ยังคงแรงต่อเนื่องไม่หยุดสำหรับ SABUY หลังสร้าง ecosystem กลุ่มพันธมิตรเพื่อสร้างบริการด้านธุรกรรมการเงิน ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการโอน เติม จ่าย ฝาก ถอน ได้ง่ายและสะดวก ยิ่งเห็นภาพชัดเจนเมื่อ SABUY เริ่มขยายวงธุรกิจออกไปสู่ธุรกิจต่างๆ นอกจากในวงธุรกิจการเงิน ตั้งแต่การขยายออกไปสู่ธุรกิจ Logistics ทั้งการเป็นพันธมิตรกับ Shipsmile และยักษ์ใหญ่อย่าง Kerry และการร่วมทุนกับ “เทโร” จนก่อให้เกิดเป็นบริษัทร่วมทุนในนาม “บริษัท เทโร สบาย จำกัด” รวมไปถึงการร่วมทุนกับบริษัทประกันภัยจนเกิดเป็น SABUY MAXI
และเป็นอีกครั้งที่ SABUY สร้างพันธมิตรนอกธุรกิจการเงินด้วยการจับมือกับร้านสะดวกซักอย่าง LAUNDRYBAR ร้านบริการซักผ้าตลอด 24 ชั่วโมงในรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ ที่ปัจจุบันมีครอบคลุมกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ ตอบรับเทรนด์การใช้บริการซักผ้าที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มมากขึ้น และในช่วงสถานการณ์โรคระบาดที่ผ่านมา LAUNDRYBAR ยังสามารถสร้างการเติบโตด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยลดการสัมผัสอีกด้วย
สร้าง ecosystem กลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์
ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสของนักลงทุนในการสร้างผลกำไรจากธุรกิจที่ลงทุนเพียง 2 ล้านบาทบนพื้นที่ 40 ตารางเมตร ในการลงทุนสร้างร้านสะดวกซัก LAUNDRYBAR ซึ่งจะสามารถให้บริการซักผ้าได้เพียงอย่างเดียว แต่หลังจากการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับทาง SABUY นักลงทุนที่ลงทุนในร้านสะดวกซัก LAUNDRYBAR จะสามารถเสริมบริการอื่นใน ecosysytem ของ SABUY ได้อย่างธุรกิจรับส่งพัสดุ ยิ่งไปกว่านี้ยังพร้อมเสริมบริการด้านประกันให้กับ LAUNDRYBAR อีกด้วย
โดย คุณชานนท โตวิกกัย กรรมการบริหาร บริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด เสริมว่า ลอนดรี้บาร์ (LAUNDRYBAR) เป็นแบรนด์ร้านสะดวกซักสมัยใหม่ แบบบริการตนเอง 24 ชั่วโมง ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลแฟรนไชส์ไทยขนาดกลางยอดเยี่ยม (Best Medium Franchise Award) ในงาน Thailand Franchise Award 2021 ซึ่งจัดโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ที่ผ่านมา ปัจจุบันกำลังเร่งขยายสาขาภายใต้แบรนด์ LAUNDRYBAR ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
การร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่ม SABUY ในครั้งนี้ จะช่วยขยายฐานการให้บริการและพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆร่วมกัน เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนแฟรนไชส์และผู้ใช้บริการให้มากที่สุด โดยมีเป้าหมายในการแลกเปลี่ยนกลุ่มลูกค้า องค์ความรู้และฐานข้อมูลร่วมกัน เพื่อขยายฐานการเปิดร้านให้บริการครอบคลุมทุกชุมชนทั่วประเทศ โดยมองเป้าหมายขยายให้ครบ 400 สาขาเป็นอย่างน้อยและอาจแตะที่ระดับ 1,000 สาขา ภายในปี 2566
ขยายช่องทางให้บริการกลุ่มพันธมิตร SABUY
สำหรับการร่วมมือของ LAUNDRYBAR ที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายกับ SABUY จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของกลุ่มพันธมิตรและเครือข่ายของกลุ่ม SABUY เช่น ร้านรับส่งพัสดุ อย่าง Shipsmile และ Plus express เป็นต้น ซึ่งนอกจากช่วยเสริมบริการต่างๆ ยังสามารถช่วยเสริมรายได้ให้กับรักลงทุน นอกจากนี้ SABUY MAXI หรือ บริษัทร่วมทุนด้านประกันภัยในเครือกลุ่ม SABUY ยังได้เข้าเป็นบริษัทที่รับประกันภัยร้าน LAUNDRYBAR ทั่วประเทศ ด้วยมูลค่าคุ้มครองสูงสุดกว่า 8,000,000 บาท อีกด้วย
โดย คุณณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน กลุ่มสบายฯ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย โซลูชั่นส์ จำกัด ชี้ว่า SABUY ได้มีการพูดคุยกับทางผู้บริหาร LAUNDRYBAR ในการจับมือร่วมกันช่วยขยาย LAUNDRYBAR และเติบโตร่วมกัน ด้วยทรัพยากรและเครือข่ายที่มีอยู่ เช่น กลุ่มร้านรับส่งพัสดุ shipsmile ,Plus express , the Letter Post และ Point Express ในการนำเสนอธุรกิจร้านสะดวกซักเข้าไปเพิ่มเติม
