สวยน้อยหน่อยอร่อยไม่ต่าง! เปิดกรณีศึกษา "แสนสิริ" ช่วยโลกลดขยะอาหาร ใช้จุดแข็งเรื่องไลฟ์สไตล์ของลูกบ้าน ผสานกับเรื่อง Sustainability ที่ทำยากได้อย่างแยบยล

3.9K

รู้หรือไม่ว่า 8-10% ของก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยสู่โลกนั้นเกี่ยวข้องกับอาหารที่มนุษย์ไม่ได้รับประทาน โดยการประเมินของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Program) หรือ UNEP พบว่าหากมองขยะอาหารเป็นประเทศหนึ่งในโลก ประเทศ Food Waste จะเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ทีเดียว

รายงานดัชนีขยะอาหารปี 2021 ของ UNEP ประเมินว่าเศษอาหารจากครัวเรือน สถานประกอบการค้าปลีก และอุตสาหกรรมบริการอาหาร สามารถคิดได้เป็นตัวเลขรวม 931 ล้านตันในแต่ละปี โดย 26% มาจากอุตสาหกรรมบริการอาหารและ 13% จากอุตสาหกรรมค้าปลีก แต่ทั้งหมดนี้เทียบไม่ได้กับแหล่งทิ้งขนาดใหญ่ที่สุด นั่นคือครัวเรือน (61%) สถิติทั้งหมดนี้หมายความว่าประชากรโลกกำลัง “ทิ้งอาหาร” ทั้งที่อยู่ในร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และระดับผู้บริโภค ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ จึงควรใส่ใจเข้ามามีบทบาทสำคัญในการลดจำนวนอาหารที่ถูกโยนทิ้งในอนาคต โดยเฉพาะในพื้นที่สร้างการตระหนักรู้ การศึกษา และทรัพยากรที่หลายแบรนด์สามารถยื่นมือมาช่วยในพื้นที่เหล่านี้

กรณีศึกษาที่โดดเด่นเรื่องแบรนด์กับปัญหาขยะอาหารไทยในขณะนี้คือ “แสนสิริ” ซึ่งล่าสุดได้ลุกขึ้นมาทำโครงการ “I AM GOOD สวยน้อยหน่อย อร่อยไม่ต่าง” ช่วยโลกลดขยะอาหารแบบไม่ธรรมดา เพราะมีการใช้จุดแข็งเรื่องไลฟ์สไตล์มาเบลนหรือผสมกับเรื่องความยั่งยืนให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของลูกบ้าน ที่หลายคนมองว่าทำยาก จนแสนสิริสามารถออกแอคชั่นเพื่อจัดการขยะอาหารหรือ Food Waste Management ได้แยบยล

เปิดที่มา แสนสิริผสมผสานความยั่งยืนเข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกบ้าน กับปมขยะอาหาร

แนวคิดแคมเปญ “I AM GOOD สวยน้อยหน่อย อร่อยไม่ต่าง” ที่แบรนด์อสังหาฯอย่างแสนสิริ ชวนให้คนเห็นคุณค่าของผลผลิตที่อาจมองว่าไม่งามหรือมีรอยด่าง เพื่อลดปริมาณขยะอาหารที่ถูกทิ้งไป นั้นมีส่วนเชื่อมต่อกับแคมเปญ Waste Management ที่แสนสิริจัดมาก่อนหน้านี้ในชื่อว่า Waste to WORTH และมุ่งให้ความสำคัญเรื่องการจัดการขยะในทุกประเภทมาหลายปีแล้ว

จนมาปีนี้ แสนสิริเลือกโฟกัสที่ขยะอาหารหรือ Food Waste เพิ่มเติม แต่เลือกดึงมาพูดในวิธีที่สนุก มีกลิ่นอายไลฟ์สไตล์ชัดเจนและเข้าถึงง่ายในชีวิตประจำวันของลูกบ้านและทุกคนมากขึ้น กลายเป็นแคมเปญ “I AM GOOD สวยน้อยหน่อยอร่อยไม่ต่าง” ที่แสนสิริไม่ยอมทำคนเดียว แต่ผนึกกำลัง Partnership กับ 5 พันธมิตรรักษ์โลก ได้แก่ วิลล่า มาร์เก็ท, โอ้กะจู๋, ยินดี, โจนส์สลัด และไร่กำนันจุล

