“Robinhood” ตั้งเป้าพลิกขาดทุน เป็นกำไรปี 2025 จาก “Ride-hailing – ให้เช่าและเช่าซื้อรถ EV” เปิดตัว “Robinhood Mart” ชู GP ต่ำกว่าคู่แข่ง

  • 305
  •  
  •  
  •  
  •  

Robinhood-Super App

หลังจาก Robinhood” (โรบินฮู้ด) ภายใต้บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ในเครือ SCB X เปิดตัวในปี 2563 นำร่องด้วยบริการ “Food Delivery” พร้อมกับชูจุดเด่นไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆ เพื่อแก้ Pain Point ของทั้งร้านค้า และผู้บริโภคในช่วงเวลานั้นที่เกิดสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ผู้คนต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน ในขณะที่ร้านอาหารขาดรายได้ กระทั่งต่อมาขยายสู่ Robinhood Travel โดยยังคงไม่เก็บค่าธรรมเนียมกับโรงแรมที่พัก เพื่อช่วยธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาด

ขณะที่นับจากนี้เป็นต้นไป เข้าสู่เข้าสู่สเต็ปการหารายได้เข้ามาสู่ธุรกิจ (Monetization) เพื่อให้แพลตฟอร์มสามารถสร้างผลกำไรในอนาคต เริ่มจากเมื่อช่วงกลางปีนี้ เปิดตัว Robinhood Advertising และล่าสุดพัฒนาบริการใหม่ Robinhood Mart บริการสั่งซื้อสินค้า ของสด ของใช้ จากร้านค้า (Mart Service)

อีกทั้งหลังจากได้รับใบอนุญาตจากกรมขนส่งทางบกแล้ว ช่วงไตรมาส 4 ของปี 2022 เตรียมเปิดบริการ Robinhood Rideหรือบริการเรียกรถ ทั้งแท็กซี่ และรถยนต์ส่วนบุคคล และบริการ Robinhood Express ส่งพัสดุ 

แม้วันนี้ผลการดำเนินธุรกิจของแพลตฟอร์ม Robinhood ยังอยู่ในสถานะ “ขาดทุน” แต่ทางริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้าง “ผลกำไร” ภายในปี 2025 โดยหลักมาจากบริการ “Ride-hailing” หรือบริการเรียกรถ และเล็งเปิดบริการให้เช่า เช่าซื้อรถ EV ทั้งแบบรถจักรยานยนต์ และรถยนต์แก่ไรเดอร์ 

เป็นไปตามโรดแมปของ Robinhood ที่วางไว้ ไม่ได้หยุดแค่การเป็นแพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์ และบริการ OTT เท่านั้น แต่ต้องการก้าวไปสู่การเป็น Super App ที่ในระบบนิเวศธุรกิจจะประกอบด้วยลูกค้าผู้ใช้แพลตฟอร์ม – พันธมิตรคู่ค้า ทั้งร้านค้า-ร้านอาหาร และอื่นๆ ที่ทยอยเปิดตัวตามมา – ไรเดอร์ ทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ เพื่อให้บริการ On Demand Delivery

และถึงที่สุดแล้ว Robinhood ต้องสามารถตอบโจทย์ Core Business ของ SCBX นั่นคือ ด้านการเงิน ดังนั้นต่อไปแพลตฟอร์ม Robinhood จะใช้พลัง Synergy กับกลุ่มธุรกิจในเครือ SCBX  เพื่อทยอยนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ (Financial Product) มากขึ้น เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อรถยนต์ ให้กับผู้ที่อยู่บน Ecosystem ของแพลตฟอร์ม Robinhood

Robinhood

 

Food Delivery” ยังขาดทุน! แต่ต้องมีไว้เพื่อสร้างฐานผู้ใช้งาน เปิดตัว Robinhood Mart” ชู 4 จุดเด่น

