนี้…คงต้องบอกว่า อันดับในตลาดไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปิดรับสิ่งใหม่ตลอดเวลา ทั้งยังชื่นชอบนวัตกรรมที่สามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้ง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จากเกมธุรกิจที่เปลี่ยนไป…ทำให้เจ้าตลาดอย่าง 7-ELEVEN โดดลงมาเดินเกมสร้างภาพลักษณ์ใหม่เช่นกัน! ล่าสุด มีการขยายโมเดล Flagship Store ด้วยการยกเครื่องโชว์ภาพลักษณ์ใหม่ ดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัย เป็นสาขาที่ 2 ณ สาขา “ธาราพัทยา” ถ.พัทยาใต้ จ.ชลบุรี ส่วนFlagship Store สาขาแรกที่ 7-ELEVEN คือ สาขาโรงเรียนสาธิตแห่งสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
7-ELEVEN “แฟลกชิป สโตร์” ที่ว่าแตกต่าง เป็นอย่างไร?
สำหรับแนวคิดในการออกแบบFlagship Store ของ 7-ELEVEN แห่งที่ 2 ณ ธาราพัทยา นี้ เกิดขึ้นจาก 4 ไอเดีย ได้แก่…
Oceania เพื่อประสบการณ์แปลกใหม่
เป็นร้านที่ออกแบบให้ลูกค้าและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ ประทับใจ ในรูปแบบมหาสมุทร มีกลิ่นอายของท้องทะเลสีครามผสานกับจุดเด่นของเมืองพัทยา ด้วยการนำเรือยอร์ชมาเป็นองค์ประกอบหลักในการออกแบบ เพื่อให้ลูกค้าได้ชื่นชมท้องทะเลไทย โดยมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยบูรพา สร้างสื่อวิดีทัศน์ ชุดสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลไทยในถิ่นที่อยู่อาศัย ต่อเนื่องจากชายฝั่งจนถึงท้องทะเลลึก โดยจำลองให้ผู้ชมคลิปวิดีทัศน์เสมือนมองผ่านอควาเรียมของสถานีวิจัยใต้น้ำทางทะเล
Landmark แห่งใหม่ของพัทยาใต้
ร้านสาขาธาราพัทยาเป็นร้าน Flagship Store ของบริษัทในพื้นที่ภาคตะวันออก ถือเป็นร้านเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น ณ เมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองแห่งสีสัน ทั้งยังสร้างประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมตามหลักการ CCC : Convenience Community Center โดยชุมชมสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้งานที่ร้านสาขา
อัด “นวัตกรรม” ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล
อุปกรณ์ประกอบการขายในร้านสาขา จะต่อยอดมาจากร้านสาขาสาธิต PIM อาทิ Self-Checkout, Smart Wave, Open showcase แบบมีบานปิด, นวัตกรรมผู้ช่วยอัจฉริยะในรูปแบบนักประดาน้ำ เป็นต้น
ร้านประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
7-ELEVENสาขานี้ถูกออกแบบให้ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมให้ผู้ใช้งานรู้สึกสบาย โดยขยายผลมาจากร้านต้นแบบประหยัดพลังงานสาขาธาราสแควร์ และสาขาสาธิต PIM อีกทั้งยังเป็นร้านนวัตกรรมด้านประหยัดพลังงาน ก่อสร้างตามเกณฑ์ การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า เกณฑ์อาคารเขียว สถาบันอาคารเขียวไทย(Thai Green Building Institute : TGBI) ซึ่งมีมาตรฐานของเกณฑ์เทียบเท่าระดับสากล
นวัตกรรมแน่นร้าน! ตั้งแต่ชาร์จรถยนต์ –KioskShopping ออนไลน์
นอกจากนี้ 7-ELEVEN สาขาธาราพัทยา ยังมีรายละเอียดด้านนวัตกรรม อาทิ EV Chargerสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ระบบไฟฟ้า เพื่อลดการใช้พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยที่ชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ แบบ Quick Charge และ Normal Charge ขนาด 100 kW/Station ใช้เวลาชาร์จต่อคันประมาณ 20 นาที สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐานอาคารเขียว ทั้งยังมีนวัตกรรมผู้ช่วยอัจฉริยะบริการในรูปลักษณ์ มนุษย์ประดาน้ำ อนุสิทธิบัติของ CP ALL สามารถเคลื่อนที่ไปรอบร้านได้โดยรางและชุดขับเคลื่อนที่ผนังรอบร้าน ใช้ระบบรางแขวนระดับสูงและจ่ายไฟฟ้าผ่านรางตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีการออกแบบมาให้ขยับ แขน ข้อศอก มือ ขา ลำคอ ดวงตา และปาก ได้อย่างเป็นอิสระ สามารถรับฟังเสียงลูกค้า และโต้ตอบทักทายได้ เพื่อความสนุกสนานของลูกค้ายุค 4.0
ความไฮเทครูปแบบใหม่ของ 7-ELEVEN สาขาธาราพัทยา ยังรวมถึง Self-Checkoutจุดชำระเงินค่าสินค้าด้วยตนเอง เพื่อความสะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านพนักงานที่เคาน์เตอร์ ลดการรอคิวยาวของลูกค้า, Smart Wave เพื่อให้ลูกค้าสามารถอุ่นอาหารได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรอพนักงานร้านมาบริการ และ 24 Shopping Kioskให้บริการซื้อสินค้า Onlineลูกค้าสามารถดูรายการและรายละเอียดของสินค้าผ่านจอสัมผัส ก่อนตัดสินใจสั่งซื้อ โดยรับสินค้าได้ทันทีที่ร้านสาขา
จากนี้…คงต้องติดตามว่า สงครามคอนวีเนียนสโตร์บ้านเราจะมีสีสันและแข่งขันกันในทิศทางใด แต่แว่วมาว่า ศึกนี้ผู้เล่นแต่ละรายล้วนสู้เต็มกำลัง FamilyMart ที่เป็นเบอร์ 2 หรือแม้แต่ Lawson ที่ครองอันดับ 3 อยู่ตอนนี้ ต่างเตรียมกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อดันตัวเองสู้กับ 7-ELEVEN เต็มกำลัง!