Robinhood เล็ง Super App เจาะ 4 ตลาด Food-Travel-Mart-Express พร้อมออกสู่ต่างประเทศ

เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นสำหรับแอปพลิเคชัน Food Delivery น้องใหม่ล่าสุดอย่าง Robinhood ที่เรียกว่าใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี ก็สามารถเป็นหนึ่งในผู้เล่นของตลาด Food Delivery ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสร้างฐานลูกค้าสะสมจนมีผู้ใช้งานแตะที่ 2 ล้านรายในเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ ส่งผลให้ Robinhood เตรียมพัฒนาศักยภาพของตัวเองสู่การเป็น Super App สัญชาติประเทศไทย ที่สำคัญยังเตรียมขยายการให้บริการสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน

หลังจากเปิดให้บริการครบรอบ 1 ปีอย่างเป็นทางการ Robinhood ได้รับการตอบรับจากร้านค้าและลูกค้าผู้ใช้งานแอปพลิเคชันเป็นอย่างดี โดยมียอดลูกค้าที่ลงทะเบียนสะสมใช้งานกว่า 2.3 ล้านคน ขณะที่จำนวนร้านอาหารที่ให้บริการบนแพลตฟอร์มมีกว่า 164,000 ร้าน และมี Rider พร้อมให้บริการรับ-ส่งอาหารกว่า 26,000 คน จากการตอบรับที่ดีส่งผลให้ Robinhood เตรียมขยายการให้บริการเพิ่มเติม ที่จะทำให้ Robinhood กลายสภาพเป็น Super App สัญชาติไทยรายแรก

Travel – Mart – Express

โดย Robinhood เตรียมขยายการให้บริการผ่าน 3 ธุรกิจใหม่ในกลุ่ม Non-Food ได้แก่ ทั้งบริการด้าน OTA ทั้งการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ทัวร์ท่องเที่ยวท้องถิ่น รถเช่าและประกันภัย การเสริมงานให้ Rider ผ่านบริการด้านสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้า (Mart Service) และบริการรับ-ส่งของ (Express Service) โดยบริการทั้ง 3 บริการที่เพิ่มขึ้นมาใหม่จะยังคงเน้นให้บริการกับธุรกิจทุกขนาด เพื่อให้มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น โดยยังคงแนวคิดการไม่เก็บค่าบริการ GP

โดยในส่วนของบริการด้านท่องเที่ยว (OTA) นอกจากการให้บริการด้านที่พักตั๋วเครื่องบินแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของ Robinhood Travel คือการให้บริการทัวร์ ซึ่งเป็นการทัวร์ท่องเที่ยวในท้องถิ่นที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังรวมไปถึงบริการรถเช่า ซึ่งอาจจะผสานกับการให้บริการทัวร์ท้องถิ่นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ในอนาคตอาจจะมีโปรโมชั่นร่วมกับ Food Delivery เช่น ใช้บริการ Robinhood Travel รับสิทธิพิเศษส่งอาหารฟรี 3 วัน เป็นต้น

ขณะที่ Robinhood Mart และ Robinhood Express เป็นบริการที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อเสริมรายได้ให้กับ Rider รวมไปถึงสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ โดย Robinhood Mart จะเน้นที่ Mart ในระดับพรีเมี่ยมที่เน้นคุณภาพและยังไม่เคยเข้าร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นใดมาก่อน โดย Rider มีหน้าที่ไปช้อปปิ้งแทนลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ขณะที่ Robinhood Express จะช่วยให้ Rider สามารถมีรายได้เสริมจากการรับส่งพัสดุ และยังมีส่วนช่วยให้ธุรกิจ e-Commerce เติบโตมากขึ้น

