หนึ่งในการพัฒนาที่สำคัญที่สุด คือ “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” ซึ่งบทบาทหน้าที่นี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะสถาบันการศึกษา หรือภาครัฐเท่านั้น หากแต่ภาคเอกชน สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมและพัฒนาทักษะให้กับคนในสังคมได้เช่นกัน เพราะ “People” ถือเป็น Stakeholders ของการดำเนินธุรกิจบนแนวคิดความยั่งยืน
ดังเช่น “ซัมซุง” (Samsung) ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนแนวทางความยั่งยืน หรือ Samsung SDG หนึ่งในพันธกิจหลักขององค์กร คือ ด้านการศึกษา ด้วยการพัฒนาทักษะเทคโนโลยีให้แก่เยาวชน สำหรับในประเทศไทย “บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด” ได้เดินหน้าส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีแก่เยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ “Samsung Innovation Campus 2024” มุ่งขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ Thailand 5.0
จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ – สร้างโอกาสอนาคตที่ดีกว่าให้กับเยาวชนไทย
วัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการ “Samsung Innovation Campus 2024” ทั้งทางออนไลน์และในโรงเรียน 10 แห่ง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีแก่เยาวชนไทยทั่วประเทศ เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ สร้างโอกาสสำหรับอนาคตที่ดีกว่า และเพิ่มศักยภาพความสามารถของนักเรียนไทยในระดับมัธยมศึกษาอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ โดยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Thailand 5.0
สำหรับโครงการ Samsung Innovation Campus ในปีนี้ มีนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการมากถึง 7,286 คน โดย “โรงเรียนวัดคลองสวนฯ จังหวัดสมุทรปราการ” เป็นต้นแบบความสำเร็จของโครงการผ่านเรื่องราวความประทับใจจากคุณครูและนักเรียนกว่า 113 คน ที่ได้นำความรู้จากโครงการไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
“โครงการ Samsung Innovation Campus เป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมทักษะเทคโนโลยีให้กับเยาวชนไทยโดยเน้นการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมยกระดับการศึกษาแก่เยาวชนให้เท่าเทียมทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้สังคมไทย” คุณมาร์ค คิม ประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะความรู้ให้กับเยาวชน
ล่าสุดซัมซุง ลงพื้นที่เยี่ยมชมการเรียนการสอนโรงเรียนวัดคลองสวนฯ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์เยาวชนไทยในการเรียนด้านเทคโนโลยี เพื่อเท่าทันทุกการเปลี่ยนแปลงของทักษะแห่งอนาคต ผ่านเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจและความประทับใจที่ต้องการส่งต่อให้กับสังคม
“โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับเยาวชน แต่ยังเป็นการปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาตนเองที่สามารถนำไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้นสำหรับทุกคนในสังคม” คุณมาร์ค คิม กล่าวเพิ่มเติม
“เข้าใจเทคโนโลยี-สนุก-ประยุกต์ใช้ได้จริง” เสียงจากครู-นักเรียนที่เข้าร่วม Samsung Innovation Campus
ทางด้านการตอบรับจากครู และนักเรียนโรงเรียนวัดคลองสวนฯ จังหวัดสมุทรปราการ ที่เข้าร่วมโครงการ Samsung Innovation Campus 2024 ต่างสะท้อนเป็นเสียงเดียวกันถึงโครงการนี้ช่วยทำให้มีความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาทักษะเทคโนโลยีมากขึ้น รวมทั้งเปลี่ยนมุมมอง จากที่มองเทคโนโลยี AI และ Coding เป็นเรื่องยาก ให้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและสนุก ที่สำคัญนักเรียนมีความตั้งใจในการนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
