ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจากวิกฤตโควิด-19 เหตุการณ์ครั้งนี้ผลกระทบและสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อการใช้ชีวิตและวิธีคิดของคน ผู้คนเดินทางน้อยลงและใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผลต่อธุรกิจต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะธุรกิจรีเทล ที่นอกจากจะต้องพลิกเกมกางตำราสู้กับอีคอมเมิร์ซที่กำลังมาแรงแล้ว ก็ยังต้องปรับสูตรหาฟอร์มูล่าใหม่ๆ มาใช้ดึงดูดผู้คนให้ออกมาเอ็นจอยกับชีวิตข้างนอกมากขึ้น ซึ่งกลยุทธ์หนึ่งที่ขณะนี้กำลังเป็นเทรนด์สำคัญของธุรกิจรีเทลทั่วโลก ได้แก่ เทรนด์ Placemaking Space ซึ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับทั้งร้านค้าและลูกค้าที่มาใช้บริการ ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเทรนด์นี้กำลังมาแรงและได้รับผลตอบรับดีในธุรกิจรีเทล
น่าสนใจที่วันนี้เราได้เห็นการนำเอากลยุทธ์ดังกล่าวนี้มาใช้ในประเทศไทยแล้ว โดย “สามย่านมิตรทาวน์” มิกซ์ยูสแถวหน้าชั้นนำของไทย ซึ่งปรากฏว่าหลังจากการใช้สูตรดังกล่าว ก็สามารถพลิกสถานการณ์หลังเหตุการณ์โควิด-19 ให้ดีขึ้นได้และดีกว่าเดิมเสียด้วย ดังนั้น วันนี้เราลองหยิบ “สามย่านมิตรทาวน์” มาเป็นกรณีศึกษาว่า การใช้กลยุทธ์ Inspiring Everyday Experiences ช่วยธุรกิจรีเทลได้อย่างไร
สามย่านมิตรทาวน์ (Samyan Mitrtown) โครงการมิกซ์ยูส ที่มีทั้งพื้นที่ค้าปลีก โรงแรม อาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัย ด้วยมูลค่าโครงการสูงถึง 9,000 ล้านบาท เปิดตัวเมื่อปลายปี 2562 โดยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย)” ผู้พัฒนาอาคารเชิงพาณิชย์เกรดเอ ใจกลางกรุงเทพฯ หนึ่งในกลุ่มธุรกิจสำคัญของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) หรือ FPT อสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกในประเทศไทย หลังการเปิดตัวก็ได้รับการตอบรับอย่างดี กลายเป็นเดสทิเนชั่นแห่งใหม่ของคนเมืองในปีนั้น แต่ก็เช่นเดียวกับธุรกิจรีเทลทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เมื่อปี 2563 เช่นเดียวกัน แต่ภายใต้การบริหารงานด้วยความเข้าใจที่มีต่อกลุ่มร้านค้า พนักงาน และลูกค้า (empathy) ทำให้สามารถก้าวพ้นวิกฤตดังกล่าวไปได้
นอกจากนี้ สามย่านมิตรทาวน์ยังได้หยิบเอา Placemaking Space เทรนด์ที่ตอนนี้ธุรกิจรีเทลทั่วโลกได้นำมาใช้ในการพัฒนาพื้นที่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาด้วย โดยการเพิ่มพื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์ในโครงการเชิงพาณิชย์ เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าและชุมชนด้วยพื้นที่ในการทำกิจกรรมที่หลากหลาย โดยได้เตรียมพื้นที่กว่า 6,000 ตร.