เปิดวิสัยทัศน์ใหม่ Robinhood แอปฯ เพื่อคนตัวเล็กที่ยั่งยืน รุกธุรกิจ Ride Hailing เน้นเติบโตร่วมกันระยะยาว

  • 2K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ถ้าการปลดล็อคแก้กฎหมายรถให้บริการสาธารณะเป็นเรื่องยากและต้องรออีกนาน ก็ทำให้ถูกกฎหมายไปเลย ถือเป็นแนวคิดที่สำคัญของ Robinhood Ride บริการใหม่ล่าสุดจาก Robinhood ที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยโปรเจ็ค Robinhood Ride อยู่ใน Pipeline ของการพัฒนาธุรกิจมาตั้งแต่ Robinhood Food หรือบริการด้าน Food Delivery เป็นที่ยอมรับในตลาด แต่เพราะเรื่องของกฎหมายและปัจจัยอีกหลายอย่างที่ทำให้ Robinhood Ride ต้องถูกระงับไปก่อน

แต่ตอนนี้ Robinhood Ride พร้อมให้บริการเรียกรถที่ ถูกกฎหมาย ในมุมของผู้โดยสารทำให้มั่นใจได้ว่าราคาค่าโดยสารที่ยุติธรรมตามกรอบที่กฏหมายกำหนดแม้จะเป็นช่วงเวลาที่มีความต้องการรถสูง ในแง่ Driver สามารถรับผู้โดยสารได้อย่างสบายใจ เรียกได้ว่าเป็นบริการเรียกรถที่แฟร์และแคร์คุณ

 

ชูจุดเด่นที่แตกต่าง 6 ด้านแบบ Robinhood

ใครที่รู้จักหรือติดตาม Robinhood มาตั้งแต่ให้บริการด้าน Food Delivery จะรู้เลยว่า Business DNA หรือแนวคิดแบรนด์ของ Robinhood คือการมุ่งมั่นและสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือ “คนตัวเล็ก” ทั้งจากฝั่งผู้ประกอบการร้านค้า ลูกค้าและ Rider โดยเฉพาะเรื่องค่า GP (Gross Profit) เอาเป็นเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า “ค่าคอมฯ” ที่ไม่มีการเก็บหรือถ้าเก็บก็จะเก็บในอัตราที่น้อยมาก ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถรับเงินได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และผู้บริโภคก็ได้ราคาที่ถูกลง รวมถึงพันธกิจหลักในการสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อสังคม Robinhood จึงเปรียบเสมือนทางรอดให้กับคนตัวเล็กบนแพลตฟอร์มให้สามารถฝ่าวิกฤตโรคระบาดครั้งใหญ่ไปได้

 

 

ดังนั้น Robinhood Ride จึงยังคง Business DNA อย่าง การเก็บค่าคอมฯเล็กน้อย ที่การันตีว่าน้อยกว่ารายอื่น ๆ ในตลาด ถือเป็น 1 ความแตกต่างที่เกิดขึ้นในตลาด โดย Robinhood Ride ยังมีความแตกต่างอีก 5 ด้าน ทั้งเรื่อง ราคาที่เป็นธรรม โดยไม่มีการบวกราคาเพิ่มในช่วงเวลาที่ต้องการเรียกรถจำนวนมาก, คนขับบริการดี ตามมาตรฐานของ Robinhood เริ่มงานง่ายไม่ต้องเติม Credit ซึ่งคนขับที่ดำเนินการตามข้อกำหนดเรียบร้อยแล้วสามารถรับงานได้ทันทีแบบไม่ต้องเติม Credit ในระบบเหมือนรายอื่นๆ, มีประกันเหตุร้าย โดยเฉพาะช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00-04.00 น. และชดเชยให้กรณีละไม่เกิน 5 หมื่นบาท และยังมี Call Center ให้บริการตลอด 24 ชม. ที่สำคัญต้องบอกว่าไม่ใช่บริการโดย ChatBot แต่เป็นบริการจากบุคลากรจริงที่จะเน้นตอบทุกคำถามและช่วยเหลือการใช้งาน

 

ต่อยอดธุรกิจด้วยบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการ

 

