ว่ากันว่าคนไทยติดอันดับคนทำงานหนักที่สุดในโลก และก็ขยันที่สุดในโลกด้วย แต่ปัญหาส่วนใหญ่ก็คือ คนไทยยังจัดการกับเรื่องการเงินไม่ค่อยเป็น ยังมีปัญหาในเรื่องการออมกันอยู่มาก หาเท่าไหร่ก็มักจะหายไปหมดกับค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วแทบจะไม่เหลือเก็บมาเพื่อดูแลตัวเองเลย หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ถูกเงินจัดการ” เล่นงานชีวิตเสียพังยับเยิน ดังนั้น การที่เราสามารถดูแลบริหารจัดการเงินที่หามาด้วยความเหนื่อยยากลำบากได้ น่าจะเป็นผลดีทั้งในปัจจุบันและอนาคตกับตัวเราเอง
ด้วยรูปแบบไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบันข้างต้น “แรบบิท ไลฟ์ ประกันชีวิต” (Rabbit Life) เป็นประกันชีวิตในเครือ BTS Group ซึ่งแม้จะเป็นแบรนด์ประกันชีวิตน้องใหม่แต่ก็ใกล้ชิดกับผู้บริโภคยุคใหม่ จนมีความเข้าใจถึง Pain point ในการจัดการปัญหาด้านการเงินของไทยเป็นอย่างดี นอกจากเรื่องของชีวิตที่เร่งรีบจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองแล้ว ก็ยังมองว่าการจัดการปัญหาทางด้านการเงินยังวุ่นวายซับซ้อนและเข้าใจยาก ดังนั้น จึงมักที่จะปฏิเสธหรือผลักเอาไว้ทำทีหลัง จึงทำให้เมื่อถึงคราวจำเป็นก็สายไปเสียแล้ว
ดังนั้น ด้วยปัญหาดังกล่าว “แรบบิท ไลฟ์ ประกันชีวิต” จึงเน้นการออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านกลยุทธ์ Customer Centric ที่ยึดถือเอาสิ่งที่ลูกค้าต้องการเป็นหัวใจสำคัญ นั่นคือต้องเข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ใช้เวลาไม่นานก็สามารถส่งมอบผลประโยชน์และผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้แล้ว รวมถึงการนำข้อมูล Data ต่างๆ เข้ามาประกอบ เพื่อช่วยให้สร้างผลิตภัณฑ์ออกมาที่ตอบโจทย์ความต้องการ แตกต่าง และที่สำคัญคือต้องเข้าใจง่าย และมีดอกจันน้อยที่สุด
และจากกลยุทธ์ดังกล่าวที่ดำเนินการเรื่อยมา ทำให้วันนี้ “แรบบิท ไลฟ์ ประกันชีวิต” มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ของเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ (New Business Premium) โดย ณ ปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 14 ในธุรกิจประกันชีวิต (จัดอันดับจากเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ (New Business Premium) เดือน มกราคม – มิถุนายน พ.ศ. 2567 โดยสมาคมประกันชีวิตไทย) โดยก้าวกระโดดมาจากอันดับที่ 19 หลังจากที่มีการ Re-Branding ในปีพ.ศ. 2565 และในช่องทางขายประกันชีวิตออนไลน์ มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในปี 2567 จากยอดรวมของเบี้ยประกันภัยรับปีแรก (First Year Premium) และเบี้ยประกันภัยรับจ่ายครั้งเดียว (Single Premium) ตั้งแต่เดือน มกราคม – กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เพราะฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่า เป็นแบรนด์ประกันชีวิตที่มาแรงพร้อมความสำเร็จและความเข้าใจในผู้คนในปัจจุบันมากจริงๆ จนเป็นที่มาของคอมมูนิเคชั่นแคมเปญล่าสุด “ผู้ใช้แรงเงิน จัดการเงินก่อนที่เงินจัดการคุณ”
อย่างที่กล่าวว่าผู้บริโภคไทยเป็นคนทำงานที่เก่งมาก หาเงินได้เก่งมาก เป็น “ผู้ใช้แรงเงิน”ในการขับเคลื่อนชีวิต แต่หลายคนไม่รู้จักวิธีในการจัดการการเงินที่ดี เมื่อมีรายได้หรือรายรับเข้ามาส่วนใหญ่ก็มันหายไปกับค่าใช้จ่ายต่างๆ จนไม่เหลือเก็บหรือไม่เหลือดูแลตัวเอง “แรบบิท ไลฟ์ ประกันชีวิต” จึงเข้ามาตอบโจทย์และเป็นทางเลือกในการช่วยแก้ปัญหาชีวิตและเรื่องการเงินให้ บนความเข้าใจในทุกปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่ม “ผู้ใช้แรงเงิน” ออกเป็น 3 กลุ่มหลักด้วยกัน
- Insurance Starter มือใหม่ที่มีประสบการณ์น้อย แต่พร้อมเปิดใจมองหาตัวช่วยในการดูแลชีวิตและทรัพย์สิน โดยคนกลุ่มนี้คือ คนรุ่นใหม่ First Jobber ที่เพิ่งเริ่มทำงาน ซึ่งมีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในทุกๆ มุมมองของชีวิต
