นอกจากเรื่องการเงินแล้ว ดูเหมือนว่าการท่องเที่ยวจะเป็นอีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากโลกดิจิทัล ที่เข้ามาปรับเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจ จากเดิมที่เป็นการท่องเที่ยวแบบทัวร์พาไป แค่นำสัมภาระไปเพียงไม่กี่ชิ้นก็ไปเที่ยวได้ กลับกลายเป็นการท่องเที่ยวแบบส่วนตัว เป็นกลุ่มเป็นก๊วนมากขึ้น มีการวางแผนมากขึ้น นั่นจึงทำให้ข้อมูลการท่องเที่ยวทั้งหลายกลายเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยว รวมไปถึงบริการจองการท่องเที่ยว เพื่อช่วยให้การท่องเที่ยวสะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น
จากผลสำรวจของทาง RUBIKTRIPS พบว่า รายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศไทย ส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นหลัก ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนก็ประสบปัญหาในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความไม่ไว้วางใจในบริษัททัวร์ของคนจีน ซึ่งทำให้คนจีนส่วนใหญ่นิยมเดินทางด้วยตัวเอง ทั้งการเดินทางผ่านคาราวานรถตู้หรือการนั่งเครื่องบินแล้วมาเที่ยวแบบ สะพายเป้ (BackPacker)
โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มเหล่านี้กำลังมีสัดส่วนขยายตัวเพิ่มมากขึ้น นั่นจึงทำให้เกิด Pain Point สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยเฉพาะปัญหาด้านการวางแผนท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวจีนใช้ประกอบการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย มีด้วยกัน 3 ปัจจัย ประกอบไปด้วย การรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศไทย, การจองที่พักสายการบินและแหล่งท่องเที่ยว รวมไปถึงการเปรียบเทียบราคาต่างๆ
จากข้อมูลพบว่า ในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาสู่ประเทศไทยมากกว่า 10 ล้านคน คิดเป็นรายได้เข้าประเทศไทยกว่า 3.5 แสนล้านบาท และในปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น โดยเพียงแค่เฉพาะช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยกว่า 8 แสนคน
RUBIKTRIPS แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวที่ครบวงจรสายพันธุ์ไทยพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ต้องการเดินทางมายังประเทศไทย โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวประกอบไปด้วย การจองที่พัก การจองสายการบิน การจองสถานที่ท่องเที่ยว รวมไปถึงยังรองรับการท่องเที่ยวทางการแพทย์ (Medical Travel)
โดย RUBIKTRIPS มีบริการจองที่พักซึ่งได้คัดเลือกโรงแรมที่ผ่านการรับรองและได้รับมาตรฐานจำนวนกว่า 10,000 ราย นอกจากนี้ยังมีบริการจองสายการบินกว่า 300 สายการบิน มีจำนวนมัคคุเทศก์ที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายพร้อมรองรับมากกว่า 400 คน และยังมีโรงพยาบาลรวมถึงคลินิกที่ได้รับมาตรฐานเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ในการบริการของ RUBIKTRIPS อีกกว่า 10,000 แห่ง โดย RUBIKTRIPS จะให้บริการกับนักท่องเที่ยวจีนผ่านพันธมิตรอย่าง WeChat รวมไปถึงการให้บริการผ่าน Web Browser ทั้งบน PC และบนสมาร์ทโฟน
“เพราะเราให้บริการผ่าน WeChat แล้ว ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวจีนถือว่าสะดวก นั่นทำให้เราจึงไม่ต้องเสียเวลาทำแอพพลิเคชั่น อีกทั้งในตลาด OTA ในประเทศจีน ใครที่ทำแอพฯ ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับการตอบรับจากชาวจีน”
ความโดดเด่นของ RUBIKTRIPS คือ สามารถตรวจสอบได้ว่า ทุกการใช้จ่ายเป็นราคาที่สมเหตุสมผลจริงๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่สำคัญยังสามารถเปรียบเทียบสถานที่ท่องเที่ยวและบริการต่างๆ ได้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้ตัดสินใจเลือกใช้บริการ โดยทั้งหมดจะถูกรวมเป็น 1 ทริปสำหรับการท่องเที่ยว รวมไปถึงการแสดงราคาทั้งหมดที่นักท่องเที่ยวจีนจะต้องใช้จ่าย เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
สำหรับตลาด OTA ในประเทศจีนมีการแข่งขันในระดับหนึ่ง โดยทาง RUBIKTRIPS จะไม่แข่งขันเพื่อช่วงชิงตำแหน่งที่ 1 ของตลาด เนื่องจากสัดส่วนของเบอร์ 1 ในตลาดประเทศจีนมีส่วนแบ่งการตลาดสูงมาก โดย RUBIKTRIPS ตั้งเป้ารายได้เพียง 1% ของรายได้ที่เข้าประเทศไทยจากนักท่องเที่ยวจีนหรือเท่ากับ 3.5 พันล้านบาทในช่วง 3 ปีจากนี้ โดยตั้งเป้าสิ้นปี 2018 RUBIKTRIPS จะมีรายได้แตะ 100 ล้านบาท
