เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “SCG” (เอสซีจี) คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก เพราะเป็นองค์กรใหญ่ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนานกว่า 110 ปี แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าท่ามกลางยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และ Demanding ของลูกค้าซับซ้อนขึ้น การดำรงอยู่และขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า จำเป็นอย่างยิ่งต้องก้าวข้ามจากการขาย “สินค้าและบริการ” ไปสู่การขายและสร้างประสบการณ์ผ่าน “Solutions” ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนทุกกลุ่ม ทุกไลฟ์สไตล์ ควบคู่ไปกับการทำทำ Digital Transformation อย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้เอง SCG จึงได้จัดตั้งหน่วยงาน “SCG Digital Office” มีบทบาทในการทำ Digital Transformation และพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ เพื่อสร้าง New S-Curve ให้กับ SCG ปัจจุบันมี “คุณอภิรัตน์ หวานชะเอม” เป็นแม่ทัพในตำแหน่ง Chief Digital Officer, SCG Digital Office
ล่าสุด SCG Digital Office ได้เปิดตัว “mind” เป็น Smart Home Solutions แม้ปัจจุบันเทคโนโลยี Smart Home ไม่ใช่สิ่งใหม่ และทุกวันนี้หลายบ้านติดตั้งระบบกันบ้างแล้ว เพราะฉะนั้นการทำตลาดของ mind จึงต้องเข้าใจ Insights ของตลาด และผู้บริโภค เพื่อสร้างจุดเด่นที่เป็นความแตกต่าง และดึงให้ทั้งกลุ่มลูกค้า B2B และ B2C สนใจติดตั้งและใช้บริการ mind เพื่อผลักดันเทคโนโลยี IoT Smart Home ให้อยู่ในชีวิตประจำวันของคนไทย
และนี่คือ 5 กลยุทธ์และเหตุผลที่ทำไม SCG Digital จึงต้องปั้นแบรนด์ mind ให้แจ้งเกิด และผลักดันให้เป็นผู้นำ IoT Smart Home Solutions ในอาเซียนในปี 2025 และขยายสู่ตลาดระดับโลกภายใน 4 ปี
1. ตีโจทย์ Pain Point ผู้บริโภค สู่การรุกตลาด IoT Smart Home Solutions
แม้ว่าเทคโนโลยี Smart Home ไม่ใช่สิ่งใหม่ และทุกวันนี้หลายบ้านติดตั้งระบบกันบ้างแล้ว เพราะฉะนั้นการทำตลาด Smart Home Solutions ของ mind จึงต้องทำความเข้าใจ Consumer Insights ทั้งในกลุ่มผู้ใช้ Smart Home อยู่แล้ว และกลุ่มที่ยังไม่ได้ใช้ Smart Home เพื่อนำอินไซต์เหล่านี้มาวิเคราะห์ พร้อมทั้งใช้จุดแข็งการเป็นแบรนด์ในเครือ SCG มาสร้างความแตกต่าง และรุกตลาดนี้ จากการศึกษาพบว่า
– Pain Point ของกลุ่มผู้ใช้ Smart Home: ใช้งานยาก, ใช้งานแล้วรวน, อุปกรณ์เสีย หรือมีปัญหา ไม่มีคนดูแล, มีแล้วไม่ได้ใช้
– Pain Point ของกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้ใช้ Smart Home: มองว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้, เข้าใจยาก ซับซ้อน, แค่เป็น Gimmick เท่ๆ
“Pain Point ของตลาด Smart Home ในช่วงที่ผ่านมา คือเน้นขายอุปกรณ์ ทำให้ภาพจำในหัวผู้บริโภคบางกลุ่มคือใช้งานยาก อุปกรณ์เสียไม่มีคนดูแล แต่ mind จะสร้างมาตรฐานใหม่ของ IoT Smart Home Solutions ประเทศไทยเราจะเปลี่ยนภาพจำ และแก้ Pain Point เหล่านั้น ด้วยการนำบริการมืออาชีพครบวงจรมาผสานรวมกับ Smart Home Device ที่เป็น Lazy-Friendly Technology ทั้งยังเป็นโซลูชันแบรนด์แรกในไทยที่เชื่อมต่อ Device ได้ไม่จำกัดแบรนด์ ช่วยให้ผู้บริโภคใช้งานได้ง่าย สะดวกสบาย เข้าถึงผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน” คุณอภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer, SCG Digital Office ฉายภาพถึงอุปสรรคสำคัญของตลาด Smart Home ในไทย
2. ดัน Smart Home เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทุกไลฟ์สไตล์
กลุ่มเป้าหมายหลักของ mind ไม่จำเป็นต้องเป็น Tech Savvy หรือคน Geek ที่มีความรู้-ความสนใจในเทคโนโลยี แต่คือ ผู้บริโภค Mainstreamer เพราะ SCG Digital ต้องการทำให้การใช้ Smart Home Solutions ขยายตัวเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทุกวัย ทุกไลฟ์สไตล์
