แสนสิริ ผู้ถือหุ้นใหญ่ Standard International (สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) บริษัทแม่ของเครือโรงแรม The Standard (เดอะ สแตนดาร์ด) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกในธุรกิจบูติกโฮเต็ล เผยโฉม The Standard, Hua Hin (เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน) โรงแรมแห่งแรกในเมืองไทยและเป็นรีสอร์ตติดชายหาดแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้แบรนด์ The Standard ที่แสนสิริลงทุนเอง 100% ด้วยเม็ดเงินกว่า 800 ล้านบาท
อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริคาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวในหัวเมืองใหญ่ใกล้กรุงเทพฯ จะฟื้นตัวก้าวกระโดด จึงเตรียมเปิด The Standard, Hua Hin (เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน) โรงแรมแห่งแรกในประเทศไทยและรีสอร์ตติดชายหาดแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือ The Standard ในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 นี้ รับดีมานด์ความต้องการท่องเที่ยวของคนไทยและต่างชาติที่จะเข้ามาต่อเนื่อง ภายหลังการเปิดประเทศและคนกล้าเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น
“เชื่อมั่น The Standard, Hua Hin จะได้รับการตอบรับอบอุ่นจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ และจะผลักดันรายได้แตะ 500 ล้านบาทต่อปีตามเป้า เพราะมั่นใจธุรกิจท่องเที่ยวหัวหินมีแนวโน้มฟื้นตัวก้าวกระโดดรับสัญญาณบวกเปิดประเทศ”
ผู้บริหารแสนสิริ ยังกล่าวถึงสาเหตุที่ตัดสินใจลงทุนเองทั้งหมดใน The Standard, Hua Hin ว่า จุดเริ่มต้นคือเจ้าของที่ดินได้มาคุยกับที่แสนสิริเองก่อน ซึ่งเราเห็นว่าทุกอย่างค่อนข้างลงตัว แม้ว่าแรกเริ่มเราตั้งใจว่าจะทำเฉพาะรูปแบบคอนโดควบคู่โรงแรม แต่เมื่อเราได้มาดูทำเลและองค์ประกอบอีกหลายอย่าง กอปรกับเราเป็นช่วงเวลาที่ The Standard กำลังมองหาทำเลที่ติดทะเล และเชื่อว่าน่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า จึงตัดสินใจที่จะขอลงทุนทำเองเฉพาะโครงการนี้ ก็เรียกว่าเป็นสเปเชียลเคสที่เกิดขึ้น
“กับธุรกิจในส่วนของ Hospitality ตรงนี้ มองว่าเป็น กึ่ง Diversify ของการทำธุรกิจ เป็นการกระจายความเสี่ยงที่ยังคงรีเลทกับคอร์ไอเดียธุรกิจของเรา หมายถึงว่า แม้จะ Diversify แต่ก็ยังคงมี Synergy กับธุรกิจหลักอยู่ ไม่ได้โดดข้ามธุรกิจไปทำอะไรที่ห่างไกลจากคอร์บิสซิเนส ดังนั้น 1+1 ต้องเท่ากับ 2.5 อาจจะบอกได้ยากถ้าเราจะไปลงทุนอย่างอื่นเลย แต่ก็มีความเป็นไปได้
สำหรับรายได้ของการลงทุนในเครือ The Standard ในส่วนรายได้ที่เกิดขึ้น ก็เกิดจากผลกำไรที่ทาง The Standard ทั่วโลกทำ อย่างไรก็ตาม เราไม่เน้นการลงทุนทำเอง แต่จะใช้วิธีในการลงทุนร่วมกับคนอื่นซึ่งสะดวกกว่า โดยปัจจุบันรายได้หลักของเราอยู่ที่ 30,000 ล้านบาทต่อปี ดังนั้น ซึ่งเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์ของโควิด-19 ดีขึ้น ส่วนนี้ก็จะมาเติมในพอร์ตของเราเพิ่มขึ้นแน่นอน”
นอกจากนี้ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Standard International (สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) กว่า 62% และผู้ลงทุนพัฒนา The Standard, Hua Hin (เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน) ด้วยเงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท แสนสิริเชื่อมั่นว่า The Standard, Hua Hin (เดอะ สแตนด์ดาร์ด หัวหิน) จะมอบประสบการณ์การพักผ่อนอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนมาสู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ด้วยจุดเด่นในฐานะรีสอร์ตสุดฮิพติดชายหาด ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ ผ่านแฟชั่น รสนิยม ความล้ำสมัย พร้อมกิจกรรมไลฟ์สไตล์ฉีกมาตรฐานโรงแรมที่เคยรู้จักให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยวได้สัมผัส อันจะทำให้ภาพโรงแรมในสายตาของคนไทยจะเปลี่ยนไปแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน (Upside Down) ภายหลังจากที่เคยสร้างชื่อเสียงในนิวยอร์ก, ลอนดอน, ไมอามี่ ฯลฯ จนได้รับการจัดอันดับให้เป็น หนึ่งในไลฟ์สไตล์บูติกโฮเต็ลที่ดีที่สุดในโลก และเป็น A Place to be Seen ของเหล่าเซเลบริตี้ทั่วโลกมากมาย อาทิ จัสติน บีเบอร์, มาดอนน่า, บิยอนเซ่ เป็นต้น
หัวหินเป็นเมืองที่เหมาะสมในการเปิดตัวรีสอร์ตติดชายทะเลโครงการแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองชายทะเลอย่างหัวหินมีแนวโน้มสดใสเมื่อเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในประเทศไทย เพราะพึ่งพาตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลักถึง 70% และปัจจุบันมีอัตราเข้าพักสูงกว่าเมืองท่องเที่ยวหลักอย่าง พัทยา ภูเก็ต และกรุงเทพฯ อย่างชัดเจน โดยข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์แนวโน้มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยระบุว่า 5 เดือนจากนี้ (พ.ย. 2564 – มี.ค. 2565) ซึ่งตรงกับช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซัน จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน ใช้จ่ายเฉลี่ย 60,000 บาทต่อคน ด้านนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่าร้อยละ 44 โดยเฉพาะกลุ่มคนกรุงเทพฯ มีการวางแผนการเดินทางในช่วงปลายปี 2564 โดยคาดการณ์ว่าที่พักประเภทรีสอร์ตที่มีความเป็นส่วนตัวในเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ จะได้รับความนิยมสูงสุด
ด้าน บริพัตร หลุยเจริญ Managing Director, Standard Asia Co.,Ltd. กล่าวว่า The Standard, Hua Hin มีห้องพัก 178 ห้อง และวิลล่า 21 หลังติดหาดหัวหินที่มีน้ำทะเลใส หาดทรายสีขาว ด้วยดีไซน์อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร ทําให้ The Standard, Hua Hin ถือเป็นจุดหมายใหม่ของนักเดินทางสําหรับกลุ่มลูกค้าคนไทยผู้ชื่นชอบการพักผ่อนอย่างสร้างสรรค์ และกลุ่มลูกค้าที่เป็นแฟนคลับของ The Standard ทั่วโลก นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นรีสอร์ตที่ประกอบด้วยห้องพัก ห้องสวีท และวิลล่า โดดเด่นด้านงานดีไซน์ที่ถูกออกแบบด้วยสีสันสบายตาทั้งหมด 199 ห้อง เสริมด้วยสระว่ายน้ำที่ชวนให้นึกถึงโรงแรมต้นแบบอย่าง The Standard Spa, Miami Beach แต่ละห้องจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้ลูกค้าทุกท่านรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ตั้งแต่เตียงสุดนุ่ม เรนชาวเวอร์ อ่างอาบน้ำเพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายระหว่างการเข้าพัก ไปจนถึงสระน้ำส่วนตัวภายในวิลล่า
“สำหรับค่าห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6,000 พันบาท โดยค่าห้องพักปกติ 5,000 – 30,000 บาท ขณะที่ค่าห้องพักประเภทพูลวิลล่าอยู่ที่ 15,000 – 30,000 พันบาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ดีมากสำหรับโรงแรมติดริมชายทะเล โดยกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ของเราคืนนักท่องเที่ยวในประเทศ เนื่องจากหัวหินเป็นเดสทิเนชั่นของคนไทยมากกว่าต่างประเทศ”