ม. ภายในสามย่านมิตรทาวน์ มาทรานฟอร์มเป็น Placemaking Space อาทิ อุโมงค์เชื่อมมิตร ลานด้านหน้าของศูนย์ สวนลอยฟ้า และพื้นที่กิจกรรมต่างๆ รอบศูนย์ฯ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ โดยการนำของแม่ทัพใหญ่อย่าง คุณธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) ซึ่งได้ใช้กลยุทธ์สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในการพลิกสถานการณ์ ได้แก่ “Inspiring Everyday Experiences” ด้วยการเนรมิตพื้นที่รีเทลเพื่อสร้างประสบการณ์ผสานแรงบันดาลใจได้ทุกวัน และเดินหน้าผลักดัน “สามย่านมิตรทาวน์” ภายใต้คอนเซ็ปต์ของการเป็น ‘คลังอาหารและการเรียนรู้’ ให้เป็นเดสติเนชั่นของทุกเจเนเรชั่นจนสามารถพาทุกคนทุกฝ่ายรอดพ้นวิกฤตไปได้ โดยมีวิธีการดำเนินงาน 3 ประการ ดังนี้
1.ระดมร้านอาหารแบรนด์แม่เหล็ก ขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมทุกเจเนเรชั่น ทุกไลฟ์สไตล์
ตั้งแต่ กุมภาพันธ์ – เมษายน สามย่านมิตรทาวน์ ทยอยเปิดร้านอาหารใหม่ทั้งสิ้น 11 ร้าน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.เกาหลีฟีเวอร์ “K-strEAT” อาณาจักรอาหารเกาหลีแห่งแรกของประเทศไทย ชูจุดเด่นรวมทุกเมนูเกาหลีไวในเดสติเนชั่นเดียว ตอบโจทย์กระแสอาหารเกาหลีจากซีรี่ย์สุดฮิตในช่วง Work from home 2.ร้านดังจากโซเชียลฯ ยกร้านดังร้านเด็ดจากทั่วกรุงเทพที่มีร้านน่าสนใจเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา แต่เราสามารถชวนร้านเหล่านั้นมานำเสนอใหม่ในซิกเนเจอร์ของสามย่านมิตรทาวน์ได้ทันกระแส 3.ร้านอิ่มสบายกระเป๋า ราคาเริ่มต้นเพียง 40 บาท นอกจากเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายจากผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เติมเต็มพอร์ทอาหารครบครันทั้งด้านประเภทอาหาร สัญชาติอาหาร และช่วงราคา
2.สร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายความรู้ผ่านการนำเสนอที่เข้าถึงง่ายสไตล์สามย่านมิตรทาวน์
สนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดพื้นที่แห่งความรู้ที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย อาทิ โซนสามย่านโคออป (Samyan CO-OP) ที่นอกจากเป็นโคเลิร์นนิ่งสเปซที่เปิดให้บริการฟรีสำหรับทุกคน และ ร้านมีเดียม แอนด์ มอร์ (Medium & More) ศูนย์รวมสินค้าอาร์ต แอนด์ คราฟ คอนเซ็ปต์ใหม่ ที่ครบครันสำหรับผู้สนใจด้านศิลปะ นอกจากนี้ ในทุกอีเว้นต์เรายังพยายามสอดแทรกกิจกรรมที่เกิดการเรียนรู้ อาทิ การเพิ่มกิจกรรมสอนวิธีการใช้งาน ฝึกปฏบัติ รวมถึงเวิร์คช็อปเข้ากับอีเว้นต์ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นการผสานกิจกรรมที่ให้ความรู้ผ่านกิจกรรมที่ตรงกับความสนใจของลูกค้าในขณะนี้ได้อย่างลงตัว
3.เติมเต็มกิจกรรมให้เกิดปฏิสัมพันธ์กับชุมชน ผ่านการให้บริการพื้นที่ด้วยคอนเซ็ปต์ Placemaking
สามย่านมิตรทาวน์ เดินหน้าให้บริการพื้นที่โดยยึดมั่นด้านคุณภาพชีวิตของผู้ใช้บริการ และชุมชนต่างๆ เพื่อเปิดพื้นที่ส่วนกลางให้ลูกค้า และผู้มาใช้บริการได้ใช้ประโยชน์ในการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ โดยให้บริการในรูปแบบพื้นที่สาธารณะ (Public Space) ที่ใครก็สามารถเข้าไปได้ มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สามารถทำกิจกรรมที่อยากทำ นอกจากการช้อปปิ้ง ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่ต้องการตอบแทนคืนสังคมในรูปแบบหนึ่งที่โครงการตั้งใจ อาทิ การร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำจัดกิจกรรมที่เกิดประโยชน์กับสังคม การยกพื้นที่ให้นิสิตนักศึกษาได้แสดงฝีมือจัดแสดงธีสิส เป็นต้น
