หลังจากธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ได้สร้าง Game Change ครั้งสำคัญให้กับแวดวงธุรกิจ ด้วยการปรับโครงสร้างใหญ่จัดตั้งยานแม่ ‘SCBX’ เพื่อทลายขีดจำกัดของทำธุรกิจของธนาคาร และทรานฟอร์มตัวเองสู่ The Most Admired Financial Technology Group in ASEAN ที่มีมูลค่า 1 ล้านล้านบาทในอีก 5 ปี เราก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตั้งบริษัทลูกใหม่ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและขับเคลื่อนภารกิจให้บรรลุเป้าหมาย
หนึ่งในนั้น คือ ‘บริษัท เอสซีบี เทคเอกซ์ จำกัด’ (SCB TechX) ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาเมื่อกรกฎาคม 2564 ซึ่งปลายปีที่ผ่านมาได้สร้างความฮือฮา เมื่อ SCBX ประกาศร่วมทุนกับ ‘ปับลิซีส เซเปียนท์’ (Publicis Sapient) ผู้เชี่ยวชาญด้านให้บริการที่ปรึกษาด้าน Digital transformation ในเครือปับลิซีส กรุ๊ป เอเยนซียักษ์ใหญ่ของโลก เพื่อจะพา SCB TechX ก้าวสู่ Reginal Player หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ และดีที่สุดในอาเซียน
“มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายและเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ทั้งเทคโนโลยี เทรนด์โลก คู่แข่งรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่ธนาคารด้วยกัน และพฤติกรรมลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มมิเลนเนียมที่ซับซ้อน มีความต้องการมากกว่าลูกค้าเดิม ถือเป็นความท้าทายของธุรกิจในยุคดิจิทัล ดิสรัป จึงเป็นที่มาของ SCB TechX” คุณตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB TechX กล่าว
ใหม่แค่ชื่อ แต่ฝีมือเก๋าเกมและเป็นที่ยอมรับ
สำหรับบทบาทของบริษัทแห่งนี้ จะโฟกัสไปที่การสร้างขีดความสามารถและการเติบโตใหม่ ๆ ทั้งด้านเทคโนโลยี แพลตฟอร์ม และนวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าและการเติบโตในระยะยาวให้กับ SCBX, บริษัทในกรุ๊ป ตลอดจนลูกค้าอื่น ๆ โดยให้บริการด้าน Digital transformation ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มจากให้คำปรึกษาและวางกลยุทธ์ , Design Thinking , ออกแบบ customer experience , การพัฒนาระบบต่าง ๆ ทั้ง Data analytics และ Cyber security ฯลฯ
หลายคนอาจมองว่า ทำไมต้องเลือกใช้บริการ SCB TechX ซึ่งเป็นน้องใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งไม่นาน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่!!! เพราะเดิมที SCB TechX เป็นยูนิตด้านไอทีภายในของ SCB ที่มีมานาน และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหลายแพลตฟอร์มทั้งด้าน Banking และ Non-Banking อาทิ ‘SCB EASY’ โมบายล์แอปฯ ของ SCB ที่มีลูกค้าอยู่ราว 13 ล้านราย , ‘SCB Connect’ บริการอัตโนมัติแจ้งเตือนยอดเงินเข้าออกบัญชีของSCB ผ่านทาง LINE , ‘แม่มณี’ บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet), ‘แอปฯ โรบินฮู้ด’ ของบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ที่ตอนนี้มีผู้ใช้อยู่ราว 2.5 ล้านราย และช่วงต้นปี 2565 จะมีการเปิดตัวโปรดักท์ใหม่อีก 2-3 ตัว
ตั้งเป้าอีก 3-5 ปี ก้าวสู่ Reginal Player ให้บริการด้านเทคโนโลยีใหญ่ และดีที่สุดในอาเซียน
สำหรับการเป็น Reginal Player หนึ่งในผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ และดีที่สุดในอาเซียนนั้น คุณตรัยรัตน์วางแผนจะได้เห็นในอีก 3-5 ปี โดยประเทศที่โฟกัส ได้แก่ สิงคโปร์ เวียดนาม และลาว ซึ่งการบรรลุเป้าหมายได้นอกจากใช้ศักยภาพของ SCB TechX ที่เชี่ยวชาญและให้บริการ Digital transformation แบบครบเครื่องแล้ว ยังมีความร่วมมืออีกหลายรูปแบบ ได้แก่
1.การใช้ศักยภาพของบริษัทในกรุ๊ป ที่เห็นชัดเจน คือ บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) ที่จะคอยประสานความร่วมมือระหว่าง SCB TechX กับพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศ 2.ลักษณะพาร์ทเนอร์ชิปผ่านความร่วมมือต่าง ๆ อย่างช่วงต้นปีนี้กำลังจะประกาศความร่วมมือกับ Solution Provider หลายราย หรือ โรบินฮู้ด ที่พูดคุยกับเพอร์เพิล เวนเจอร์ส ที่มีแผนขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ เป็นต้น และ 3.การร่วมทุน ที่ได้เห็นตัวอย่างแล้วกรณีของปับลิซีส เซเปียนท์ โดยการร่วมทุนเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ จะเป็นการผสานความรู้ ความเชี่ยวชาญเชิงลึกทั้งด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ดีที่สุด ตลอดจนประสบการณ์ทางด้านเทคโนโลยีและการทำงานประสานกับภาคธุรกิจต่าง ๆ (Cross-sector) ของทั้งสององค์กร เพื่อทำให้กลุ่ม SCBX และพันธมิตรทางธุรกิจพร้อมเข้าสู่โลกธุรกิจยุคดิจิทัล เพื่อให้สามารถตอบสนองเทรนด์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และความต้องการใหม่ของผู้บริโภค รวมไปถึงให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลกได้อย่างทัดเทียม
