[บทความนี้เป็น Advertorial]
หลายคนมองว่า ความยั่งยืนเป็นเทรนด์ธุรกิจที่กำลังอยู่ในกระแส แต่ความจริงแล้วความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจที่สำคัญไม่แพ้การสร้างการเติบโต เป็นกลยุทธ์หลักที่ทุกธุรกิจต้องให้ความสำคัญ ซึ่งพิสูจน์มาแล้วในช่วงที่ผ่านมา ว่าธุรกิจที่มีการสร้างความยั่งยืน จะสามารถอยู่รอดได้ เนื่องจากทั้งบริษัทและคอมมูนิตี้ที่อยู่ภายในอีโคซิสเต็มมีความเข้มแข็งมากพอที่จะปรับตัวและคว้าโอกาสจากความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันได้
เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบและโอกาสมากมายอยู่บนโลกออนไลน์ ทักษะดิจิทัลจึงกลายเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญในการอยู่รอดและการเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ
แม้โลกดิจิทัลจะเปิดกว้าง แต่หลายคนกลับยังขาดแคลนโดยเฉพาะความรู้ในด้านทักษะดิจิทัล และดูเหมือนว่าการหาสถาบันสอนทักษะดิจิทัลที่พร้อมนำไปใช้สร้างโอกาสในชีวิตประจำวัน จะไม่ใช่เรื่องง่าย
ทำความรู้จัก Sea (ประเทศไทย) บริการดิจิทัลที่อยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด
เมื่อพูดถึงบริการดิจิทัลในปัจจุบัน เราก็มีหลากหลายแพลตฟอร์มให้เลือกใช้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลายด้าน และ Sea (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที่เข้ามายกระดับชีวิตยุคดิจิทัลให้กับผู้คนในยุคปัจจุบัน เช่น การีนา (Garena) ผู้ให้บริการความบันเทิงดิจิทัลผ่านเกมออนไลน์และอีสปอร์ต เช่น Arena of Valor หรือ Free Fire เชื่อว่าคนเล่นเกมในปัจจุบันต้องรู้จักเป็นอย่างดี และอีกธุรกิจที่แพร่หลายไม่แพ้กันก็คือ ช้อปปี้ (Shopee) ซึ่งเป็นอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม ที่เชื่อม SMEs และแบรนด์มากมาย เข้ากับผู้บริโภค ทั้งในประเทศและต่างประเทศนั่นเอง
นอกจากนำบริการดิจิทัลต่าง ๆ มามอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้แล้ว Sea (ประเทศไทย) ยังนำความเชี่ยวชาญจาก 2 ธุรกิจหลัก อย่างการีนาและช้อปปี้ มาทำประโยชน์ในแง่การขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัล ตั้งเป้าผลักดันการมีส่วนร่วมทางดิจิทัล (Promoting Digital Inclusion) ผ่านการกระจายองค์ความรู้และเสริมสร้างทักษะดิจิทัลให้กับคอมมูนิตี้ต่าง ๆ ภายในอีโคซิสเต็มทางธุรกิจ ซึ่งนี่ก็นับเป็นเป้าหมายหลักด้านความยั่งยืนของ Sea ในปี 2565
นอกจากเว็บไซต์ Sea Academy แหล่งรวมทักษะทางด้านดิจิทัลที่สามารถส่งมอบความรู้ไปสู่คนไทยได้ถึงกว่า 540,000 คน ในปี 2565 ก็ยังมีการกระตุ้นการมีส่วนร่วมทางดิจิทัล ผ่าน 2 แกนหลัก ได้แก่ ‘เกมเพื่อการศึกษา’ และ ‘อีคอมเมิร์ซเพื่อพัฒนาสังคมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ’
ใช้เกมเป็นนวัตกรรมทางสังคมเพื่อส่งเสริมการศึกษา
จากความเชี่ยวชาญในธุรกิจเกมและอีสปอร์ต ซึ่ง Sea (ประเทศไทย) มีแนวคิดในการใช้เกมในการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล ผ่านโครงการ Garena Academy ที่ถือเป็นโครงการเรือธงในการใช้เกมเป็นนวัตกรรมทางสังคมเพื่อส่งเสริมการศึกษา ซึ่งเริ่มโครงการฯ ในปี 2563 เริ่มต้นด้วยการให้ความรู้ด้านอาชีพในวงการเกมและอีสปอร์ตผ่านเว็บไซต์พร้อมเวิร์คช้อป เพื่อใช้เกมเป็นสะพานพาคนรุ่นใหม่ไปสู่การพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานยุคดิจิทัล จากโครงการดังกล่าวเว็บไซต์ Garena Academy สามารถนำเนื้อหาความรู้ไปสู่ผู้คนได้กว่า 1.5 ล้านคนแล้ว ในปัจจุบัน
ผลตอบรับจากโครงการดังกล่าว นำไปสู่การพัฒนาโครงการใหม่ผ่าน 3 โครงการใหญ่ ทั้ง โครงการ Learning Arena โดยเป็นโครงการที่ใช้กลไกของเกมในการเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอน สามารถเข้าถึงนักเรียนได้กว่า 15,000 คน