ด้วยความที่จุดตั้งต้นของ Robinhood เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ Pain Point ของทั้งผู้บริโภค และผู้ประกอบการ นับตั้งแต่ Food Delivery, Travel เพราะฉะนั้นแนวทางขยายการให้บริการของ Robinhood ในฐานะที่มีจุดยืนเป็น Pain Solver จึงใช้ปัญหาที่ผู้บริโภค และผู้ประกอบการต้องประสบเป็นจุดตั้งต้นในการพัฒนาบริการใหม่จากการต่อยอดสิ่งที่มีอยู่เดิม

– ปัจจุบัน Robinhood Food Delivery มีผู้ใช้ 3.2 ล้านคน

– มีไรเดอร์ 30,000 ราย และภายในสิ้นปี 2022 จะเพิ่มเป็น 35,000 คน สามารถต่อยอดสู่การให้บริการอื่น เช่น Robinhood Mart, Express ส่งพัสดุ

– มียอด Transaction จากบริการจัดส่งอาหาร 3 ล้านธุรกรรมต่อเดือน

– จำนวนร้านอาหารที่อยู่บนแอปฯ Robinhood 270,000 ร้าน

Robinhood Food Delivery

ขณะที่บริการ Robinhood Travel

– ปัจจุบันมีโรงแรม ทั้งระดับ 3 ดาว – 5 ดาวมาอยู่บนแพลตฟอร์มกว่า 16,000 โรงแรม

– ให้บริการครอบคลุม 71 จังหวัดทั่วประเทศไทย

– อัตราค่าที่พักโดยเฉลี่ย 4,500 บาทต่อคืน

Robinhood Travel

แม้ทุกวันนี้บริการ Robinhood Food Delivery ยังคงขาดทุน เนื่องจากใช้โมเดลไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆ ขณะที่บริการ Robinhood Travel อยู่ในสถานะเท่าทุน ส่วนบริการ Robinhood Advertising ตั้งเป้าปี 2022 มีรายได้ 50 ล้านบาท และปี 2023 จะมีรายได้ 100 ล้านบาท  

แต่บทบาทของริการ Robinhood Food Delivery ยังคงมีความสำคัญ เพราะเป็นหัวหอกหลักในการสร้างฐานผู้ใช้งาน ไรเดอร์ ยิ่งใน Ecosystem มีฐานผู้ใช้งาน ไรเดอร์ และผู้ประกอบการมากเท่าไร นั่นหมายถึง “Data” ที่จะใช้ต่อยอดบริการใหม่ที่จะสามารถร้างรายได้ และกำไรในอนาคต  

อย่างล่าสุดเพื่อต่อจิ๊กซอว์การเป็น Super App และสร้างรายได้เข้าสู่แอปฯ ขณะเดียวกันช่วยแก้ปัญหาผู้บริโภค และร้านค้าที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศช่วงหน้าฝน ไม่เอื้ออำนวยให้เดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก เพราะการจราจรบนท้องถนนติดขัดอย่างหนักหน่วง และเกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ ทำให้การไปจับจ่ายซื้อของกินของใช้ในชีวิตประจำวันเข้าบ้าน ไม่สะดวกสบายนัก ในขณะที่ร้านค้าเงียบเหงาจากลูกค้า จึงได้เปิดตัว Robinhood Mart(โรบินฮู้ด มาร์ท) บริการสั่งซื้อสินค้า ของสด ของใช้จากร้านค้า (Mart Service)

ในเฟสแรกบริการ Robinhood Mart เน้นสร้างฐานลูกค้า และสร้าง Engagement เพื่อทำให้คนรู้จักและคุ้นเคย จากนั้นเฟสสอง มีแผนต่อยอดจากแพลตฟอร์ม และฐานลูกค้า ขยายไปสู่บริการอื่นๆ ที่สร้างรายได้ และกำไรให้กับธุรกิจ

Robinhood Mart

โดยชูความแตกต่าง 4 ด้านคือ

1. ส่งไว ส่งทันทันเหมือนบริการ Food Delivery

2. GP ไม่เกิน 15% ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาด Quick Commerce เช่นกัน

3. คัดสรรของพรีเมียม เนื่องจากศึกษาฐานลูกค้า Robinhood พบว่าเป็นกลุ่มคนเมือง ชนชั้นกลาง และมีกำลังซื้อ