เนื่องจากธุรกิจร้านสะดวกซักเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ตลาดกำลังเติบโตและยังมีช่องทางขยายได้อีกมาก โดยเฉพาะในรูปแบบการใช้ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน นอกจากนี้ทาง LAUNDRY BAR ก็นับเป็นแบรนด์ร้านสะดวกซักที่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตที่น่าสนใจ สอดรับกับเทคโนโลยีที่ SABUY และกลุ่มพันธมิตรมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
เสริมความแข็งแกร่งด้วยประกันภัย SABUY MAXI
นอกจากการเป็นพันธมิตรร่วมหาผู้ลงทุนแล้ว ทาง LAUNDRYBAR ยังเปิดโอกาสให้ SABUY MAXI หรือ บริษัท สบาย แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด บริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยในเครือกลุ่มสบาย เข้าเป็นบริษัทรับประกันภัยร้าน LAUNDRYBAR ทั่วประเทศ ด้วยมูลค่าคุ้มครองสูงสุดกว่า 8,000,000 บาท อีกด้วย โดย SABUY MAXI จะเปิดกรมธรรม์ป้องกันวินาศภัยให้ความคุ้มครองความเสี่ยงภัยทุกชนิด เช่น ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ไฟฟ้าลัดวงจร ให้กับเจ้าของนักธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งหลาย ช่วยให้ผู้ลงทุนแฟรนไชส์ได้รับการดูแลอย่างมืออาชีพจากกลุ่ม SABUY อีกด้วย
ด้าน คุณมารุต พรมมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สบาย แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด หรือ SABUY MAXI เสริมว่า SABUY MAXI ได้จัดเตรียมออกผลิตภัณฑ์ประกันภัย “สบายซัก” คุ้มครองร้านสะดวกซักภายใต้แบรนด์ LAUNDRYBAR โดยคุ้มครองความเสี่ยงภัยทุกชนิดทั้งจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า ไฟฟ้าลัดวงจร และการระเบิด รวมถึงการถูกโจรกรรม เกิดจลาจล และน้ำท่วม น้ำรั่วซึม ลมพายุ แผ่นดินไหว ฯลฯ คุ้มครองกรณีธุรกิจหยุดชะงักและขยายความรับผิดต่อบุคคลภายนอก โดยให้ความคุ้มครองทรัพย์สินตั้งแต่ 5,000,000 – 8,000,000 บาท
โดยประกันภัยสำหรับร้านสะดวกซัก LAUNDRYBAR แบ่งออกเป็น 2 แผน โดยแยกตามขนาดของร้านแฟรนไชส์ โดยแบ่งเป็น ทุนประกันภัย 5 ล้านบาท และ ทุนประกันภัย 8 ล้านบาท และจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป สำหรับสาขาแฟรนไชส์ที่เปิดใหม่ และรวมถึงสาขาแฟรนไชส์ที่เปิดอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว โดยคาดว่าจะมีจำนวนสาขาร้านสะดวกซัก LAUNDRYBAR เข้าร่วมทำประกันภัยโครงการนี้ทั้งสิ้นกว่า 200 สาขา
ช่องทางเข้าถึงบริการที่ง่ายสะดวกและรวดเร็ว
ต้องบอกว่าไม่ธรรมดากับการจับมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ เนื่องจาก LAUNDRYBAR ธุรกิจสะดวกซักที่ต้องยอมรับว่า วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป โดยหันมาใช้บริการที่สะดวกและต้องสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งหากศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคจะพบว่า ประเทศไทยฝนตกบ่อยทำให้ไม่มีที่ตากผ้าให้แห้ง ประกอบกับการส่งร้านซักรีดอาจทำให้เสื้อผ้าเกิดความเสียหาย หรืออาจไม่สะอาดอย่างที่คิด
ซึ่งร้านสะดวกซักจะช่วยให้สามารถดำเนินขั้นตอนการซักได้ด้วยตัวเอง แถมยังมีบริการอบผ้าแห้งช่วยให้จบกระบวนการซักผ้าได้แม้จะเป็นวันฝนตก นอกจากนี้ LAUNDRYBAR ยังใช้เทคโนโลยีชำระเงินผ่าน e-Wallet ซึ่ง SABUY เองมีระบบหลังบ้านที่ช่วยให้การชำระเงินเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ยังมี SABUY Exchange ที่จะเข้ามาช่วยในระบบ CRM รวมถึงการนำคะแนนมาใช้แทนเงินสด
ที่สำคัญในอนาคต LAUNDRYBAR อาจกลายเป็นจุดให้บริการที่สำคัญ เนื่องจากกระบวนการซักใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควร การมีบริการเสริมเช่น รับส่งพัสดุ บริการธุรกรรมการเงิน รวมไปถึงการจัดตั้งตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้มาใช้บริการขณะรอ นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยีการชำระเงินที่ SABUY พัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาจช่วยให้สามารถนำเงินดิจิทัลในรูปแบบ Cryptocurrency มาร่วมใช้จ่ายในบริการต่างๆ ที่ LAUNDRYBAR ก็อาจเป็นไปได้ด้วย