จุดเด่นของแคมเปญที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์แนวคิดด้านความยั่งยืนให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของลูกบ้าน ไม่เพียงทำให้แสนสิริมีภาพลักษณ์แบรนด์ที่มุ่งชวนครอบครัวแสนสิริให้ลงมือลด Food Waste แต่แสนสิริยังท็อปฟอร์มเรื่องการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบของอาหารส่วนเกินต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการชวนนี้มีแรงดึงดูดด้วยไลน์อัพพรีวิลเลจพิเศษเฉพาะสำหรับลูกบ้านแสนสิริ ซึ่งทยอยสร้างสีสันมาตั้งแต่เดือนกันยายน ส่วนหนึ่งของพลังพรีวิลเลจในแคมเปญนี้คือ ส่วนลดเมนูพิเศษที่ร้านโอ้กะจู๋ ส่วนลดที่ร้านไร่กำนันจุล และ สิทธิพิเศษกับแอปพลิเคชัน ยินดี (Yindii)

ทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่า Waste Management ที่แสนสิริมุ่งส่งเสริมและสร้างความเข้าใจในการแยกขยะให้เกิดประโยชน์ นั้นได้ขยับมาสู่การลด Food Waste และอาหารส่วนเกินให้กับลูกบ้านอย่างได้ผล การลด Food Waste ถือเป็นบันไดสำคัญสู่เป้าหมายใหญ่ที่แสนสิริวางไว้คือ NET-ZERO บนเจตนารมณ์ในการสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เจตนารมณ์นี้ยังสะท้อนชัดเจนในกิจกรรมมอบมื้อกลางวันสุดพิเศษให้นักเรียนที่ราชบุรี ที่แสนสิริได้ชวนโอ้กะจู๋ และโจนส์สลัด มาร่วมสนับสนุนเกษตรกรไทยให้ต่อยอดอาหารกลางวันยั่งยืนได้แบบอิ่มท้องและยิ้มได้

นี่คืออีกครั้งที่แบรนด์ซึ่งเป็นผู้นำด้านอสังหาฯ อย่างแสนสิริ สามารถจัดงานไลฟสไตล์ในรูปแบบ Sustainability ที่มีอิมแพคครบลูป มาทำอาหารกลางวันให้นักเรียนที่จังหวัดราชบุรี โดยเชฟจากทางร้าน นำผลผลิตจากการสนับสนุนเกษตรกรไทย มาทำเป็นเมนูสุดพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชนและโรงเรียน สามารถปรุงมื้อกลางวันจากวัตถุดิบท้องถิ่นที่มี ให้เป็นเมนูอร่อยแก่นักเรียน อย่างมีคุณภาพ ครบสารอาหาร 5 หมู่

กิจกรรมนี้ไม่ใช่กิจกรรม CSR ที่ไปเลี้ยงอาหารกลางวันแล้วจบไป เพราะแสนสิริยังจัดประกวดวาดภาพเนื่องในโอกาสวันอาหารโลก (World Food Day) เพื่อให้เด็กนักเรียนได้ตระหนักและเห็นคุณค่าของอาหาร รวมถึงการลดขยะอาหารเพื่อโลก โดยการจัด SANSIRI World Food Day Art Exhibition & Art Market จะมีการขายภาพวาดเพื่อเป็นเงินรางวัลให้กับน้องเจ้าของภาพวาด และสมทบทุนโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันที่ยั่งยืน ที่โรงเรียนจังหวัดราชบุรี เป้าหมายคือเพื่อให้โรงเรียนได้มีแปลงเกษตร ที่สามารถเก็บผัก ไข่ไก่ ฯลฯ มาเป็นวัตถุดิบให้กับมื้อกลางวันที่โรงเรียนได้ต่อ แถมยังเพิ่มโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้การทำเกษตรยั่งยืนไปในตัว