4. บริการ Call Center 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยดูแลลูกค้า – ร้านค้า – ไรเดอร์

Robinhood Mart

Robinhood Mart

– ปัจจุบัน Robinhood Mart มีสินค้า 32 กลุ่มจากพันธมิตรร้านค้ากว่า 4,000 ร้านค้า รวมถึงร้านค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่เปิดให้บริการเฉพาะที่ Robinhood Mart อย่าง HomePro และ EVEANDBOY

– แบรนด์พรีเมียมกว่า 100 แบรนด์

– ยอดสั่งซื้อมากกว่า 10,000 ออเดอร์ต่อเดือน

– ยอดสั่งซื้อต่อออเดอร์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 280 บาท

– 3 กลุ่มสินค้าขายดีคือ ผักสด, เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์ยา โดยเฉพาะ ATK และยาสามัญประจำบ้าน

– ในช่วงเปิดตัว ส่งฟรีในระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร ตั้งแต่ 31 สิงหาคม – 31 ตุลาคมนี้ และมอบโค้ดส่วนลด 99 บาท เมื่อสั่งสินค้าจาก Robinhood Mart ครั้งแรกตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป เพียงกรอกโค้ด MART1 ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน – 27 ตุลาคมนี้

Robinhood Mart Robinhood Mart

ขณะที่เป้าหมายในปี 2023

– ยอดออเดอร์เฉลี่ย 4,000 ออเดอร์ต่อวัน

– จะมีผู้ประกอบการและแบรนด์เข้าร่วมบนแพลตฟอร์มกว่า 10,000 ราย

– มียอดสั่งซื้อต่อออเดอร์โดยเฉลี่ย 300 บาท

– มีกำไรประมาณ 50 ล้านบาท แม้บริการนี้จะสร้างกำไร แต่ในภาพรวมของแพลตฟอร์ม Robinhood ยังขาดทุน

– มียอดขายจากบริการ Robinhood Mart บนแพลตฟอร์ม (GMV) กว่า 500 ล้านบาท

Robinhood Mart

Robinhoood Mart เป็นบริการต่อเนื่องจาก Food Delivery ที่นอกจากตอบโจทย์ผู้ใช้บริการแล้ว ยังช่วยให้ไรเดอร์มีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามาตลอดทั้งวัน ทั้งช่วง Peak Time เช้ากลางวัน-เย็นให้บริการ Food Delivery และช่วง Off-Peak 11.00 – 15.00 น. ให้บริการ Mart และ Express ขณะที่ร้านค้าขยายจากร้านอาหาร เป็นร้านขายของ

เราเริ่มทดลองเปิดให้บริการไปแล้ว โดยยังไม่ได้มีการโฆษณา หรือสื่อสารใดๆ พบว่าคนใช้บริการ Robinhood Mart เยอะมาก โดยเฉพาะช่วงฝนตก นี่คือพลังของ Super App ที่เมื่อคนใช้บริการ Food Delivery อยู่แล้ว เมื่อเห็น Robinhood Mart ก็ลองใช้บริการด้วย นี่เป็นความแข็งแรงของลูกค้าเรา

เรานิยามลูกค้า Robinhood ว่าเป็น Starbucks Segment เพราะเป็นกลุ่มชนชั้นกลาง มีรายได้พอสมควร มีกำลังซื้อ ใช้ Cashless ใช้เทคโนโลยี ซึ่งที่มาของคำนิยามนี้มาจากตอนแรกจะนิยามเป็น Urban แต่เมื่อตอน Starbucks มาอยู่บนแพลตฟอร์มเรา พบว่ายอดขายขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ภายใน 2 อาทิตย์ เห็นว่าลูกค้าเราชอบกิน Starbucks จึงนำคำนี้มานิยามลักษณะกลุ่มลูกค้า Robinhood เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน” คุณธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์ม Robinhood (โรบินฮู้ด) เล่าที่มาของ Robinhood Mart