โครงการห้องเรียนอีสปอร์ต (Esports Classroom) ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียน และเปิดโอกาสให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเรียนรู้อาชีพในวงการเกมและอีสปอร์ต ผ่านการลงมือปฏิบัติจริงและจัดการแข่งขันอีสปอร์ตภายในโรงเรียน
โดยโครงการนี้ยังช่วยให้นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะสำคัญในโลกการทำงาน เสมือนเป็นพื้นที่ทดลองการทำงานจริงและการศึกษาระดับสูงผ่านตัวกลางที่สอดคล้องกับความสนใจของแต่ละคน โดยในปีที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมโครงการราว 250 คนจาก 8 โรงเรียนนำร่อง
ตลอดจนโครงการ Gamer to Coder โดยเป็นโครงการที่ใช้พัฒนาทักษะการเขียนโค้ด ซึ่งมีนักเรียนระดับมัธยมปลายและระดับอาชีวะศึกษาจากทั่วประเทศมาร่วมฝึกอบรมในโครงการฯ จำนวนกว่า 1,500 คน
พัฒนาทักษะดิจิทัลง่ายๆ ด้วยอีคอมเมิร์ซ
นอกจากการใช้เกมเป็นสะพานเชื่อมคนรุ่นใหม่และบุคลากรทางการศึกษาไปสู่ทักษะดิจิทัลแล้ว ยังมีการใช้อีคอมเมิร์ซในการพัฒนาสังคมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งการพัฒนาในด้านนี้ จะเน้นการเข้าถึงของทุกคนเพื่อสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงด้านดิจิทัล แล้วแบบไหนที่เรียกว่าลดความเหลื่อมล้ำ
จากผลสำรวจ e-Conomy SEA Report 2022 ที่ระบุจะมีมูลค่า GMV สูงถึง 3.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 17% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้น และคาดว่าในปี 2025 มูลค่าสินค้ารวมเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยจะแตะ 5.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ลองคิดดูว่า SME ท้องถิ่นหรือกลุ่ม OTOP มีโอกาสเข้าถึงดิจิทัลช่องทางอีคอมเมิร์ชได้มากน้อยเพียงใด เมื่อเทียบกับ SME ที่อยู่ในเมือง หรือการสร้างอาชีพด้านอีคอมเมิร์ชให้กับเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล ผู้สูงวัยและผู้พิการผ่านการพัฒนาทักษะด้านผู้ประกอบการ จะช่วยสร้างโอกาสให้กับกลุ่มคนเหล่านั้นได้มากขนาดไหน ผ่านความร่วมมือกับอีคอมเมิร์ซรายใหญ่อย่าง Shopee
แน่นอนว่าโฟกัสหลักคือการสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีความพร้อมให้เข้ามาขยายธุรกิจบนโลกอีคอมเมิร์ซได้ แต่ในปี 2565 ที่ผ่านมานี้ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) ยังได้สนับสนุนกลุ่มคนที่มีข้อจำกัดในการเป็นผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการ การให้คำปรึกษาทางธุรกิจ และการสนับสนุนทางการตลาด ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรจากหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน), กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาโครงการมากมาย
ทั้งโครงการพัฒนาผู้ประกอบการหญิง Women Made, โครงการพัฒนาผู้ประกอบการสำหรับเยาวชน Equity Partnerships, โครงการอัปสกิลวัยเกษียณ สู่ผู้ประกอบการวัยเก๋า และโครงการพัฒนาผู้ประกอบการเพื่อผู้พิการ Shopee Together We Grow
ผลการดำเนินโครงการทำให้ได้เห็นว่า ผู้ประกอบการผู้หญิง 100% และ 96.9% ของผู้ประกอบการวัยเกษียณ ยอมรับว่าได้รับทักษะใหม่และมีความมั่นใจในการนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตนเอง ขณะที่กลุ่มนักเรียนที่ร่วมโครงการพัฒนาผู้ประกอบการเยาวชนสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 300,000 บาท ภายในระยะเวลาที่ร่วมโครงการ
ส่งเสริมทักษะดิจิทัลให้เยาวชน ผ่าน Sea Academy