ด้าน คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ชี้ว่า จุดเริ่มต้นของ Robinhood เกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือคนตัวเล็ก โดยเริ่มต้นธุรกิจจากบริการ Robinhood Food บริการฟู้ดเดลิเวอรี ก่อนขยายบริการสู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวด้วย Robinhood Travel และต่อยอดสู่บริการสั่งซื้อสินค้าทั้งของสดของใช้ด้วย Robinhood Mart และบริการรับ-ส่งพัสดุและเอกสารด่วนอย่าง Robinhood Express

 

 

ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมานับตั้งแต่การเปิดตัว Robinhood ครั้งแรก ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Robinhood กว่า 3.7 ล้านราย และได้เพิ่มโอกาสให้กับร้านค้าที่อยู่ในแพลตฟอร์มสูงถึง 300,000 ร้านค้าบนแพลตฟอร์ม โดยสามารถสร้างรายได้ให้กับร้านค้าโดยรวมมากถึง 17,200 ล้านบาท พร้อมสร้างรายได้ให้กับ Rider ที่ให้บริการกว่า 30,000 คน และสร้างรายได้ให้กับ Rider แล้วกว่า 3,600 ล้านบาท

สำหรับอีกหนึ่งจุดโดดเด่นพิเศษของ Robinhood Ride คือการแก้ปัญหาเรื่องข้อกฎหมายของรถที่นำมาให้บริการ โดยที่ผ่านมากลายเป็นข้อถกเถียงว่ารถที่ให้บริการ Ride Hailing จะเป็นรถบ้านเป็นหลัก ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถแท็กซี่ที่ต้องทำทุกอย่างตามที่กฎหมายกำหนด โดย Driver ที่จะเข้ามาให้บริการใน Robinhood Ride จะต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งการต้องมีใบขับขี่สาธารณะ รวมถึงการจดทะเบียนรถให้เป็นรูปแบบรถสาธารณะด้วย

 

จับพฤติกรรมผู้บริโภคสู่ 8 รูปแบบรถที่ให้บริการ

ซึ่งจากการสำรวจพฤติกรรมการเรียกรถสามารถแบ่งเป้าหมายการเรียกรถออกเป็น 6 แบบ ทั้งการเรียกรถในชั่วโมงเร่งด่วนโดยที่ต้องเข้าประชุม เรียกรถเมื่อการเดินทางปกติต้องเดินทางหลายต่อ เรียกรถในช่วงที่มีฝนตก เรียกรถเพราะปลายทางหาที่จอดรถยากมาก เรียกรถเพราะต้องออกไปปาร์ตี้ขับรถไม่ไหว และต้องการให้คนที่ห่วงใยสามารถเดินทางได้สะดวกสบาย และจากข้อมูลยังพบว่า ส่วนใหญ่นิยมเรียกรถผ่านแอปฯ สูงถึง 65% ขณะที่ยังมีถึง 35% ที่ยังชอบโบกเรียกรถสาธารณะริมทาง

 

 

นั่นจึงทำให้ Robinhood Ride แบ่งประเภทรถที่ให้บริการออกเป็น 8 ประเภท ทั้ง Robinhood Taxi หรือรถแท็กซี่ปกติทั่วไป, Robinhood EV Car รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป, Robinhood EV Premium Car รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมในระดับรถหรู, Robinhood Car รถยนต์ปกติทั่วไป, Robinhood Premium Car รถยนต์ในระดับพรีเมียมหรือรถหรู, Robinhood Lady รถยนต์ทั่วไปที่มีคนขับเป็นผู้หญิง, Robinhood Premium Lady รถยนต์หรูระดับพรีเมียมที่มีคนขับเป็นผู้หญิง และ Robinhood SUV รถยนต์ขนาดใหญ่สำหรับผู้มีสัมภาระมาก

รถที่ให้บริการ 8 รูปแบบได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น รถแท็กซี่ รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์พรีเมียม รวมถึงรถยนต์ทั่วไปที่มีคนขับเป็นผู้หญิง ซึ่งค่อนข้างได้รับความนิยมในกลุ่มผู้โดยสารผู้หญิงที่ต้องการความอุ่นใจเพิ่มขึ้นในระหว่างเดินทาง เป็นอีกหนึ่งข้อแตกต่างของแพลตฟอร์ม โดยในเฟสแรก Robinhood Ride จะให้บริการเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน

และเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้งาน Robinhood Ride พร้อมมอบส่วนลดพิเศษสูงถึง 50 บาท เมื่อมีค่าโดยสารขั้นต่ำ 100 บาท เพียงกรอกโค้ด CARE ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม – 30 กันยายนนี้

