Samsung ย้ำชัดแบรนด์แรกในโลกที่ทำคอนเวอร์เจนซ์ได้ผ่านการเชื่อมต่อแบบ Seamless

ช่วงที่ผ่านมาเรามีการพูดถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่เชื่อมโยงถึงกันผ่าน Internet of Things (IoT) โดยเฉพาะการพูดถึง อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้านที่สามารถเชื่อมโยงเข้าไว้ด้วยกันผ่านแอพพลิเคชั่นที่สั่งการด้วยเสียงหรือระบบสัมผัส ส่งผลให้บ้านธรรมดากลายเป็น Smart Home ในที่สุด และดูเหมือนว่าแนวความคิดดังกล่าวจะใกล้ความเป็นจริงเข้าไปมากขึ้นทุกวัน

Samsung พร้อมประกาศศึกส่งทัพเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านลงสู่ตลาด พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำชนิดที่เพิ่งผ่านงานระดับโลกอย่าง CES2018 มาหมาดๆ นอกจากนี้ยังเตรียมแคมเปญระดับโลกที่เป็นหนึ่งในแผนการตลาดที่สำคัญของ Samsung ในปี 2018 นี้

หนึ่งเดียวที่ทำ Convergence ได้

Samsung การันตีได้แค่เฟสแรก

คำว่า Convergence อาจไม่ใช่คำใหม่สำหรับใครหลายๆ คน แต่สำหรับในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ถือว่าเป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านแบบไร้รอยต่อ (Seamless) ผ่านการเชื่อมต่อไร้สายภายในบ้าน (Wi-Fi) โดยมีแอพพลิเคชั่น Samsung Connect เป็นตัวกลางในการสั่งการอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดภายในบ้าน รวมไปถึงการตรวจสอบการทำงานของแต่ละอุปกรณ์

นั่นหมายความว่าผู้ใช้สามารถสั่งเปิดโทรทัศน์โดยใช้คำสั่งบนสมาร์ทโฟน หรือการเชื่อมต่อกับเครื่องปรับอากาศเพื่อให้ทำการเปิดเครื่องก่อนที่จะกลับเข้าถึงบ้าน รวมไปถึงการแจ้งเตือนเมื่อของในตู้เย็นหมดลงเพื่อให้แวะซื้อสินค้าชนิดนั้นก่อนกลับเข้าบ้าน เรียกได้ว่าสามารถใช้สมาร์ทโฟนสั่งให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านทำงานก่อนที่จะกลับถึงบ้าน หรือสามารถสั่งให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหยุดการทำงานหลังจากที่ออกจากบ้านได้

คุณเสาวณีย์ สิราริยกุล ผู้อำนวยการธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ชี้ว่าการเชื่อมต่อของ Samsung ในปัจจุบันจะสั่งการผ่านจอสัมผัส ในขณะที่ต่างประเทศมีการสั่งงานผ่านระบบเสียง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Bixby ระบบ AI ของ Samsung ยังไม่เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ ซึ่งหากมีการใช้งาน Bixby อย่างเป็นทางการแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้านก็จะสามารถควบคุมได้ด้วยคำสั่งเสียง

นอกจากนี้ในอนาคต Samsung ยังมีแผนที่จะเปิดตัวเทคโนโลยี Family Hub ที่เป็นผู้ช่วยอันชาญฉลาดของครอบครัวในการเชื่อมต่อตู้เย็นกับร้านค้า Supermarket เพื่อสั่งสินค้าได้โดยตรง หากสินค้าเหล่านั้นในตู้เย็นหมดลง นอกจากนี้ยังช่วยวางแผนหรืออาหารในแต่ละมื้อได้รวมไปถึงการแนะนำเมนูเพื่อสุขภาพที่อยู่ในอินเตอร์เน็ต หรือเมนูอาหารจากวัตถุดิบที่มีอยู่ในตู้เย็น

ชู 3 ผลิตภัณฑ์หลักของตลาด HA

จุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยีอัจฉริยะ

สำหรับในปีนี้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนหรือที่เราเรียกกันว่า Home Appliance (HA) จาก Samsung มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เรียกว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งผ่านการโชว์ในมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกอย่างงาน CES2018 โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มที่เรียกว่าเป็นเรือธงสำคัญของ Samsung อย่าง กลุ่มเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioner), ตู้เย็น (Refrigerator) และเครื่องซักผ้า (Washing Machine)

สำหรับในปี 2018 เครื่องปรับอากาศของ Samsung จะเน้นไปที่เทคโนโลยี Inverter และเทคโนโลยี Wind-Free ที่นอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยให้ความเย็นสบายได้ในแบบไม่มีลมปะทะตัว ซึ่ง Samsung เตรียมตัวเปิดเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่อีกมากกว่า 11 รุ่น ส่วนตู้เย็นนั้นจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Twin Cooling Plus ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกสลับความเย็นระหว่างช่องแช่แข็งกับช่องแช่เย็นปกติ ได้มากถึง 5 แบบ โดยในปีนี้ Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็นแบบ 2 ประตูโฉมใหม่ถึง 5 รุ่นที่มีขนาดความจุ 300 ลิตรขึ้นไป

และอีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญอย่างเครื่องซักผ้า ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี QuickDrive ที่ช่วยให้ซักผ้าเร็วขึ้นถึง 50% ใช้เวลาเพียง 39 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีประตูเสริมขนาดเล็กบริเวณฝาหน้า ซึ่งจากการสำรวจของ Samsung พบว่า แม่บ้านหลายคนมีปัญหากับเครื่องซักผ้าฝาหน้า เพราะเมื่อเริ่มระบบการซักผ้าตัวฝาหน้าจะทำการล็อคทันที หากลืมใส่น้ำยาบางชนิดลงไปก็จะต้องรอให้ซักจนจบโปรแกรมก่อนจึงจะใส่เพิ่มเติมได้ ซึ่งถือเป็นจุด PainPoint ที่สำคัญ นั่นจึงทำให้ประตูเสริมช่วยแก้ไขข้อจำกัดในส่วนนี้ได้ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเติมน้ำยาลงไปได้ทุกเมื่อหากลืมเติม

3 กลยุทธ์สำคัญในปีนี้ของ Samsung

เล็งเจาะกลุ่มตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก

นอกจากเรื่องของเทคโนโลยีนวัตกรรมแล้ว Samsung อย่างที่เตรียมกลยุทธ์เด็ดในการยึดครองตลาด โดยใช้ทั้งสิ้น 3 กลยุทธ์ประกอบไปด้วย การสนับสนุนคู่ค้าในการสร้างประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้บริโภค โดยตั้งเป้าเปลี่ยนแปลงโฉมร้านค้าของคู่ค้า 200 ร้านค้าทั่วประเทศ การทำการตลาดแบบส่วนบุคคล (Individual) เนื่องจากผู้บริโภคแต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่างกัน โดย Samsung จะใช้เทคโนโลยี Big Data จากข้อมูลของลูกค้าแต่ละราย เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการแบบส่วนบุคคลได้อย่างเข้าถึง และ One Samsung คือการเชื่อมโยงอุปกรณ์แต่ละชนิดของ Samsung ให้เป็นระบบ Convergence

ที่สำคัญ Samsung ยังพบว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กระดับบน ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายและแบบหุ่นยนต์ รวมไปถึงเตาไมโครเวฟแบบมัลติฟังก์ชั่น Samsung จะทำตลาดในเซ็กเม้นต์นี้ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์และนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยให้ไลฟ์สไตล์ยุค Digital ง่ายขึ้น