ดังนั้นจึงได้ออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อกับ Device ได้ไม่จำกัดแบรนด์ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นอุปกรณ์ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน และความปลอดภัยด้วยเช่นกัน และยังได้ออกแบบแพ็กเกจให้บริการด้าน Smart Home Solutions ตอบโจทย์การใช้ชีวิต 4 รูปแบบ ซึ่งผู้บริโภคสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ตามนความต้องการ ได้แก่
– เซฟดี (Saving) เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานภายในที่อยู่อาศัย ด้วยโซลูชันตรวจจับการทำงาน และควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติด้วย Smart Switch เหมาะสำหรับสายรักษ์โลก
– อยู่ดี (Well-being) เสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย ด้วยคุณภาพอากาศที่ดี ลดมลพิษ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ลดความชื้นในห้องน้ำซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดเชื้อรา เจาะกลุ่มผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ หรือครอบครัวที่มีเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
– ไยดี (Caring) ส่งผ่านความห่วงใยไปยังคนในครอบครัว ด้วยโซลูชันดูแลเด็กเล็กและผู้สูงอายุ สามารถตรวจจับและแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินได้ทันที หรืออุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงโซลูชันดูแลความปลอดภัยรอบบ้าน
– ฟีลดี (Feeling) สร้างสุนทรียะการอยู่อาศัย ด้วยการปรับแสง เสียง กลิ่น ให้เข้ากับทุกอารมณ์ เลือกโหมดสร้างบรรยากาศได้หลากหลาย ทั้งโหมดโรแมนติก โหมดผ่อนคลายยามรับประทานอาหารกับครอบครัว หรือโหมดปลุกพลังงานให้พร้อมกับการทำงาน
โดยชู 3 จุดเด่นที่ตอบโจทย์ทั้งการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ โดยไม่จำกัดแบรนด์, ความปลอดภัย และด้านบริการ
– Completely Integrated โซลูชันที่สามารถเชื่อมต่อการทำงานระหว่างแอปพลิเคชัน mind ร่วมกับอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ไม่จำกัดแบรนด์ผ่านสัญญาณ WiFi ให้สามารถเปิด-ปิดการทำงานได้อัตโนมัติ โดยวิเคราะห์ และประมวลผลจากข้อมูลการใช้งานของผู้อยู่อาศัย
– Completely Secured มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลผู้อยู่อาศัยกับ Trinity Edge Gateway ระบบ IoT Ecosystem Platform ที่เชื่อมต่อการทำงานของนวัตกรรมต่างๆ ภายในบ้านได้แบบไร้รอยต่อ พร้อมจัดเก็บข้อมูลบน Cloud ประสิทธิภาพสูงที่พัฒนาและดูแลการทำงานโดยคนไทย ปลอดภัยตั้งแต่ที่ตั้ง Server จนถึงการเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์อื่นๆ
ทั้งยังใช้ระบบ SCG ID ระบบการยืนยันตัวตนผู้ใช้งานที่มีความปลอดภัยสูง ใช้งานง่าย สะดวก ปลอดภัย ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์จากเครือ SCG และพันธมิตรชั้นนำ อาทิ ส่วนลดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนลดสินค้าในเครือ SCG Home ส่วนลดโรงแรม
– Completely Managed บริการการดูแลเต็มรูปแบบจากทีมงานมืออาชีพของเอสซีจี ตั้งแต่การให้คำปรึกษาการออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการผู้ใช้ พร้อมหลากหลายบริการครบวงจรตั้งแต่ก่อนติดตั้ง ระหว่างติดตั้ง จนถึงหลังติดตั้ง พร้อมทีมห้องปฏิบัติการ คอยแจ้งเตือนหากเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือมีสัญญาณแจ้งเตือนความผิดปกติ และทีมคอลเซ็นเตอร์ให้ความช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยทันทีตลอด 24 ชั่วโม
“โปรดักต์ของ mind ประกอบด้วย “mind Solutions” ในรูปแบบ Mobile App และ Home App เชื่อมต่อสั่งการทุกอุปกรณ์ Smart Home พร้อมประสานกับทีมงานมืออาชีพ ดูแลทั้งก่อนและหลังการขายตลอด 24 ชั่วโมง
และ “mind Device” ประกอบด้วยอุปกรณ์ mind brain ถือเป็นสมองของ mind สำหรับติดตั้งภายในบ้าน เพื่อทำให้ Smart Home ฉลาดขึ้น และใช้งานได้แม้ Offline เช่น ในขณะที่สมาชิกครอบครัวไม่อยู่บ้าน หากเกิดไฟดับ mind brain ยังคงทำงานได้ปกติ รวมทั้งมีระบบความปลอดภัย และป้องกันด้าน Data Privacy