Food ยังขยายตัวและช่องทางหารายได้

สำหรับบริการ Food Delivery ในปี 2565 Robinhood จะยังคงพัฒนาต่อไป โดยเตรียมขยายขอบเขตการให้บริการสู่ต่างจังหวัด พร้อมเตรียมบุกนำร่อง 3 จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม ทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ต และชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ศักยภาพและมีความต้องการบริการด้าน Food Delivery สูง ควบคู่ไปกับการเพิ่มศักยภาพและคุณภาพของร้านค้ารวมถึง Rider โดยยังคงเน้นมุ่งพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) โดยเพิ่มฟีเจอร์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น เน้นสนับสนุนและช่วยเหลือร้านค้าที่ช่วยลูกค้า

โดยในอนาคตจะมีการให้ Rating คนขับ รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยี AI ในการพัฒนา Data Analytics ให้กับร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งระบบดังกล่าวจะมีเฉพาะในร้านอาหารขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ร้านค้าสามารถปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นของตัวเอง และยังมีเตรียมระบบเหมาๆ สำหรับลูกค้าที่ต้องการสั่งประจำและระบบแชทสำหรับการพูดคุยกับร้านค้าและ Rider ที่สำคัญ Robinhood ยังได้เตรียมระบบทิปให้กับ Rider ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ลูกค้าและร้านค้ามีความต้องการ

นอกจากนี้ Robinhood ยังเตรียมหาช่องทางสร้างรายได้ โดยการร่วมมือกับบริษัทในกลุ่ม SCBX เช่น Auto X, Card X, Data X, SCB Tech X เป็นต้น ในการเฟ้นหาลูกค้า (Customer Acquisition) พร้อมนำเอา Data มาต่อยอดด้านสินเชื่อและบริการทางการเงินอื่นๆ การทำโฆษณาผ่ายแอปพลิเคชั่น การทำโปรโมชันกับลูกค้า เพื่อประโยชน์สูงสุดของร้านค้าและลูกค้า นอกจากนี้ในส่วนของ Robinhood Travel อาจมีการเก็บค่า GP ที่มีอัตราต่ำกว่าการจัดเก็บ GP ทั่วไป

กว่าจะได้เป็น Super App

ด้าน คุณธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์ม Robinhood ชี้ว่า ช่วงระยะเวลา 1 ปี Robinhood เกิดจากจุดเริ่มต้นที่ต้องการช่วยเหลือ “คนตัวเล็ก” ให้สามารถอยู่รอดได้ในช่วงวิกฤตโรคระบาดด้วยการไม่เก็บค่า GP ร้านอาหาร ส่งผลให้แพลตฟอร์มได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงล็อกดาวน์เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ที่มีมาตรการ “ส่งฟรีทุกออเดอร์ช่วงล็อกดาวน์” เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้คนในสังคม

โดยแคมเปญดังกล่าวเป็นจุดเปลี่ยนการเติบโตแบบก้าวกระโดดในทุกมิติ เมื่อมองย้อนกลับไป Robinhood ได้เรียนรู้ 5 บทเรียนสำคัญ ทั้งการที่ลูกค้าเป็นพลังสำคัญที่นำไปสู่การเป็น Super App ในอนาคต รวมถึงภาพลักษณ์แพลตฟอร์มที่เน้นช่วยเหลือและมีน้ำใจต่อกัน ทำให้ได้รับความเห็นใจจากลูกค้า ร้านค้าและ Rider และความสนุกของการได้ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นได้ นอกจกานี้การใช้มาตรฐานโอลิมปิกที่ตั้งเป้าหมายการให้บริการในระดับสากลก็เป็นสิ่งสำคัญ และวิถีมวยรองที่เน้นสร้างจุดยืนให้ชัดเจน

ทั้งนี้หากแผนการให้บริการทั้ง 4 บริการสามารถเป็นไปได้ตามที่วางแผนไว้ Robinhood ก็พร้อมระดมทุน (Raise Fund) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของแพลตฟอร์มและมุ่งพัฒนาบริการสู่การเป็น Super App สัญชาติไทยรายแรกอย่างเต็มตัว พร้อมรองรับบทบาทการเป็นผู้ให้บริการในระดับภูมิภาค (Regional Player) ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีแผนจะขยายไปในประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มีลักษณะใกล้เคียงกับประเทศไทย