Robinhood Super App
คุณธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์ม Robinhood

 

เตรียมเปิดบริการ “Robinhood Ride – Robinhood Express” และเล็ง “ให้เช่าและเช่าซื้อรถ EV” เปลี่ยนผ่านสู่ยุค “Robinhood 2.0” พลิกขาดทุนเป็นกำไร

หลังจากบนแพลตฟอร์ม Robinhood มีบริการ Food Delivery, Travel, Mart, Digital Ads แล้ว เวลานี้เป็นช่วงรอยต่อเปลี่ยนผ่านจากยุค Robinhood 1.0 สู่ยุค Robinhood 2.0จะมีให้บริการ Ride-hailing หรือบริการเรียกรถ ทั้งแท็กซี่ และรถยนต์ส่วนบุคคล, บริการส่งพัสดุที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้า B2B เป็นหลัก และเล็งพัฒนาบริการใหม่อย่าง “ให้เช่าและเช่าซื้อรถ EV ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเสนอบอร์ด SCBX

แผนธุรกิจของ Robinhood ในก้าวถัดไป เราคาดว่าในไตรมาส 4 ของปีนี้ จะสามารถเปิดให้บริการ Robinhood Ride แพลตฟอร์มเรียกรถ (Transportation Platform) และบริการรับ-ส่งของ (Express Service) ตามลำดับ

บริการทั้งหมดนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานในการสร้างการเติบโตของธุรกิจ ก่อนต่อยอดขยายสู่บริการอื่นๆ ต่อไปในอนาคตเพื่อปูทางสู่การเป็น “Super App สัญชาติไทย” ที่สามารถแข่งขันและเติบโตได้ในระดับภูมิภาคต่อไป (Regional Player)” คุณสีหนาท ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด เล่าถึงสเต็ปต่อจากนี้

Robinhood Super App
คุณสีหนาท ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด

ในยุค Robinhood 2.0 ผู้บริหาร เพอร์เพิล เวนเจอร์ส คาดว่าต้องลงทุนเพิ่มอีกกว่า 4,000 – 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจาก SCB และการระดมทุนข้างนอก (Raise Fund) โดยหลักจะใช้สำหรับลงทุนบริการ “ให้เช่าและเช่าซื้อรถ EVทั้งรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ พร้อมทั้งรุกบริการ Ride-hailing

สำหรับบริการเรียกรถ หลังจาก Robinhood Ride และ Grab ได้ใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ให้บริการเรียกรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างถูกกฎหมาย จะทำให้มีราคามาตรฐานชัดเจน

โดยปัจจุบันทาง Robinhood เริ่มเปิดรับสมัครคนขับและรถยนต์ ทั้งในส่วนที่เป็นรถแท็กซี่และรถยนต์ส่วนบุคคลที่จดทะเบียนเป็นรถรับจ้างสาธารณะเรียบร้อยแล้ว เพื่อเข้าร่วมแพลตฟอร์ม Robinhood แล้ว คาดว่าปี 2023 จะมีรถให้บริการไม่ต่ำกว่า 10,000 คัน

ในการแข่งขันธุรกิจ Ride-hailing Robinhood” จะชู 4 จุดเด่นคือ

– ราคามาตรฐาน และเข้าใจง่าย

– ลูกค้าเรียกรถ ไม่ว่าจะเวลาใด ช่วงไหนก็ตาม ต้องมีรถให้บริการ

– มีเทคโนโลยีความปลอดภัย

– GP ต้องต่ำกว่าตลาด

Robinhood Ride

ขณะที่แผนเตรียมพัฒนาบริการ “ให้เช่าและเช่าซื้อรถ EVเนื่องจากตอบโจทย์วิสัยทัศน์ SCBX ในด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainability) และ Core Business ด้านการเงิน โดยใช้พลัง Synergy ทั้งแพลตฟอร์ม Robinhood ที่มีทั้งฐาน Data และ Ecosystem ผนึกกำลังบริษัทในเครือ SCBX Group ทยอยนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากขึ้น เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อรถยนต์ อย่างล่าสุดจับมือกับ “บริษัท ออโต เอกซ์ จำกัด” ในกลุ่ม SCBX Group ให้บริการ “เงินไชโย” สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกันแก่ไรเดอร์

