50 ล้านเครื่องใน 2 ปี! นี่คือสถิติยอดขายไม่ธรรมดาที่ทำให้ realme แบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่สามารถขึ้นเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 7 ของโลก และอันดับที่ 4 ในประเทศไทย ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี
หลายคนมองว่าคงจะสายเกินไปหากใครคิดจะเริ่มต้นก่อร่างทำแบรนด์โทรศัพท์มือถือใหม่ในปี 2561 ตลาดสมาร์ทโฟนเวลานั้นมีผู้เล่นหนาแน่นแล้วก็จริง แต่คนอย่าง Sky Li กลับเชื่อมั่นว่าผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 18-25 ปีส่วนใหญ่ยังไม่มีเครื่องที่โดนใจ เพราะคนกลุ่มนี้ต้องการเครื่องที่ราคาที่ทุกคนจับต้องได้ แถมยังต้องแจ่มแจ๋วทันใจด้วย
ไม่กี่เดือนหลังจาก Li ก่อตั้ง realme ในวันที่ 4 พฤษภาคม 61 แบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่อย่าง realme ตัดสินใจจัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีการนำทีมงานฝ่ายผลิตของตัวเองมาสร้างเวทีชั่วคราว และเชิญเหล่าแร็ปเปอร์หลายรายมาร่วมงาน กลายเป็นงานที่ไม่เน้นเพียงแค่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการแสดงทัศนคติที่ดู “วัยรุ่น” และมีสีสันแบบที่ไม่มีบริษัทใดเคยทำ
ตั้งแต่วันนั้น realme กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ภายใน 9 ไตรมาส realme สามารถจัดส่งสมาร์ทโฟนได้แล้ว 50 ล้านเครื่องทั่วโลก จากทั้งหมด 61 ตลาดทั่วโลกที่ realme มีธุรกิจอยู่ กลายเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก สร้างความสั่นสะเทือนในวงการสมาร์ทโฟนกับแบรนด์ที่อยู่มานานกว่าอย่าง Samsung, Huawei, Xiaomi, Apple, Oppo และ Vivo
ความสำเร็จของ realme มาจากหลายส่วนผสม ทั้งวัตถุประสงค์หลักเรื่องนำเสนอผลิตภัณฑ์สร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ยังมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่แบรนด์ผู้นำเทรนด์ด้านเทคโนโลยี โดยทำตลาดสมาร์ทโฟนควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์ AIoT ที่มาครบทั้งเทคโนโลยีสุดล้ำและการออกแบบที่ดูทันสมัย เป็นกลยุทธ์ Dual Drive: Smartphone + AIoT และอีกหลายแนวคิดที่ทำให้ realme เข้าใจความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งานรุ่นใหม่ สมกับความมุ่งมั่นที่จะเป็นตัวเลือกแรกให้คนรุ่นใหม่ในทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยสถิติยอดขายผลิตภัณฑ์หูฟัง AIoT ของ realme วันนี้ทะลุ 1 ล้านเครื่องทั่วโลกไปเรียบร้อย
ตัวตนของ realme ยังมีส่วนเพิ่มพลังให้แบรนด์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วสุดในโลก เห็นได้ชัดจากสโลแกน Dare to Leap ที่ทำให้ภาพของ realme ถูกยกให้เป็นแบรนด์กล้ากระโดดให้ไกล และก้าวไปได้ไกลกว่าที่เคยยืนอยู่
กล้าเก่งเกินคาดหมาย
realme เป็นแบรนด์ที่ได้รับยกย่องว่า นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกินความคาดหมายทั้งในแง่ประสิทธิภาพการทำงาน คุณภาพ และดีไซน์ เมื่อรวมกับหลายแคมเปญการตลาด โดยเฉพาะแคมเปญไฮไลท์อย่าง “Empower The Next Gen” ผลคือ realme กลายเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
สำหรับประเทศไทย realme ครองตำแหน่งแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 4 ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 เหตุผลเพราะ realme ถูกบอกต่อเรื่องผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ แถมยังเป็นเจ้าแรกที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 865 / 765G และเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมกล้อง 64 ล้านพิกเซล ขณะเดียวกันสินค้า realme ยังได้รับรางวัลจากเวทีชั้นนำระดับโลกมากมายด้วย
อีกจุดเด่นคือ realme สามารถสร้างชื่อเรื่องการมอบประสบการณ์ 5G ให้กับทุกคน ที่ผ่านมา realme เปิดตัว realme 7 5G ที่ถือเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่สามารถเปิดใช้งาน 5G ทั้ง 2 ซิม ในสเปคและราคาคุ้มค่าที่สุดในระดับเดียวกัน ตอกย้ำจุดยืนว่า realme มุ่งให้คนรุ่นใหม่ทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์ความทรงพลังเร็วแรงของ 5G ในราคาเอื้อมถึง
ที่สำคัญ realme ยังวางกลยุทธ์ Dual Drive Strategy: Smartphone + AIoT เพื่อหนุนให้การทำตลาดผลิตภัณฑ์ AIoT ภายใต้กลยุทธ์ 1+4+N สดใสกว่าเดิม กลยุทธ์นี้จะโฟกัสที่ผลิตภัณฑ์ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานแบบ 3 in 1 ได้แก่ Personal, Home และ Travel ความน่าสนใจคือกลยุทธ์นี้ทำให้ realme ไม่ได้เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังถือเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตของผลิตภัณฑ์ AIoT เร็วที่สุดในโลกอีกด้วย