ไม่เพียงการใช้เกมหรือการใช้อีคอมเมิร์ซ แต่ Sea (ประเทศไทย) ยังส่งเสริมการให้ความรู้และพัฒนาทักษะ โดยเฉพาะด้านดิจิทัล ทำให้ Sea (ประเทศไทย) มีการสร้าง Sea Academy ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกระจายความรู้และพัฒนาทักษะดิจิทัล โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวยังสามารถเข้าถึงผู้คนได้กว่า 540,000 คนในปี 2565 ด้วยเนื้อหาที่สอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายของคนไทย
นอกจากนี้ยังพบว่ามีกลุ่มเยาวชนและโรงเรียนที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนรู้อย่างคอมพิวเตอร์ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ ดังนั้นจึงมีการส่งมอบแล็ปท็อปกว่า 100 เครื่อง เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนมีอุปกรณ์การเรียนรู้ที่ครบครันมากขึ้น
เสริมด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความยั่งยืน
Sea (ประเทศไทย) ยังเป็นอีก Tech Company ที่เริ่มให้ความสำคัญกับการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Combating Climate Change) โดยมีการริเริ่มโครงการรีไซเคิลและอัพไซเคิลบรรจุภัณฑ์ โดยสามารถนำบรรจุภัณฑ์เข้าร่วมโครงการได้ 1,700 กิโลกรัม สนับสนุนแบรนด์และร้านค้าบนช้อปปี้ที่มีการดำเนินธุรกิจที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมผ่านแคมเปญ Shop Green with Shopee โดยแบรนด์และร้านค้าเหล่านี้ สามารถสร้างยอดขายจากแคมเปญฯ ได้มากกว่า 13 ล้านบาท
ทั้งยังร่วมปลูกต้นไม้กว่า 1,000 ต้นในกรุงเทพฯ และน่าน เพื่อช่วยลดมลพิษทางอากาศและฟื้นฟูป่า
ด้านการีนาเอง ต้องกล่าวว่าการออกแบบและพัฒนาเกม Free Fire ให้มีกราฟิกและแอนิเมชั่นที่ใช้พลังงานต่ำ และมีการปรับโค้ดของเกมให้เหมาะสมเพื่อลดการใช้พลังงานอย่างใส่ใจต่อความต้องการของผู้เล่น นับว่ามีแนวทางสร้างความยั่งยืนตั้งแต่แรกเริ่ม
โดย คุณมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) เผยวิสัยทัศน์ว่า ความยั่งยืนในแง่ของเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ต้องควบคู่ไปกับการทำธุรกิจให้เกิดความเกี่ยวเนื่องและส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดย Sea (ประเทศไทย) พร้อมใช้ความเชี่ยวชาญและทรัพยากรที่มี ไม่ว่าจะด้าน เกม-อีสปอร์ต หรือ อีคอมเมิร์ซ ในการส่งต่อความรู้ยุคดิจิทัล และร่วมขับเคลื่อน Digital Nation ในประเทศไทย พาทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโตและเก็บเกี่ยวประโยชน์จากความก้าวหน้าของเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่
ทั้งหมดที่กล่าวมาคือแนวความคิดในการใช้ศักยภาพและความเชี่ยวชาญของ Tech Company อย่าง Sea (ประเทศไทย) ที่มีบริการดิจิทัลมากมาย ในการเสริมแกร่งคอมมูนิตี้โดยรอบให้เข้มแข็ง และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย และดูเหมือนว่า Sea (ประเทศไทย) ยังร่วมกับพันธมิตรอีกมากมายเพื่อพัฒนา Board Game ส่งเสริมการเรียนรู้ในเรื่องของการเงิน สำหรับกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ คุณครูและบุคคลทั่วไป ที่ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาการบริหารจัดการหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับเป็นการใช้ความเชี่ยวชาญจากธุรกิจเกมอย่างการีนา (Garena) และธุรกิจการเงินดิจิทัล (SeaMoney) มาส่งเสริมด้าน Financial Literacy อีกด้วย
แม้ดิจิทัลแพลตฟอร์มจะเป็นธุรกิจแนวใหม่ที่เพิ่งเข้ามามีบทบาทในสังคมเมื่อไม่กี่ปีมานี้ แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างอิมแพคดี ๆ ให้สังคมโดยรอบได้ไม่แพ้ใคร
นอกจากโครงการหลักที่เรานำมาสรุปให้อ่านในวันนี้ ยังมีโครงการอื่นๆ ที่สร้างโอกาสในการเรียนรู้บนโลกดิจิทัลอีกมากมาย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.seathailand.com/sustainability
[บทความนี้เป็น Advertorial]