หลังจากก่อนหน้านี้ Robinhood จับมือกับ ETRAN และ H SEM ทำโครงการ Robinhood EV Bike เปิดให้ผู้สนใจทำอาชีพไรเดอร์ ทั้งที่มี หรือไม่มีมอเตอร์ไซค์เป็นของตนเองสามารถเช่าขับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเป็นรายวัน และทยอยปรับพื้นที่บางส่วนของสาขาธนาคาร SCB ให้เป็นสถานีให้บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Robinhood EV Power Station)

Robinhood EV Bike

Robinhood 1.0 มีบริการ Food Delivery, Travel, Mart, Digital Ads และเริ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางแล้ว ภาพรวมเวลานี้กำลังอยู่ในช่วงรอยต่อเข้าสู่ Robinhood 2.0 สร้างการเติบโตของแพลตฟอร์มให้มีกำไร ซึ่งต้องประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญคือ มีแพลตฟอร์มรองรับ, มีแผนธุรกิจที่ดี, มี Operation ที่ดี และมีตลาด โดยเราคาดว่าจะใช้เวลา 3 ปีจากนี้ หรือภายในปี 2025 น่าจะเห็น Robinhood มีกำไร

บริการที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ Robinhood มีกำไร มาจาก 1. Ride-hailing หรือบริการเรียกรถ และ 2. ขณะนี้เรากำลังศึกษาตลาด EV เพราะสอดคล้องกับนโยบายของ SCBX ที่มาในทิศทาง Sustainability และเรามองว่าปีหน้าจะเป็นปีของ EV ดังนั้นโมเดลที่เราจะทำอาจมีทั้งรูปแบบเช่าและเช่าซื้อ ทั้งมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ 

Robinhood EV Bike

อย่างไรก็ตามบริการ Ride-hailing และ EV ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่ม คาดว่าไม่ต่ำกว่า 4,000 – 5,000 ล้านบาท โดยเฉพาะหลักๆ ใช้กับ EV เพราะต้องสั่งซื้อเข้ามาก่อน แต่ยังไม่ได้สั่งจำนวนมากนัก เช่น อาจเริ่มต้นจาก 300 คัน เหตุผลที่สั่งเข้ามาเอง เนื่องจากในช่วงแรกรถ EV ยังไม่มีใครมาให้บริการแบบนี้ และเราคำนวณแล้วคุ้ม ซึ่งในเมืองไทยมีไรเดอร์ทั้งหมด 100,000 คน (รวมทุกแพลตฟอร์ม) ต่อไปจะค่อยๆ ทยอยไปใช้รถ EV

ขณะเดียวกันเรามีแบงก์ SCB และธุรกิจในเครือ SCBX เช่น ออโต้ เอกซ์ ต่อไปไรเดอร์คนไหนอยากเช่า หรือผ่อน หรือใครที่เป็นไรเดอร์ส่งอาหารส่งของ หรือทำ Ride-hailing ใช้รถเครื่องยนต์สันดาป แล้วอยากเปลี่ยนเป็น EV ก็มาใช้บริการเราได้  

เพราะฉะนั้นโมเดลการให้บริการ EV ตอบโจทย์ด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ทั้งเช่า, เช่าซื้อ หรือแม้แต่ลีสซิ่ง และรูปแบบอื่นๆ ดังนั้นในที่สุดแล้ว Data ที่เรามี สามารถนำไปต่อยอดด้าน Financing ได้” คุณธนา สรุปทิ้งท้ายถึงแผนสร้างกำไรให้กับแพลตฟอร์ม Robinhood


  • 305
  •  
  •  
  •  
  •  
WP
อยู่ในแวดวงนิตยสารธุรกิจการตลาดกว่าสิบปี สนุกและชอบติตตามเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและดิจิทัลร่วมกันนะคะ