แม้ประเทศไทยจะเดินหน้าเข้าสู่ยุค Cashless แล้วผ่านเทคโนโลยี QR Code แต่ปริมาณการใช้กลับเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความไม่มั่นใจของร้านค้า เพราะเรื่องเงินทองเป็นเรื่องใหญ่ รวมไปถึงร้านค้าต้องการได้อะไรมากกว่าแค่เทคโนโลยีการจ่ายเงิน นั่นเพราะร้านค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธรกิจ SME รายย่อย ทุนในการจัดการต่างๆ จึงมีอยู่อย่างจำกัด ไม่นับรวมถึงต้นทุนปกติต่อวัน
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เข้าใจความต้องการของร้านค้า นั่นจึงทำให้เกิดโครงการสร้างแอปพลิเคชั่น Chatuchak Guide แอปฯ ที่ช่วยให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนัดจตุจักรสามารถโปรโมทและสร้างการรับรู้ (Awareness) ให้กับผู้ที่มาเดินตลาดนัดแห่งนี้ได้ ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถสร้างช่องทางสื่อสารของร้านกับลูกค้าได้ช่วยเพิ่มโอกาสและสร้างรายได้จากการขายมากขึ้น นอกจากนี้ SCB ยังตระหนักถึงการศึกษา โดยเฉพาะการศึกษาผ่านประสบการณ์จริงนอกห้องเรียน
ส่งผลให้ SCB ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ ผ่านแอปพลิเคชั่น “Rattanakosin Guide” ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการและโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน
อาจเรียกได้ว่าแอปพลิเคชั่น “Rattanakosin Guide” เป็นโครงการต่อยอดจากChatuchak Guide ที่ประสบความสำเร็จ โดยสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายคือพื้นที่ของตลาดนัดจตุจักรมีขนาด 70 ไร่มีร้านค้ากว่า 10,000 ร้านค้า แต่พื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์มีมากกว่า 20 เท่าของตลาดนัดจตุจักร มีร้านค้ามากกว่าแสนร้านค้า ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่วังบูรพาจนถึงบางลำพู
นอกจากนี้แอปฯ Rattanakosin Guide ยังได้เพิ่มส่วนของการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถจัดทำแผนที่การท่องที่ยวได้ก่อนเดินทาง ที่สำคัญแอปฯ Rattanakosin Guide ยังช่วยพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเพื่อช่วยยกระดับทางเศรษฐกิจบนเกาะรัตนโกสินทร์ให้เติบโตยั่งยืน
แอปฯ Rattanakosin Guide จะเป็นสื่อกลางเชื่อมโลกออฟไลน์และออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน เสริมประสบการณ์ในการท่องเที่ยวย่านเกาะรัตนโกสินทร์ก้าวไปอีกขั้น โดยผู้ประกอบการสามารถสร้างหน้าร้านออนไลน์ พร้อมทั้งฟีเจอร์แผนที่ดิจิทัลที่สามารถนำนักท่องเที่ยวไปยังร้านค้าต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ฟีเจอร์ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและทริปแนะนำที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถสร้างทริปและวางแผนการท่องเที่ยวรอบเกาะด้วยตัวเอง
เด็ดที่สุดคือผู้ประกอบการร้านค้าสามารถสร้างโปรโมชั่นที่ SCB เรียกว่า “โปรฟ้าผ่า” เพื่อกระตุ้นยอดขายได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย ซึ่งโปรฟ้าผ่าจะเป็นโปรช่วงระยะเวลาสั้นๆ มีข้อจำกัดเรื่องของปริมาณและเวลาเพื่อกระตุ้นและเรียกลูกค้าให้มายังร้านค้า ในอนาคตยังแผนที่เปิดฟีเจอร์ใหม่ให้ลูกค้าสามารถซื้อทริปหรือบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเกาะรัตนโกสินทร์ได้โดยตรงผ่านแอปฯ Rattanakosin Guide
ทั้งหมดนั้นเป็นส่วนของนักท่องเที่ยว ขณะที่ฝั่งผู้ปรกอบการสามารถเป็นส่วนหนึ่งของแอปฯ Rattanakosin Guide ได้ ด้วยการติดตั้งแอปฯ Super Seller โดยเป็นแอปฯ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการข้อมูลร้านค้า อัพเดทรูปภาพ ข้อมูลสินค้าต่างๆ รวมถึงการสร้างโปรโมชั่นอย่างโปรฟ้าผ่าได้ ซึ่งแอปฯ Super Seller จะเชื่อมต่อระบบกับแอปฯ Rattanakosin Guide ในลักษณะหลังบ้าน
เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 นักท่องเที่ยวต่างประเทศยังคงเติบโต โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวสะสมถึง 19.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13% ขณะที่มีการใช้จ่ายเพิ่มสูง 16% คิดเป็นเงินรวมกว่า 1.16 ล้านล้านบาท โดยภาครัฐตั้งเป้าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติไว้อยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยครึ่งปีแรกมีจำนวนราว 71.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.8% มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 7% คิดเป็นเงินรวมกว่า 489,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าการใช้จ่ายในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยไว้ที่ 1 ล้านล้านบาท
การพัฒนาแอปฯ Rattanakosin Guide จึงเป็นการตอบสนองอุตสาหกรรมด้านท่องเที่ยว รวมไปถึงการส่งเสริมและผู้ประกอบการ SME ค้าปลีกในพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์
ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะเป็นหน่วยงานที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของพื้นที่โดยรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ผ่านการพัฒนาองค์ความรู้ในเรื่องของการประเมินปัญหาทางธุรกิจ จัดฝึกอบรมและให้คำปรึกษาแก่ร้านค้ารอบเกาะรัตนโกสินทร์ รวมไปถึงการร่วมพัฒนาแอฟพลิเคชั่นผ่านการลงพื้นที่เก็บข้อมูล รวมถึงจัดทำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ที่สำคัญยังได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพื่อการขยายธุรกิจในด้านต่างๆ ผ่านศูนย์ธุรกิจ SCB ที่จะตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
แอปฯ Rattanakosin Guide รองรับการใช้งาน 3 ภาษาทั้งภาษาไทย ภาษาจีนและภาษาอังกฤษ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักที่วางไว้จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน มาเลเซียและฮ่องกง พร้อมเปิดให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้ทั้งในระบบ iOS และ Android