นำเทรนด์แบรนด์สางปม Food Waste

หากมองจากวงนอก ต้องยอมรับว่าในบรรดาความโดดเด่นจากการทำแคมเปญไลฟ์สไตล์ของแสนสิริที่เราเคยเห็นมาตลอด การออกแคมเปญ I AM GOOD ถือเป็นแรงดันเชิงบวกให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน เนื่องจากปัญหา Food Waste ถูกแสนสิริสื่อออกมาในรูปแบบไลฟ์สไตล์น่ารักน่าสนใจ และแปลกตากว่าเมื่อเทียบกับแบรนด์อสังหาฯ เจ้าอื่น จนเกิดเป็นบางแง่มุม CRM ที่แบรนด์อื่นสามารถนำไปทำตามได้ ไม่ใช่แค่เฉพาะแบรนด์อสังหาฯ แต่ทุกแบรนด์ทุกอุตสาหกรรมสามารถต่อยอดกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนด้วยการหาพันธมิตรที่หลากหลาย กรณีของแสนสิริ นั้นไม่เพียงมีแต่พาร์ทเนอร์รักษ์โลกที่แสนสิริชวนมาร่วมแคมเปญด้วยกัน แต่ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ และแบรนด์อีกมากมายกว่า 20 เจ้า ที่ร่วมประกาศจุดยืนรักษ์โลกรักษ์อาหารกับแสนสิริ ซึ่งทุกความร่วมมือล้วนนำไปสู่สิทธิพิเศษที่แสนสิริทำกับพาร์ทเนอร์ แล้วมอบต่อให้กับลูกบ้านแสนสิริทุกคน

ผลลัพท์ยิ่งใหญ่ที่แสนสิริจะได้รับจากแคมเปญรอบนี้คือ Engagement จาก CSR ที่เป็นกิจกรรมมื้ออาหารพิเศษให้น้องที่ราชบุรี จนถึงการทำ CRM บน Partnership เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้ลูกบ้าน จาก 4 พาร์ทเนอร์ โอ้กะจู๋, วิลล่า, ไร่กำนันจุล และยินดี ล้วนทำให้ทุกคนมีส่วมร่วมในการลด Food Waste ได้ด้วยการเห็นคุณค่าของผลผลิต โดยมองข้ามความสมบูรณ์แบบแล้วให้ความสำคัญกับคุณค่า ทำให้ทุกคนมีส่วนช่วยเหลือชาวเกษตรกรที่เดือดร้อน เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปริมาณขยะ และเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความรู้ และสนับสนุนเรื่องความยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้พันธกิจ “Sansiri Sustainability”

อีกผลลัพธ์ที่แสนสิริจะได้คือต้นแบบหรือ Role Model ในการจัดการเรื่อง ZERO FOOD WASTE ให้กับลูกบ้าน องค์กร และสังคมไทย ซึ่งจะเกิดประโยชน์ไปไกลกว่าภาพลักษณ์แบรนด์แสนสิริแน่นอน นักการตลาดและทุกคนที่สนใจสามารถชมงาน Let’s Make Everyday Better วันที่ 16-18 Dec 2022 ที่ SANSIRI BACKYARD ประกอบด้วย 4 รูปแบบประสบการณ์ที่จะถูกแยกเป็นโซน คือ 1. Climate Care Space รู้ รักษ์โลกอย่างถูกวิธี 2. I am Good Market & Eatery ช้อปผลผลิต อาหารยั่งยืน 3. Eco-workshop & Games สนุกเวิร์คช็อป และเกมส์รับรางวัล และ 4. Urban Farm Activities กิจกรรมฟาร์มกลางเมือง เพื่อสัมผัสถึงความเป็น Sansiri Sustainability และบรรดาพาร์ทเนอร์หลากหลายแบรนด์ที่มาร่วมทำสิ่งดีๆ ด้วยกัน.