ในส่วนของ ห้องอาหารและบาร์ Lido พร้อมเสิร์ฟความอร่อยสไตล์อิตาเลียนให้คุณเอนจอยได้อยู่เสมอ ตั้งแต่มื้อเช้า มื้อกลางวัน หรือจะเป็นมื้อเย็นกับครอบครัว The Juice Café เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพหรือจะมาเติมเต็มความสดชื่นให้ร่างกาย คาเฟ่มีให้ครบจบที่เดียวกับเมนูเครื่องดื่มหลากชนิดตั้งแต่กาแฟคั่วสด สมูทตี้ น้ำผลไม้คั้นสดหรือสกัดเย็น และของทานเล่นแบบเฮลท์ตี้ สำหรับมื้อสุดโปรดริมชายหาดคงหนีไม่พ้นที่ Praça บ้านพักตากอากาศดั้งเดิมของราชนิกุลที่ได้รับการบูรณะใหม่อย่างไร้ที่ติ เสิร์ฟอาหารไทยสไตล์อิซากายะ รสชาติดั้งเดิมจับคู่กับค็อกเทลหรือไวน์เลิศรส
นอกจากนี้ยังมี The Spa ตอบโจทย์อีกหนึ่งสถานที่ในโรงแรม ที่จะพลิกโฉมประสบการณ์การทำสปาแบบเดิมๆ ให้ไม่เหมือนเคย ตกแต่งด้วยโทนสีสันสดใสแต่เรียบง่ายสบายตาเข้าถึงความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ประกอบกับห้องทรีตเมนต์ส่วนตัวสี่ห้องทั้งแบบคู่และแบบเดี่ยว ตามด้วยเทอราปิสผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมฟื้นฟูความกระปรี้กระเปร่าผสมผสานการทำทรีตเมนต์แบบดั้งเดิมให้คุณรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และสดชื่น และ 2 กิจกรรมซิกเนเจอร์ที่มีเฉพาะที่ The Standard, Hua Hin ในเมืองหัวหิน ได้แก่ Singing Bowl คลื่นเสียงบำบัด มอบความผ่อนคลายจากเสียงก้องกังวาลของขัน เพื่อให้ความสั่นเข้าไปสั่นสะเทือนมวลน้ำในร่างกายให้ธาตุไม่ดีตกตะกอน และ Mud Lounge การพอกโคลนสีสัน นำเข้าจากประเทศแคริบเบียน ตามธาตุทั้ง 4 ได้แก่ สีเทาสำหรับธาตุลม, สีชมพูสำหรับธาตุไฟ, สีเขียวสำหรับธาตุน้ำและสีเหลืองสำหรับธาตุดิน ตลอดจนกิจกรรมไลฟ์สไตล์แบบจัดเต็มตอกย้ำความแตกต่างของไลฟ์สไตล์แบรนด์ของ The Standard ตลอดเดือนธันวาคมนี้ กับ Pool Party, Wellness Retreat by Note Panayangkul x DJ Myle และ Christmas and New Year Party ทั้งนี้ The Standard, Hua Hin พร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 นี้ ซึ่งขณะนี้จองเต็มทุกห้องหมดแล้ว
คุณบริพัตร ยังกล่าวถึงพฤติกรรมผู้บริโภคช่วง Post Covid-19 ว่า นักท่องเที่ยวมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เน้นท่องเที่ยวที่สั้นลง เช่น เทรนด์ Staycation เป็นการท่องเที่ยวในช่วงเวลาสั้น ไม่ว่าจะกลุ่มครอบครัวหรือคนทำงาน ดังนั้น เราจึงปรับกลยุทธ์ต่างๆ ให้เข้ากับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป และให้ตรงกับใจของลูกค้าในทุกเซกเมนต์ เทรนด์การท่องเที่ยวคือจะต้องไปเที่ยวด้วยและอยู่กับโรคระบาดด้วยซึ่งยังไม่รู้ว่าจะหมดไปเมื่อไหร่ แต่ทุกอย่างเราก็ต้องปรับตัวและโกออนไปให้ได้
เมื่อถามถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่อาจจะเกิดระลอกใหม่จะรับมืออย่าไร คุณบริพัตร กล่าวว่า ทุกวิกฤตเราเผชิญมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะระลอกเก่าระลอกใหม่ จะหนักหรือเบา ดังนั้น เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถรับมือได้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบล็อกดาวน์ปิดที่พัก หรือเปิดแค่บางส่วน อย่างไรก็ตาม ในช่วงของการเปิดประเทศ เราก็ต้องมีการปรับตัวตามความต้องการของนักท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของสะอาด (Hygiene) โดยเราให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นลำดับแรก
สำหรับการขยายธุรกิจของโรงแรม The Standard มีเป้าหมายที่จะเป็นโกลบอลแบรนด์ ดังนั้น แม้เราจะเป็นแบรนด์อเมริกา แต่เราก็มีเป้าหมายที่จะไปทุกที่ทั่วโลก ซึ่งตอนนี้เราก็ขยับไปที่ยุโรป เอเชีย และอาเชียน ซึ่งเราก็ไปปักหมุดในหลายประเทศแล้วและก็ขยับไปเรื่อยๆ ให้ครอบคลุมมากที่สุด สำหรับเกณฑ์ในการคัดเลือกสถานที่ว่าที่ไหนจะปักหมุด เน้นทำเลมาอันดับแรก แอเรียโดยรอบเป็นอันดับสอง อันดับสาม คือขนาดของที่ดี ส่วนอื่นๆ ก็คือเรื่องของอาคารสถานที่ที่อาจจะมาประเมินในการว่าต้องปรับปรุงมากน้อยแค่ไหน