ที่สำคัญ ยังมีการใช้ Big data มาวิเคราะห์จนพบว่าสัดส่วนของร้านค้าภายในโครงการสามย่านมิตรทาวน์ โดยเฉพาะในส่วนของ ‘ร้านอาหาร’ เป็นสินค้าหลักที่ได้รับการตอบรับที่ดีที่สุดจากลูกค้า ดังนั้น ในปีนี้ทางสามย่านมิตรทาวน์ จึงได้เสริมทัพร้านอาหารขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก เพื่อให้สอดคล้องกับการเป็น คลังอาหารและการเรียนรู้ ดังนี้
- 50% เป็นพื้นที่ “The Eating Library” พื้นที่สร้างประสบการณ์ทั้งศาสตร์ และศิลป์ในการรับประทานอาหาร นอกเหนือจากการรับประทานธรรมดาทั่วไป โดยคัดสรรอาหารที่หลากหลายตามความต้องการ
- 25% เป็นพื้นที่ “The Learning Library” พื้นที่สำหรับเปิดกว้างสำหรับการเรียนรู้ และการเรียนเสริมทักษะที่จะเติมเต็มจินตนาการสานให้ครบทุกด้านของชีวิต
- 25% เป็นพื้นที่ “The Living Library” พื้นที่รวบรวมสิ่งจำเป็นต่อไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนเมือง
ซึ่งผลจากการปรับตัวได้ทันกับเทรนด์ธุรกิจโลกอย่างรวดเร็ว ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ปัจจุบันยอดผู้ใช้บริการสามย่านมิตรทาวน์ กลับมาแล้วกว่า 53,000 คนหรือเทียบเท่า 84% กับช่วงก่อนโควิด-19 ขณะที่ยอดร้านค้าเช่าพื้นที่แล้วกว่า 97% เรียกได้ว่าเป็นการพลิกสถานการณ์ที่ได้อย่างว่องไวทีเดียว
และเร็วๆ นี้ในช่วงเวลาแห่งความสุข เทศกาลสงกรานต์ สามย่านมิตรทาวน์ จะจัดกิจกรรม Samyan Mitrtown – Endless Summer กิจกรรมรับหน้าร้อนจากแรงบันดาลใจของทะเลสีคราม เกลียวคลื่น และไอแดด ที่เนรมิตรให้สามย่านมิตรทาวน์ เป็นดินแดนแห่งซัมเมอร์ ที่มีแต่ความสนุกไม่รู้จบ ต้อนรับชาวมิตรที่เดินทางผ่านอุโมงค์เชื่อมมิตร Underwater ในบรรยากาศ ใต้ทะเล ที่โซน Disco Blue พบกิจกรรมริมหาด ร้านค้า และความสนุกมากมาย ที่ลานหน้าศูนย์ ที่โซน Surf Club และดื่มด่า จิบมอคเทล ที่โซน Sunrise คาดการณ์ว่าจะเป็นสร้างซิกเนเจอร์อีเว้นต์ให้เหล่ามิตรได้สนุกสนานตลอดหน้าร้อนและเทศกาลสงกรานต์นี้ กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 มี.ค. ถึง 30 เม.ย. นี้ และเป็นครั้งแรกกับการเล่นน้ำสงกรานต์กลางสามย่าน ที่เราได้เตรียมเพิ่ม Water Zone ระหว่าง 8-15 เม.ย. นี้อีกด้วย ที่สำคัญ ตลอดทั้งกิจกรรมจะเคร่งครัดในเรื่องการป้องกันและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ
จากการปรับตัวและกิจกรรมใหม่ๆ ในช่วงต้นปีทั้งหมดนี้ ทางสามย่านมิตรทาวน์ก็มั่นใจว่าการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมกับการใช้ประโยชน์ของพื้นที่อย่างสร้าสรรค์จะทำให้ยอดผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นเทียบเท่าช่วงก่อนโควิดที่ 80,000 คนอย่างแน่นอนภายในปลายปีนี้