ที่มาที่ไปของดีลนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
คุณตรัยรัตน์เล่าว่า ก่อนจะมีการบรรลุข้อตกลงร่วมทุนดังกล่าว ทาง SCB TechX ได้มีการพูดคุยกับบริษัทระดับโกลบอลหลาย ๆ บริษัท ส่วนเหตุผลที่เลือกร่วมมือกับปับลิซีส เซเปียนท์ เพราะไม่เพียงจะเป็นบริษัทชั้นนำของโลกที่ดำเนินธุรกิจมานานและมีออฟฟิศอยู่ 50 แห่งทั่วโลก รวมถึงในไทย ยังเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Digital transformation ในระดับ A class
ที่สำคัญมี Mindset ในการดำเนินธุรกิจและวิธีการทำงานเหมือนกันกับ SCB TechX ในเรื่องการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ พร้อมปรับเปลี่ยนและตอบรับนำสิ่งใหม่ตลอดเวลา นอกจากนี้ ก่อนจะตกลงลงนามร่วมทุนกัน ได้เคยให้ปับลิซีส เซเปียนท์ เข้ามาทดลองทำโปรเจ็คให้ SCB ได้เห็นคุณภาพการทำงาน โดยความร่วมมือกันครั้งนี้เป็นความร่วมมือเฉพาะที่ไทยและอาเซียนในประเทศที่ SCB TechX ต้องการขยายธุรกิจเข้าไปอย่างสิงคโปร์ เวียดนาม และลาว
“สิ่งที่ทุก Tech company ในไทยต้องเผชิญ คือ มี resources มีคนทำงานไม่พอ ซึ่งการที่ปับลีซีส เซเปียนท์มีเครือข่ายและมี Delivery unit ที่ใหญ่ในอินเดีย UK และสิงคโปร์ ทำให้เราสามารถนำ resources เหล่านี้มาใช้ได้ และปับลีซีส เซเปียนท์เองมีความเชี่ยวชาญหลายเรื่องที่ SCB TechX ยังไปไม่ถึง เช่น blockchain และ exchange บน blockchain เราก็นำความเชี่ยวชาญพวกนี้มาใช้สร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ เป็นทางลัดสู่ความสำเร็จได้เช่นกัน”
คน และวัฒนธรรมองค์กร ความท้าทาย
เมื่อถามถึงความท้าทายในฐานะซีอีโอ SCB TechX คืออะไร คำตอบที่ได้รับจากคุณตรัยรัตน์ คือ ‘คน’ และ ‘วัฒนธรรมองค์กร’ เพราะด้วยวิชั่นและมิชชั่นของ SCB TechX จะเป็นบริษัทด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่ครบวงจร ดังนั้นรูปแบบและวิธีการทำงาน จึงต่างไปจากเดิมในยุคที่เป็นยูนิตไอทีภายในของ SCB แบบหน้ามือเป็นหลังมือ
“เมื่อก่อนตอนอยู่ในแบงก์ เราอาจมี Safe zone อะไรที่จะออกมาต้องมั่นใจ 100% แต่ตอนนี้ ทำแบบนั้นไม่ทันการณ์ ตามคู่แข่งไม่ทัน หรือโอกาสทางการตลาดอาจผ่านไปแล้ว ผมในฐานะซีอีโอจึงต้องวางกลยุทธ์บริหารคนและองค์กรให้สอดคล้องกับสิ่งที่เรากำลังจะมุ่งไป”
สำหรับ DNA ของคน SCB TechX ที่อยากให้มี 1. พร้อมปรับตัวและเรียนรู้อยู่เสมอ เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและตลอดเวลา 2. พร้อมรับความเสี่ยง กล้าคิด กล้าสร้างสิ่งใหม่ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ดีกว่า และ 3. Accountable ความรับผิดชอบในการสร้างความสำเร็จให้กับลูกค้า
ส่วนวัฒนธรรมองค์กร จะพัฒนาในคอนเซปต์ Agile เน้นความคล่องตัว และใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยในการทำงาน แสดงความคิดเห็นกันได้บ่อย ๆ ไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนมากมาย และทุกเสียงล้วนมีความความสำคัญหมด มากไปกว่านั้น ก็คือ การเปิดกว้างให้ค้นหาความท้าทายและมีพื้นที่ให้พนักงานได้แสดงฝีมือ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่มองเป็นปัจจัยแรก ๆ ในการตัดสินใจจะร่วมงานกับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ยังมีคอร์สออนไลน์ที่สามารถเรียนได้แบบบุฟเฟ่ต์ และจะเรียนอะไรก็ได้ ไม่จำกัดแค่เรื่องเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการทำ Hackathon และ knowledge sharing เชิญคนทั้งในและนอกองค์กรมาแชร์ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และเปิดมุมมองใหม่ ๆ เพื่อสร้าง Learning Organization เพราะเชื่อว่า คนในอนาคตต้องรู้ให้กว้างและรอบด้าน
กลยุทธ์ทั้งหมดนอกจาก SCB TechX จะสร้างความแข็งแกร่งและเป็นกุญแจสำคัญให้ยานแม่ SCBX ก้าวสู่การเป็น The Most Admired Financial Technology Group in ASEAN ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คุณตรัยรัตน์ยังหวังว่า SCB TechX จะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้ผู้ประกอบการไทย สามารถแข่งขันทัดเทียมกับผู้เล่นในเวทีนานาชาติได้อีกด้วย