การมีลูกเมื่อพร้อมหรือการมีลูกเพื่อเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์ อาจเป็นความฝันที่บางคนยังทำไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยความพร้อมทั้งด้านร่างกายหรือจิตใจ แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่มีความก้าวหน้า ทำให้คนที่ยังไปไม่ถึงฝันสามารถทำให้มันเป็นจริงได้
ท่ามกลางวิกฤติการระบาดของ Covid-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ไทยได้แสดงให้นานาชาติเห็นถึงศักยภาพด้านการแพทย์ ตอกย้ำความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มการจ้างงานและดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศแล้ว ยังส่งผลบวกเชื่อมโยงไปยังหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้อีกมาก
“เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์” (Assisted Reproductive Technology) เป็นเทรนด์ธุรกิจที่มาแรงและมีมูลค่าตลาดโลกที่สูงจนน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาภาวะมีบุตรยาก อาทิ IVF, ICSI (หรือการทำเด็กหลอดแก้ว) , IUI, การฝากไข่ และแช่แข็งไข่ ซึ่งคาดว่า ในปี 2568 จะมีมูลค่าในตลาดโลกกว่า 2.29 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย 9% ต่อปี ในขณะที่ประเทศไทยมีมูลค่าตลาดสูงถึง 5,000 ล้านบาท
ธุรกิจด้านการรักษาผู้มีบุตรยากโดยการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 5,000 ล้านบาท
แม้ว่าสถานการณ์ของประเทศไทย พบว่า สถิติทางสาธารณสุขของอัตราเจริญพันธุ์รวม (Total Fertility Rate – TFR) ของคนไทยลดลง เหลือเพียง 1.5% และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ส่งผลให้ในอนาคตประเทศไทยจะประสบกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานจากการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
ธุรกิจด้านการรักษาผู้มีบุตรยาก เป็นอีกตัวแปรหนึ่ง ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาภาวะผู้มีบุตรยากของไทย ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยมาปรับใช้เพื่อตอบโจทย์การรักษาที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น การรักษาในกลุ่มผู้ที่มีบุตรยาก และการวางแผนมีบุตรเมื่อพร้อมสำหรับกลุ่มคนที่ยังไม่แต่งงาน ซึ่งทำให้ธุรกิจด้านการรักษาผู้มีบุตรยากในไทย เป็นที่ยอมรับมากจากทั้งในประเทศไทยและนานาชาติ จนสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้กว่า 5,000 ล้านบาท (อ้างอิงจาก: กรุงเทพธุรกิจ) ธุรกิจด้านการรักษาผู้มีบุตรยากโดยการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตและทำรายได้ที่สูงมากทีเดียว
เทรนด์การฝากไข่ผลักดันธุรกิจคลินิกรักษาการมีบุตรยากเติบโต
ในปัจจุบัน “การฝากไข่” (Egg Freezing) หรือการแช่แข็งไข่ เป็นเทรนด์มาแรงที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยจากการเปิดเผยของเว็บไซต์ BBC.Com ระบุว่า ผู้หญิงในสหราชอาณาจักรเลือกที่จะฝากไข่ของพวกเขามากขึ้นกว่าเดิม ด้วยอัตราการฝากไข่ที่เพิ่มขึ้น 11% จากปี 2016 ถึง 2017 สอดรับกับการรายงานของ TIME.Com ที่ระบุว่า พบผู้หญิงทำการฝากไข่เพิ่มขึ้น 50% ตั้งแต่ปี 2019 ขณะที่แพทย์ที่ NYU Langone เผยว่ามีอัตราการเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบเป็นรายปี และเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ซีแอตเทิลในปี 2020 มีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับในปี 2019 (อ้างอิง Time.com)