คุณสุจิตรา โสมนัส คุณครูวิทยาการคำนวณและภาษาอังกฤษ โรงเรียนวัดคลองสวนฯ จังหวัดสมุทรปราการ เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้เข้าร่วม Samsung Innovation Campus ว่า กิจกรรมการเรียนการสอนเทคโนโลยีในโครงการ เริ่มจากเรื่องง่ายๆ รอบตัวเด็ก เพื่อให้นักเรียนสนใจและเปิดใจในการเรียน ไม่มองว่าเทคโนโลยีเป็นเรื่องไกลตัว
“แม้ว่าตอนแรกเด็ก ๆ อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับเรื่องของ AI และการเขียนโค้ด แต่พอได้ลองเรียนและทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนในคาบวิชา ICS ที่ซัมซุงเข้ามาพัฒนาหลักสูตรและจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นในการเรียน ทำให้นักเรียนเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีและมีความกระตือรือร้นมากขึ้น
เนื่องจากโครงการ Samsung Innovation Campus มีกระบวนการคิดที่ออกแบบมาให้เด็กสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น การฝึกภาษาอังกฤษผ่านการคุยกับ A.I และมีโปรแกรมที่ช่วยให้เด็กเข้าใจง่ายขึ้นอย่าง ดรีมวีฟเวอร์ (Dreamweaver) เสริมร่วมกับวิชา HTML รวมทั้งเรายังใส่ใจเด็กพิเศษในห้องให้ได้รับความรู้อย่างเหมาะสมตามความสามารถ ซึ่งเห็นได้ว่าเด็ก ๆ มีพัฒนาการที่ดีขึ้น และเข้าใจเนื้อหาเกินครึ่ง”
ทางด้านนักเรียนที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ ต่างบอกว่าการเรียนรู้เทคโนโลยี AI – Coding ไม่ใช่สิ่งน่ากลัวและไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
อย่าง เพลงรัก – สุวภัทร ทิมทะวงษ์ หนึ่งในนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ที่เคยกังวลกับการเรียนเขียนโค้ดและการใช้ AI เล่าว่า ตอนแรกกลัวและไม่เข้าใจเรื่อง AI เลย แต่พอได้ลองเรียนแล้ว กลับไม่ยากอย่างที่คิด อีกทั้งโครงการนี้ เน้นกิจกรรมการเรียนรู้กับเพื่อนๆ และการลงมือทำจริง ทำให้รู้สึกสนุก สร้างความเข้าใจได้มากขึ้น
“ก่อนหน้านี้พวกเราเรียนอยู่แต่หน้าจอคอม รู้สึกเบื่อ และไม่ค่อยเข้าใจ แต่พอซัมซุงเข้ามาพัฒนาการเรียนการสอนก็ได้ทำงานกลุ่มร่วมกับเพื่อนมากขึ้น ทำให้รู้สึกสนุก จำเนื้อหาได้มากขึ้น และยังสามารถใช้ A.I ช่วยค้นหาข้อมูลเวลาทำการบ้านหรือแปลภาษาได้สะดวกมากขึ้น ที่สำคัญคือครูใจดีและสอนสนุก ทำให้การเรียนเทคโนโลยีเป็นเรื่องสนุกไปด้วย
ส่วนในอนาคตโตขึ้นฝันว่าอยากเป็นเภสัชกร และจะเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการค้นหาข้อมูล เรียนรู้สิ่งใหม่ และวางแผนในการทำงาน เพื่อเป็นเภสัชกรเก่ง ๆ”
เช่นเดียวกับ เมธาวี ใจแสน นักเรียนจากโรงเรียนวัดคลองสวนฯ ที่เข้าร่วมโครงการ Samsung Innovation Campus เล่าประสบการณ์เข้าร่วมโครงการว่า “รู้สึกสนุกที่ได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ และทำให้เข้าใจเทคโนโลยีมากขึ้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการใช้A.I ตัดต่อรูปภาพและวิดีโอ หรือใช้วางแผนจัดการตารางเรียนและการอ่านหนังสือ
ส่วนอาชีพในอนาคต ฝันว่าอยากเป็นช่างทำผม และคิดว่าความรู้ด้านเทคโนโลยีจะสามารถช่วยในการทำงานได้ เช่น การวิเคราะห์ออกแบบเลือกทรงผมให้เข้ากับรูปหน้า”
จากเรื่องราวของนักเรียนโรงเรียนวัดคลองสวนฯ สมุทรปราการดังกล่าว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสำเร็จเท่านั้น ยังมีนักเรียนอีกมากมายกว่า 10 โรงเรียนทั่วประเทศ ที่ได้ยกระดับความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีกับโครงการ Samsung Innovation Campus ตอกย้ำความมุ่งมั่นในพันธกิจด้านการศึกษาของ “ซัมซุง” ในการส่งเสริมและพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถด้านเทคโนโลยีให้กับเยาวชน และคนในสังคมไทย เพื่อสร้างโอกาส สร้างความเท่าเทียม และการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีกว่าร่วมกัน