 

วางเป้าใหญ่ติด Top 3 แอปฯ เรียกรถในไทย

สำหรับ Robinhood Ride เป็นบริการน้องใหม่ลำดับที่ 5 ซึ่งตลาดรวม Ride Hailing มีขนาดใหญ่ไม่น้อยโดยมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท คาดว่าในปี 2028 มูลค่าตลาดรวม อาจโตสูงขึ้นไปแตะ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการมาระยะหนึ่งทำให้มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 20% ขณะที่ผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งอยู่ที่ราว 50%-60% โดยตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2566 จะมียอดธุรกรรมเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 12,000 ครั้ง และมีรถยนต์พร้อมให้บริการในระบบกว่า 10,000 คัน จากปัจจุบันมีให้บริการแล้ว 4,500 คันและไต่ขึ้นสู่ Top 3 ภายใน 3 ปี

 

 

โดย Robinhood Ride เป็นการมุ่งมั่นสานต่อการสร้างโอกาสและสนับสนุนคนตัวเล็กภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ “แอปเพื่อคนตัวเล็กที่ยั่งยืน” ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของ Robinhood ในการช่วยเหลือ “คนตัวเล็ก” ทั้งผู้ประกอบการและ Rider ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ เพื่อการเติบโตร่วมกันในระยะยาว โดยวิสัยทัศน์ใหม่นี้จะถูกนำมาใช้เป็นหัวใจหลักในการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจของ Robinhood

โดย คุณกวีวุฒิ ยังคาดว่า หลังจากการเปิดตัว Robinhood Ride แล้วคาดว่าภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ จะสามารถเปิดให้บริการใหม่อย่าง Robinhood Finance บริการด้านสินเชื่อดิจิทัลเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับกลุ่มร้านค้าและ Rider รวมถึงยังเตรียมเปิดบริการ Robinhood EV บริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อให้บริการที่ครอบคลุมในรูปแบบ ecosystem และสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคมในทุกมิติ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

หนึ่งสิ่งที่มั่นใจได้ว่า Robinhood Ride สามารถเติบโตได้ เป็นผลมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรม Ride Hailing แต่ก็ยังมี Pain Point ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข อย่างเช่นตัวเลือกผู้ให้บริการที่ยังคงมีค่อนข้างจำกัด ประสบการณ์การโก่งราคาในช่วงเวลาที่มีความต้องการรถสูง หรือการไล่ผู้โดยสารลงกลางทาง ขณะที่ฝั่งคนขับก็มักประสบปัญหาค่าคอมมิชชันสูง รวมถึงการติดต่อ Call Center ที่ยาก และจุดเด่นของ Robinhood Ride สามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้

 

 

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งฉากทัศน์ที่สำคัญของตลาด Ride Hailing ที่ร้างลาการแข่งขันไปนานพักใหญ่ ซึ่งจุดที่ทำให้โอกาสของ Robinhood Ride ที่มีมากกว่าคู่แข่ง คือการที่ทำให้รถในแพลตฟอร์มต้องถูกกฎระเบียบตามที่กำหนด แน่นอนมันคือความยุ่งยากของคนที่ต้องการหารายได้พิเศษจากการขับรถ แต่หากทำถูกต้องตามกฎหมายก็สามารถทำเป็นรายได้หลักได้อย่างไม่ยากเย็น เช่นเดียวกับ Rider Food Delivery ที่เคยทำเป็นงานสำรอง แต่ตอนท้ายก็ออกมาทำจริงจังเป็นงานหลักได้

ส่วนการเก็บค่าคอมฯ ที่น้อยจะส่งผลต่อรายได้ของคนขับหรือไม่ ต้องบอกว่า Robinhood Ride จะให้เงินตอบแทนพิเศษในรูปแบบ Incentive หมายความว่ายิ่งรับงานมาก ยิ่งได้ค่าIncentive มาก

 

Robinhood Ride เพราะทุกการเดินทาง มีเหตุผลเบื้องหลังเสมอ

 

#Robinhood #แอปเพื่อคนตัวเล็กที่ยั่งยืน #RobinhoodRide #บริการเรียกรถที่แฟร์และแคร์คุณ


  • 2K
  •  
  •  
  •  
  •