ด้วยเทรนด์และแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจการรักษาภาวะมีบุตรยาก จึงเป็นโอกาสอันดีของคลินิกต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งถือว่าตลาดในกลุ่มนี้ยังเป็น Blue Ocean อยู่ และไม่ได้มีแต่เฉพาะกลุ่มลูกค้าคนไทยแต่ยังมีกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่สนใจในการรับบริการจากคลินิกในเมืองไทยอีกด้วย
ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. กับความสำเร็จบนประสบการณ์ 15 ปี
หนึ่งในคลินิกที่ยืนหนึ่งเรื่องการรักษาภาวะมีบุตรยากมายาวนานถึง 15 ปีเต็ม ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. มีความโดดเด่นด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคนิค IVF/ICSI หรือการทำเด็กหลอดแก้ว และการวินิจฉัยโรคทางพันธุกรรมในภูมิภาคเอเชีย ในฐานะศูนย์เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ระดับแนวหน้า โดยมีอัตราความสำเร็จด้าน IVF และ PGT ที่สูง ที่สำคัญยังช่วยลูกค้าในการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายตลอดจนคลายความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจอันเกิดจากการไม่ประสบผลสำเร็จในการทำ IVF อีกด้วย
สำหรับความสำเร็จตลอด 15 ปีที่ผ่านมาของ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ด้วยผลงานด้านการรักษา และการให้บริการที่โดดเด่น ทำให้เป็นคลินิกที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากครอบครัวคนไข้ที่มารับบริการ โรงพยาบาลและคลินิกต่างๆ จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- รักษาคู่สมรสมีบุตรยากมามากกว่า 10,000 ครอบครัว จาก 37 ประเทศทั่วโลก
- ประสบการณ์ในการคัดกรองโรคทางพันธุกรรมมาแล้วมากกว่า 200 โรค
- อัตราการตั้งครรภ์ จากการทำ ICSI ร่วมกับ NGS สูงถึง 72%
- ใช้เทคโนโลยี Geri® Time-Lapse Incubator ตู้เลี้ยงตัวอ่อนระบบแยกเลี้ยง ซึ่งได้รับรางวัล Medical Design Excellence Awards จากประเทศสหรัฐอเมริกา
- ใช้เทคนิค Karyomapping โดยนักพันธุศาสตร์ ในการตรวจลึกระดับยีนเพื่อช่วยให้บุตรปลอดจากโรคทางพันธุกรรม
- ใช้ Gidget® Electronic Witness Double Checking เทคโนโลยีระบุตัวตน เพื่อเช็กความถูกต้องของไข่ อสุจิ และตัวอ่อน
- สร้างผลงานระดับเอเชีย ด้วยการรักษาบุตรปลอดโรคธาลัสซีเมีย มากถึง 12 คู่พี่น้อง จากการทำ ICSI+PGT-M (HLA Matching)
- เป็นที่แรกในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สามารถคัดกรองตัวอ่อนปลอดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (SMA1)
- ให้บริการตรวจผลพันธุกรรมตัวอ่อนกับคลินิกและโรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศไทย
3 จุดแข็งสำคัญของ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที.
ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. เป็นคลินิกแห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออก ที่ใช้เทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนในระดับยีนเดี่ยว และยังเป็นแห่งแรกในเอเชียที่ประสบความสำเร็จในการใช้เทคนิค ICSI+PGT-M (HLA Matching) และนำเซลล์ต้นกำเนิดจากเลือดในรกและสายสะดือ เพื่อใช้ในการรักษาบุตรที่เป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียให้หายขาดได้ ซึ่งเป็นโรคที่พบมากที่สุดในคู่สมรสชาวไทย
ปัจจุบัน เราพัฒนาศักยภาพด้านการบริการ ตลอดจนเครื่องมือและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยในทุกขั้นตอน รวมไปถึงมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาลและทีมงานผู้ชำนาญการ ที่ดูแลใส่ใจอย่างใกล้ชิดด้วย โดย 3 จุดแข็งสำคัญทำให้ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. แตกต่างจากที่อื่น มีดังนี้
โดย 3 จุดแข็งสำคัญทำให้ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. แตกต่างจากที่อื่น มีดังนี้
1.ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทางการแพทย์
ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ และด้านการตรวจวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อน ในการรักษา ผู้มีบุตรยาก ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) และการตรวจคัดกรองความผิดปกติของยีนหรือโครโมโซมตัวอ่อน (PGT) ชำนาญการของแพทย์ นักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อน และนักพันธุศาสตร์ ทำให้สามารถพัฒนาเทคนิคการรักษาที่สอดรับกับความต้องการของผู้รับบริการได้อย่างหลากหลาย และมุ่งมั่นพัฒนาให้เกิดอัตราความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง อาทิ เทคโนโลยี Karyomapping สำหรับการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อนลึกในระดับยีน เพื่อช่วยให้บุตรปลอดโรคทางพันธุกรรมโดยนักพันธุศาสตร์ และเทคโนโลยี Geri® Time-Lapse Incubator ตู้เลี้ยงตัวอ่อนระบบแยกเลี้ยงที่ได้รับรางวัล Medical Design Excellence Awards จากประเทศสหรัฐอเมริกา เทคโนโลยีที่ทันสมัยและความชำนาญของซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ทำให้ช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ให้แก่คู่สมรสสูงถึง 72%
2.การดูแลใส่ใจเฉพาะบุคคล
ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ให้ความสำคัญต่อการดูแลผู้รับบริการแต่ละราย ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อผลลัพธ์สูงสุดด้วยการวางแผนการรักษาที่จัดสรรเฉพาะแต่ละบุคคลและคู่สมรส โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา และทีมงานที่จะช่วยดูแลตลอดช่วงการรักษา เพื่อการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคู่สมรสมากที่สุด พร้อมทั้งดูแลอย่างใกล้ชิด เป็นที่ปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง
3.ความสำเร็จผลแห่งความทุ่มเท
ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่โดดเด่น ทำให้ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ให้บริการคู่สมรสด้วยอัตราความสำเร็จที่สูง หนึ่งในกุญแจสำคัญคือความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกรอบและมาตรฐานการให้บริการที่ดีในระดับสากลของแพทย์และทีมงานทุกคน ผลพิสูจน์จากความสำเร็จของคู่รักและคนดังมากมาย อาทิ
ครอบครัวของ คุณจ๊ะ จิตตาภา และคุณเอิน ณิธิภัทร์ ซึ่งวันนี้ได้ “น้องโอบ” และ “น้องอารี” เป็นโซ่ทองคล้องใจไปแล้ว ทั้งสองเปิดใจว่ากว่าจะได้ “น้องโอบ” และ “น้องอารี” ในวันนี้นั้นผ่านอุปสรรคอะไรมามากมาย แต่เมื่อได้พบกับคุณหมอนิศารัตน์ สุนทราภา ที่ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ที่ให้คำแนะนำมากมายจนทำให้ความฝันเรื่องการมีลูกของเราสำเร็จได้ “เพราะที่นี่เป็นยิ่งกว่าหมอ เป็นทุกอย่างให้เราจริงๆ”
หรือเคสของ คุณใบเฟิร์น – อัญชสา มงคลสมัย ดาราสาวสวยที่มีหัวคิดสมัยใหม่ตัดสินใจฝากไข่ (Egg Freezing) แช่แข็งไข่ไว้ตั้งแต่ตอนอายุเพียง 27 ปี ซึ่งเธอให้สัมภาษณ์ว่า “มันคือแผนสำรองของชีวิตที่น่าทำ ยิ่งแก่คุณภาพไข่ก็ยิ่งลดลง เก็บไข่ไว้ก่อน พร้อมเมื่อไหร่ค่อยมี เราควรมีลูกตอนพร้อม”