สำหรับ 1 + 4 + N มาจากหลายส่วนประกอบกัน โดย 1 คือสมาร์ทโฟนจะเป็นศูนย์กลางหลักของระบบ AIOT สามารถเชื่อมต่อและควบคุมการใช้งานได้ผ่านสมาร์ทโฟนที่เชื่อมระบบ realme Link ขณะที่ 4 คือ 4 Smart Hubs ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคในทุกด้าน ได้แก่ Smart Earphone, smart Watch, smart TV และ smart Speaker และสุดท้ายคือ N ที่สื่อถึงความมุ่งมั่นของ realme ในการนำผลิตภัณฑ์ AIOT และอุปกรณ์ Accessories อื่นๆ เพื่อมาตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งการใช้งานส่วนตัว การใช้งานภายในบ้าน หรือแม้กระทั่งการท่องเที่ยว
โตเร็วที่สุดในโลก
realme ถูกบันทึกว่าเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกถึง 4 ไตรมาสติดต่อกันตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2562 ถึง ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 จุดนี้สถาบันวิจัย Counterpoint ยกให้ realme เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุดในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพราะในไตรมาสแรกของปี 2563 ยอดขายของ realme เพิ่มขึ้น 157% เมื่อเทียบกับปี 62
นอกจากนี้ รายงานโดย Counterpoint ยังเผยว่า realme มียอดจัดส่งสมาร์ทโฟน 14.8 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 3 ปี 2020 เติบโตขึ้น 132% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว ซึ่งจากที่ realme ขยายตลาดมากกว่า 61 ตลาดทั่วโลก ดาวรุ่งจากจีนสามารถครองเก้าอี้แบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 5 ใน 13 ตลาดทั่วโลกภายใน 2 ปี
หนึ่งในหัวใจสำคัญที่ทำให้ realme กลายเป็นแบรนด์ที่กลุ่มคนรุ่นใหม่เลือก คือการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนกล้าที่จะเติบโตไปพร้อมกัน เรื่องนี้ realme มั่นใจว่ากลุ่มผู้ใช้งานคนรุ่นใหม่ มีแนวคิดแบบเดียวกันกับ realme “dare to” การประเมินเบื้องต้นพบว่าคนกลุ่มนี้เลือก realme ตั้งแต่แรกเริ่มเพราะเชื่อมั่นในประสิทธิภาพ นวัตกรรมเทคโนโลยี และการออกแบบที่ทันสมัยของ realme ซึ่งทั้งหมดนี้ผลักดันให้ realme ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด
สิ่งที่ realme ทำมาตลอดคือการแสดงความพร้อมเป็นส่วนหนึ่งกับคนรุ่นใหม่ ให้กล้าที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดแล้วเปิดเผยตัวตนให้โลกได้รับรู้ถึงพลังของคนรุ่นใหม่ ผ่านตัวแคมเปญ “Dare to Be realme” ซึ่งจะถูกนำเสนอบนเสื้อยืดด้วยคำสกรีน “Dare to Be_____”
แคมเปญนี้ผู้สวมเสื้อสามารถเขียนคำที่แสดงความเป็นตัวตนลงไปในช่องว่าง เผื่อส่งต่อและสร้างแรงบันดาลใจต่อไป ไอเดียเบื้องหลังแคมเปญคือ realme เชื่อว่าพลังของคนรุ่นใหม่สามารถเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้ก้าวไปข้างหน้ามากกว่าที่เคย แนวคิด “Dare to Leap” ที่ realme ยึดมั่นนี้จะกระตุ้นให้ทุกคนพร้อมมุ่งสู่การก้าวกระโดดที่ไกลยิ่งกว่า ผลักดันเหล่าคนรุ่นใหม่ให้กล้าที่จะยืดหยัดในตัวเองและกลายเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนโลกยุคใหม่
realme ยังทุ่มเงินจัดกิจกรรม realme Fan Festival อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก ณ realme Service Center & Sale Experience Store สาขาเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 ซึ่งเป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง realme กับเหล่าแฟนคลับ เป็นการส่งเสริมคนรุ่นใหม่ด้วยเทคโนโลยีและนำพาทุกคนไปสู่ยุคต่อไปของชีวิตที่สมาร์ทยิ่งขึ้น
ล่าสุด realme จัดแคมเปญ ‘Empower The Next Gen’ เพื่อเสริมพลังและสร้างแรงบัลดาลใจขับเคลื่อนคนรุ่นใหม่ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ในตนเอง แคมเปญนี้ realme ปลุกปั้นมาเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นเรื่องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย บนเป้าหมายสร้างการเปลี่ยนแปลงและสนับสนุนคนรุ่นใหม่สู่การใช้ชีวิตที่สมาร์ทยิ่งขึ้น และประสบความสำเร็จในอนาคตหรือ the Next Gen ตามชื่อแคมเปญ
ทั้งหมดนี้ตอกย้ำได้ดีว่าการเติบโตของ realme ไม่ได้เกี่ยวกับโชคชะตา แต่เป็นเพราะกลยุทธ์และการสั่งสมตัวตนของแบรนด์ล้วนๆที่พาให้ realme เป็นดาวรุ่งที่สามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากมายเช่นนี้ ความสำเร็จที่สร้างขึ้นภายใน 2 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งจนครองแชมป์แบรนด์สมาร์ทโฟนเติบโตเร็วที่สุดในโลกจึงเกิดขึ้นได้ด้วยความกล้า ซึ่งจะเป็นคาถาเพิ่มพลังให้ realme และอีกหลายบริษัทสามารถเติบโตได้เร็วแบบก้าวกระโดด