- Young Successor อายุน้อยประสบความสําเร็จไว ดังนั้น เวลาทุกๆ วินาทีของเขาจึงมีค่า และมองหาอะไรที่จะช่วยตอบโจทย์ต่อยอดความสําเร็จได้ โดยหลักคนกลุ่มนี้คือ พนักงานออฟฟิศ (อาจจะระดับมิดเดิลเมเนจเมนต์), ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของธุรกิจ ที่มี ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่หลากหลาย มีรายรับมากกว่า 1 ทาง ซึ่งต้องการจัดการบริหารทั้งชีวิต-การเงินให้ดีที่สุด
- Benefit Seeker สุดยอดนักเปรียบเทียบ มีประสบการณ์สูงในเรื่องของประกัน มองหาและเปรียบเทียบสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อการเติบโตที่ดีที่สุดให้ชีวิตและคนในครอบครัว โดยคนกลุ่มนี้ คือ CFO (Chief Family Officer) หัวหน้าครอบครัว หรือ คนที่มีอำนาจตัดสินใจในบ้าน ที่คอยจัดการและวางแผนดูแลทุกคนในครอบครัวในทุกๆ เรื่องตั้งแต่ตัวเอง พ่อแม่ ภรรยา (หรือสามี) และลูก เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ด้วยการแบ่งกลุ่มเป้าหมายออกตามความต้องการและการใช้ชีวิต ดังนั้น การออกแบบผลิตภัณฑ์จึงต้องแบ่งย่อยไปตามความต้องการเช่นกัน เพื่อเป็นคำตอบให้ชีวิตบนโจทย์ที่ไม่เหมือนกัน ล่าสุด “แรบบิท ไลฟ์ ประกันชีวิต” จึงพัฒนาโปรดักส์ขึ้นมา 4 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน ดังนี้
1.ประกัน Hero 10/3
สำหรับมนุษย์ออฟฟิศ ฟรีแลนซ์ หรือ เจ้าของธุรกิจ ที่ทำงานหลายจ๊อบรับเงินเดือนเยอะ แต่อาจจะลืมไปว่าก็ต้องจ่ายภาษีเยอะเช่นกัน สิ่งที่ประกันประกัน Hero 10/3 มอบให้ก็คือ
- รับเงินคืนสูง 20% ต่อปี ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- จ่ายเบี้ยสั้นแค่ 3 ปี คุ้มครองยาว 10ปี
- ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
2.ประกันบำนาญ 8555+
เหมาะสำหรับทุกคน ที่อยากใช้ชีวิตเกษียณแบบชิลๆ มีเงินใช้ในอนาคต
- รับเงินบำนาญ 15 % ต่อปี ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่อายุ 55-85 ปี
- ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
3.ประกันชีวิตใจใจ 25/9
ประกันที่สำหรับมนุษย์ CFO (Chief Family Officer) ที่ชีวิตต้องวางแผนอนาคต ไม่ว่าลูก ภรรยา หรือพ่อแม่ที่ต้องดูแล ห่วงหน้า พะวงหลัง
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิตสูงสุด 210% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- รับเงินคืนชัวร์ๆ 2% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยทุกปี
- ผลประโยชน์ตลอดสัญญา 258% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
4.ประกันสุขภาพ Health Smile
สำหรับมนุษย์ออฟฟิศ First jobber ที่ทำงานหาเงิน ใช้ชีวิตเต็มที่ แต่มีแค่ประกันออฟฟิศ แต่มันไม่เคยพอตอนแอดมิท
- เหมาจ่ายค่ารักษาสูงสุด 20 ล้าน*
- เบี้ยเริ่มต้น 348 บาท เมื่อใช้ร่วมกับสวัสดิการที่มีอยู่**
- ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
(*สำหรับแผน 10,000,000 บาท **เบี้ยเริ่มต้น 1,529 บาท/เดือน คำนวณจากผู้ซื้อประกันเพศชายอายุ 21-25 ปี ขั้นอาชีพ 1,2 ซื้อแผน 1,000,000 บาท (กรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงความคุ้มครอง x2 หรือ 2,000,000 บาท/ครั้ง และเลือกความรับผิดชอบส่วนแรก 100,000 บาท)
จากทั้งหมด 4 ผลิตภัณฑ์มีความครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน และครอบคลุมปัญหาทางการเงินของชีวิตได้ดี ซึ่งจะเป็นทางออกที่ดีในการช่วยให้การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างมั่นใจและรู้สึกมั่นคงทางการเงินมากขึ้นด้วย ที่สำคัญคือ ทำให้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่คุณหามาได้อย่างยากลำบาก สามารถออกดอกออกผลเป็นผลตอบแทนให้กับความทุ่มเทของคุณได้อย่างแท้จริง นำมาดูแลตัวเองและคนใกล้ตัวได้ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เรียกได้ว่าเป็น “ผู้ใช้แรงเงิน” ตัวจริง! จัดการการเงินก่อนที่เงินจะจัดการเรา
และหากสนใจวิธีในการบริหารจัดการเงินไปพร้อมกับการดูแลชีวิตให้ดี สามารถไปศึกษาข้อมูลจาก แรบบิท ไลฟ์ ประกันชีวิต ได้ที่ https://bit.ly/3XTNy81 หรือ โทร. 02-648-3600