นอกจากนี้ยังได้จับมือกับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ เพื่อเชื่อมต่อกับระบบ mind รวมทั้งในอนาคตมีแผนพัฒนาอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ภายใต้แบรนด์ mind เช่น ลำโพง Speaker และจับมือกับดีไซเนอร์ไทย ร่วมกันทำ Co-brand เพื่อทำให้อุปกรณ์ Smart Home มีดีไซน์ เป็นงานคราฟต์ ไม่ดูเป็น Gadget” คุณนันทพัชร์ ศรีสุวรรณ Head of Sales and Marketing, SCG Digital Office ขยายความเพิ่มเติม
3. ต่อจิ๊กซอว์วิสัยทัศน์ “Born in Thailand” และสร้าง New S-Curve ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่
หนึ่งในวิสัยทัศน์ของ SCG คือ “Born in Thailand” (BiT) การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ โดยคนไทย ซึ่ง “mind” จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของการต่อภาพดังกล่าว
“ปีที่แล้วเราพูดถึงวิสัยทัศน์ Born in Thailand โดยมีความเชื่อว่าคนไทยสามารถสร้างนวัตกรรมได้ มาปีนี้เราเปิดตัว mind โซลูชันเพื่อบ้านอัจฉริยะ จะเป็น Case Study ของการพัฒนานวัตกรรมโดยคนไทย” คุณอภิรัตน์ ขยายความเพิ่มเติม
นอกจากนี้แบรนด์ mind เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเป็นหลัก โดยไม่ใช่แค่การขาย “สินค้า” แต่เป็นการขายและสร้างประสบการณ์ผ่าน “Solutions” ซึ่งจะเป็น New S-Curve ให้กับ SCG
“เราอยากเห็น Smart Home ไม่ใช่เป็นแค่ Gimmick แต่เป็นโซลูชันดูแลบ้านที่ทำให้ชีวิตคนให้มีความสุขมากขึ้น ขณะเดียวกันเราหวังจะพา SCG ซึ่งเป็นองค์กระดับประเทศ ขับเคลื่อนไปสู่ Next Step ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ และด้วยความที่ SCG คนไทยให้ความเชื่อถืออยู่แล้ว เป็นไปได้ไหมที่เราจะไม่ได้ดูแลแค่เรื่องวัสดุก่อสร้าง แต่ดูแลครอบคลุมถึงการใช้ชีวิตภายในบ้าน ความปลอดภัย และความสะดวกภายในบ้าน”
4. บุกตลาด B2B และ B2C
แบรนด์ mind เจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจ (B2B) ที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจออกแบบ และบริษัทรับสร้างบ้าน โดยอยู่ระหว่างการพูดคุยกับหลากหลายบริษัท เพื่อร่วมกันส่งมอบแพ็คเกจที่ตอบโจทย์บ้านอัจฉริยะของผู้บริโภค และตั้งเป้าขยายการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ
ขณะที่ลูกค้ารายบุคคล (B2C) จะให้บริการให้คำปรึกษาและติดตั้ง Smart Home Solutions ผ่าน Online Store รูปแบบใหม่ ซึ่ง SCG ได้พัฒนาร่วมกับพันธมิตรผู้พัฒนาอุปกรณ์อัจฉริยะ คาดว่าพร้อมจะให้บริการในปลายปีนี้
โดยตั้งเป้าหมายเดินหน้าติดตั้งโซลูชัน mind ในที่อยู่อาศัยกว่า 100,000 ยูนิตภายในปี 2025
5. Collaboration สร้างความร่วมมือกับพันธมิตร – ผสาน Creative Economy x Digital Economy
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่จะขยาย IoT Smart Home Ecosystem ในประเทศไทย คือ Collaboration การจับมือกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ตั้งแต่หน่วยงานที่ส่งเสริมด้านเทคโนโลยี ผู้พัฒนาอุปกรณ์อัจฉริยะ ผู้ให้บริการเทคโนโลยี ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร สถาบันการศึกษา และผู้ประกอบการ SME ดีไซเนอร์ไทยที่สร้างสรรค์งานคราฟต์ประเภทต่างๆ เช่น ของตกแต่งบ้าน เพื่อผสานระหว่าง Creative Economy กับ Digital Economy เข้าด้วยกัน
“เราเชื่อว่า mind จะเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับพันธมิตรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กร, สตาร์ทอัพ, ผู้ประกอบการ SME ที่อยากเข้ามาร่วมวิสัยทัศน์ Born in Thailand กับเรา ก็สามารถเข้ามาจับมือร่วมกันพัฒนา IoT Smart Home Solutions ด้วยกัน โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ เพื่อร่วมกันสร้างประเทศไทยให้เป็น Maker Country ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม” คุณอภิรัตน์ สรุปทิ้งท้าย
โดย SCG Digital ต้องการพาแบรนด์ mind ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้าน IoT Smart Home Solutions ในภูมภาคอาเซียนในปี 2025 และจะขยายสู่ตลาดระดับโลกภายใน 4 ปี