งานแถลงข่าวและบูธจัดแสดงของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ภายในงาน CES 2018 ให้ทั้งภาพลักษณ์และความรู้สึกใหม่ทั้งหมด หลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงให้ความสำคัญกับการประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์แบบแยกส่วน แต่ในปีนี้มีความแตกต่างออกไป การจัดแสดงและกิจกรรมสำหรับสื่อมวลชนภายในบูธซัมซุงได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดหนึ่งเดียวที่สะท้อนให้เห็นถึงการเชื่อมต่ออย่างราบรื่นระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ของซัมซุงที่ช่วยให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตได้อย่างชาญฉลาดและสะดวกสบายมากขึ้น
ลี ยองฮี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ให้สัมภาษณ์ซัมซุงนิวส์รูม โดยเปิดเผยถึงแนวคิดใหม่และพูดคุยถึงที่มาที่ไปของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
ถาม: การออกแบบบูธของซัมซุงที่งาน CES และรูปแบบของงานแถลงข่าวมีความแตกต่างอย่างมากในปีนี้ แนวคิดใหม่นี้มีที่มาที่ไปอย่างไร
ตอบ: เราเรียกแนวคิดการจัดแสดงที่งาน CES ของเราในปีนี้ว่า “Samsung City 2020” ซึ่งเป็นการต่อยอดจากแนวคิด “Samsung Town” ที่เราเคยนำเสนอภายในงาน IFA เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ด้วยการใช้แนวคิดใหม่นี้ เราหวังว่าจะแสดงให้เห็นว่าศักยภาพของแพลทฟอร์มไอโอที (IoT) แบบเปิดกว้างและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ชีวิตของผู้บริโภคทั้งในบ้านเรือน สำนักงาน และพื้นที่แหล่งบันเทิงได้อย่างไร
เรายังมีเป้าหมายแสดงความก้าวหน้าของพิมพ์เขียว 2020 IoT ของซัมซุง ซึ่งเคยเปิดเผยครั้งแรกที่งาน CES 2015
เราจะแสดงให้เห็นถึงแผนการของเราที่จะพัฒนา IoT และ AI ให้ก้าวล้ำหน้าขึ้นภายในปี พ.ศ. 2563
ถาม: งานแถลงข่าวระดับโกลเบิลของซัมซุงสะท้อนวิสัยทัศน์และความตั้งใจของบริษัทที่จะนำเสนอประสบการณ์ที่ผสมผสานผ่าน AI และ IoT แนวทางใหม่นี้ให้ความสำคัญกับอะไร
ตอบ: อุตสาหกรรมนี้มีมุมมองที่แตกต่างหลากหลายเกี่ยวกับอนาคตของ Iot และ AI แต่ซัมซุงมีจุดยืนที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนว่าจะใช้ IoT เพื่อทุกคน เราเป็นผู้นำระดับโลกในการผลิตสินค้าอิเลคโทรนิคส์ที่หลากหลายเพื่อผู้บริโภค ตั้งแต่ทีวีไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งการเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ด้วย SmartThings แพลทฟอร์ม IoT ที่เปิดกว้างและเชื่อมถึงกันได้ทั้งหมดจะช่วยปูทางสู่ยุคใหม่ของการเชื่อมต่อเพื่อให้จุดแข็งและวิสัยทัศน์ในด้าน IoT ของเรามีความแตกต่างและโดดเด่น เราต้องการแสดงการเชื่อมต่อที่ราบรื่น ไร้ที่ติของผลิตภัณฑ์ของเราให้สื่อมวลชนและผู้ร่วมงานหลายพันคนที่งาน CES ได้ชมกัน
ตอบ: ธุรกิจที่หลากหลายของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์มีวิสัยทัศน์แบบเดียวกันหรือไม่
ตอบ: เรานำเสนอปรัชญาแบรนด์ของเราผ่านวีดีโอที่งาน CES เรายึดมั่นในสิ่งที่เราเรียกว่า ความอัจฉริยะในทุกสรรพสิ่ง (Intelligence of Things) ทุกฝ่ายธุรกิจของเราจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากกว่าที่เคยเป็นมา ซึ่งไม่เพียงเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคเท่านั้น หากยังสร้างความมั่นใจว่าทุกผลิตภัณฑ์ของเราจะสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างราบรื่นที่สุด สิ่งเหล่านี้จะมาพร้อมกับความท้าทาย แต่ดีเอ็นเอของซัมซุงให้ความสำคัญกับจิตวิญญาณของความท้าทายและนวัตกรรมอยู่เสมอ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ IoT ของเรามีเป้าหมายเดียวกัน ผมจึงมั่นใจว่าเราจะประสบความสำเร็จด้วยความร่วมมือกันอย่างแนบแน่น
จากมุมมองด้านการตลาด เราจะเดินหน้าสื่อสารวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันเป็นหนึ่งเดียวต่อไป สโลแกน “Do What You Can’t” ของเราไม่ได้เป็นแค่สารของเราที่ส่งถึงผู้บริโภค แต่คือคำมั่นสัญญาที่เรายึดถือกับตัวเราเองด้วย เราหวังว่าลูกค้าซัมซุงจะเข้าใจในความมุ่งมั่นทุ่มเทของเราในขณะที่เราทำงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายนี้
ถาม: ผลประกอบการของซัมซุงในปีที่แล้วเป็นอย่างไร ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ คุณจะอธิบายถึงพิมพ์เขียวสำหรับอนาคตของบริษัทอย่างไร
ตอบ: เมื่อปีที่แล้ว ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์อยู่อันดับ 6 ของการจัดอันดับ “แบรนด์ยอดเยี่ยมระดับโลก 2017” โดยอินเตอร์แบรนด์ โดยมีมูลค่าของแบรนด์อยู่ที่ 5.62 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เราขอขอบคุณจากใจจริงต่อลูกค้าที่ชื่นชอบและสนับสนุนมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เรารักษาอันดับของแบรนด์เราไว้ได้ ปีนี้ เราหวังว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ซัมซุงที่มาพร้อมการเชื่อมต่ออย่างราบรื่นไร้ที่ติ ที่สามารถปลดล็อกความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัดและยกระดับชีวิตของผู้บริโภคในหลายด้าน
ในขณะที่เทคโนโลยีใหม่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของผู้บริโภค ปรัชญาของแบรนด์ซัมซุงยังยึดมั่นต่อการให้ความสำคัญกับผู้คน ขณะที่ผลิตภัณฑ์ของเราถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยเป้าหมายมุ่งช่วยเหลือผู้คนให้บรรลุความฝัน ซัมซุงจะก้าวสู่อนาคตด้วยการไม่เพียงเป็นแบรนด์ชั้นนำเพื่อมนุษย์ทั่วโลก (human global brand) เท่านั้น หากยังเป็นแบรนด์ที่ทุกคนชื่นชอบอีกด้วย