ท่ามกลางการแข่งขันของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ดุเดือดทั้งแนวราบ และแนวสูง SC ASSET ยังคงเดินหน้าทำตลาดได้เป็นอย่างดี โดยในครึ่งปีแรกสามารถกวาดยอดขายรวมได้มากถึง 7,493 ล้านบาท เติบโตขึ้น 44% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มาจากยอดขายแนวราบ 4,491 ล้านบาท (เติบโตขึ้น 14%) และคอนโดฯ 3,002 ล้านบาท (เติบโตขึ้น 137%)
นอกจากนี้ ในครึ่งปีแรกการใช้สื่อออนไลน์ของ SC ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะส่งผลให้มียอด Walk-in เพิ่มขึ้นถึง 30% โดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีราคา 5-8 ล้านบาท ทำให้ค่าใช้จ่ายการตลาดลูกค้าแวะต่อคนลดลง 5 เท่าจาก Traditional media ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายการตลาดต่อยอดขายลดลง
คุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 16,000 ล้านบาท และเป้ารายได้ 14,800 ล้านบาท คาดว่าสถานการณ์หนี้สินครัวเรือนจะมีผลอย่างมากต่อการเติบโตของภาคอสังหาฯ ในปีนี้ เพราะผู้บริโภคจะก่อหนี้ใหม่ลดลง ณ ปลายไตรมาส 1/2560 สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ลดลงเหลือ 78.6% แต่สินเชื่อกลุ่มที่อยู่อาศัยขยายตัวแบบชะลอตัว สวนทางกับสัดส่วน housing NPLs ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 3.23% ส่งผลต่อความเข้มงวดของธนาคารในการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ไม่สามารถวางแผนการใช้เงินอนาคต
จากเดิมที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับ คาดการณ์ว่า GDP ปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 3.2% เป็น 3.5% โดยปัจจัยหลักเป็นเรื่องการลงทุนภาครัฐ รวมถึงภาคการส่งออกและท่องเที่ยวที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนภาคลงทุนเอกชนและการบริโภคนั้นยังคงไม่เติบโตเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม SC มียอดปฏิเสธสินเชื่อธนาคารเฉพาะแนวราบในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สัดส่วนใกล้เคียงเดิมที่ประมาณ 10% โดยสัดส่วนการชำระเงินสดโดยเฉพาะในกลุ่ม luxury segment สูงถึง 50% สูงกว่าปีที่ผ่านมา สรุปได้ว่า demand ในตลาดยังมีการเติบโต แต่สถานการณ์ของหนี้ทำให้ความสามารถในการใช้เงินอนาคตน้อยลง จึงมีแนวโน้มที่จะใช้เงินปัจจุบันมากขึ้น โดยหลังจากบริษัทฯ เปิดตัวคอนโดฯ ย่านชิดลม ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สามารถขายไปได้แล้วกว่า 80% และคอนโด High Rise ศาลาแดงวัน ขายไปแล้ว 30%
สำหรับแผนในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะเปิดแนวราบทุกระดับราคา จำนวน 9 โครงการใหม่ มูลค่า 11,450 ล้านบาท ซึ่งปลายปีจะเปิดแบรนด์ใหม่ชื่อ เวิร์ฟ (Verve) ทาวน์โฮม 2 ชั้น เริ่ม 2.59 ล้านบาท โครงการใหม่ทั้งหมดแบ่งเป็น 5 แบรนด์ 9 โครงการ ดังนี้
1. The Gentry โครงการเดอะ เจนทริ พระราม 9 เริ่ม 30 ล้านบาท เป็นบ้าน Mid-Town 13 ยูนิต ยูนิตละ 3 ไร่ (โครงการแรกอยู่บนถ.สุขุมวิท 101)
2. Bangkok Boulevard ได้แก่ โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รังสิต, สาทร-ราชพฤกษ์, ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์, แจ้งวัฒนะ และ สาทร-ปิ่นเกล้า ราคาเริ่ม 6-20 ล้านบาท
3. Pave โครงการเพฟ รามอินทรา-วงแหวน เริ่ม 4 ล้านต้น
4. Work Place โครงการเวิร์คเพลส แจ้งวัฒนะ เริ่ม 9 ล้านบาท เป็น Home Office มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท
5. Verve โครงการเวิร์ฟ เพชรเกษม 81 เริ่ม 2.59 ล้านบาท เป็น Townhome เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุ 25-30 ปี 180 ยูนิต พื้นที่ 100 กว่าตรม. บ้านในกลุ่มนี้ถูกพัฒนาขึ้นมากเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ไลฟ์สไตล์เหมือนคนโสด ภายใต้คอนเซปต์ “The New Normal” ต้องการบ้านหลังใหญ่ ที่มีพื้นที่ใช้งานกว้างขวาง
รวมโครงการทั้งหมดของปีนี้ SC มีโครงการเพื่อขายทั้งหมด 44 โครงการ มูลค่า 44,135 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการระหว่างการพัฒนา จำนวน 35 โครงการ มูลค่า 32,685 ล้านบาท พร้อมกับอีก 9 โครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง มูลค่า 11,450 ล้านบาท
นอกจากบริษัทฯ ยังนี้ได้ปรับเพิ่มงบซื้อที่ดินเพิ่มเป็น 9,100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มยอดขายในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ คาดว่าจะทำโครงการแนวราบและสูงได้ประมาณ 20-30 โครงการ มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท
จากที่ SC ได้ประกาศยุทธศาสตร์เรื่อง human-centric innovation เมื่อตอนต้นปี หลังจากนั้นมีการขยายธุรกิจใหม่และลงทุนในแพลตฟอร์มเรื่องบริการหลังการขายกับ tech startup “Fixzy” แผนครึ่งปีหลังจึงดำเนินตามยุทธศาสตร์ ดังนี้
1. ร่วมพัฒนา iOT smarthome platform ชื่อ “Rue Jai ™ (รู้ใจ™)” สำหรับลูกค้า SC ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ AIS ผู้ให้บริการ Digital Life Service Provider อันดับ 1 ของประเทศไทย ให้เป็น smarthome platform โดย SC เป็นดีเวลลอปเปอร์เจ้าแรกในไทย ซึ่งถือว่าเป็นอนาคตของบ้าน ที่จะสร้างความสะดวกสบายให้ผู้อยู่อาศัย พร้อมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปลายปีนี้
2. SC 4.0 housing prototypes ได้มีการใช้ design thinking ในการออกแบบ prototype สำหรับบ้านคอนเซปท์ในอนาคต โดยจะเริ่มเปิดตัวในโครงการต่างๆ ในช่วงไตรมาส 4/2560
คุณณัฐพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ด้วยแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกทั้งหมดนี้ จะสนับสนุนและส่งเสริมแผนการเติบโตต่อเนื่อง 3 ปี ทำให้ SC มีรายได้ทะลุเป้าหมาย 20,000 ล้านบาท ในปี 2562”