รวมไปถึงการตัดสินใจของดาราและพิธีกรสาวคิวทอง อย่าง คุณแอร์ – ภัณฑิลา ฟูกลิ่น ที่วางแผนเรื่องอนาคตไว้ด้วยการฝากไข่แช่แข็ง (Egg Freezing) ซึ่งเธอกล่าวว่า “การฝากไข่ไว้กับที่นี่จะสามารถนำมาใช้ได้จริง ไข่จะมีประสิทธิภาพดี ดูได้จากหลายๆ เคสที่ประสบความสำเร็จบวกกับประสบการณ์ที่เปิดมา 15 ปี มีคุณหมอที่เก่งและทีมงานน่ารัก ซึ่งที่นี่ไม่ได้เก่งแค่เฉพาะเรื่องการรักษามีบุตรยากเท่านั้น แต่ยังมีชื่อเสียงเรื่องการคัดกรองเด็กปลอดโรคทางพันธุกรรมต่างๆ อีกด้วย”
การวางแผนครอบครัวไม่จำเป็นต้องทำเมื่อแต่งงานแล้ว
คุณเจมส์ มาร์แชล กรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ให้คำแนะนำกับครอบครัวสมัยใหม่ในเรื่องการวางแผนครอบครัวว่า จากประสบการณ์การทำงาน เราพบว่าคนไข้หลายรายไม่คิดว่าตัวเองจะมีภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากสามารถหลั่งสเปิร์มได้ หรือการมีประจำเดือนมาปกติ แต่จริงๆ แล้วปัญหามีบุตรยากไม่สามารถรับรู้ได้โดยการเช็กร่างกายทั่วไป แต่ต้องได้รับการตรวจแบบเฉพาะเจาะจง บางคนกว่าจะรู้ว่ามีบุตรยาก สุขภาพร่างกายก็ไม่สมบูรณ์พร้อมดั่งใจเสียแล้ว ดังนั้นการวางแผนครอบครัว จึงเป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ ดังนั้นการวางแผนครอบครัว จึงเป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่จำเป็นจะต้องรอทำต่อเมื่อแต่งงานแล้วหรือแค่เฉพาะเมื่อตอนอายุเริ่มมากขึ้นเท่านั้น การวางแผนก่อน รู้ก่อน ทำให้มีโอกาสที่จะกำหนดแผนชีวิตได้แม่นยำยิ่งขึ้น เหมือนเป็นการสร้างอนาคตตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะสุขภาพ ความพร้อมของร่างกาย และอายุ เป็นปัจจัยสำคัญในการมีบุตร
และตลอดระยะเวลา 15 ปี ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ให้บริการด้านการรักษาผู้มีบุตรยากที่มีความโดดเด่น และเป็นมืออาชีพ โดยให้บริการด้านการรักษาที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพสูง พร้อมคัดสรรแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดกับแต่ละคู่สมรส ด้วยบริการของเรา สามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้กับคู่สมรสในการเติมเต็มความหวังที่จะมีบุตรที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้ริเริ่มและเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาด้านการรักษาผู้มีบุตรยาก
“เรายังคงมุ่งหวังที่จะเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการรักษาผู้มีบุตรยากที่ได้รับความไว้วางใจจากทุกๆ ท่าน เรายังมีเป้าหมายที่จะขยายการบริการให้ทั่วถึงทั้งครอบครัวคนไทยและต่างชาติ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับคู่สมรสทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในการมีบุตรที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง นอกจากนี้เรามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางการให้บริการด้านการรักษาผู้มีบุตรยาก ที่ประกอบไปด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ทันสมัย โดยจะคัดสรรและวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละคู่สมรส ภายใต้การให้บริการที่อบอุ่น และเป็นกันเอง”
ทั้งหมดนี้ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐและความสามารถของภาคเอกชน ก็มั่นใจว่าธุรกิจด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์จะเติบโตไปได้ดีและเป็นอุตสาหกรรม Rising Star ที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศ และทำให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) สร้างมูลค่าตลาดท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยได้อย่างแน่นอน และถ้าสนใจที่จะปรึกษาเรื่องการวางแผนการมีบุตรหรือมีภาวะของการมีบุตรยาก ลองขอข้อมูลหรือเข้าไปปรึกษาที่ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ได้ที่
Website : tinyurl.com/2p8k7v59
Line OA : https://bit.ly/3ql2pbJ