กลยุทธ์ “X” หรือที่เรารู้จักกันอย่างเป็นทางการว่า กลยุทธ์ Collaboration ในปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้เราจะเห็นว่ามีหลายๆ แบรนด์ใช้กลยุทธ์ดังกล่าวกันค่อนข้างมาก มีตั้งแต่การสร้างความร่วมมือในสายอุตสาหกรรมเดียวกันไปจนถึงข้ามสายอุตสาหกรรม รวมทั้งยังมีการ Collaboration กันระหว่างแบรนด์กับศิลปิน คนดัง หรืออาร์ทติสอีกด้วย เช่น Adidas x Pharrell Williams, mac x mariah carey เป็นต้น ซึ่งสิ่งนี้เองช่วยสร้างความแตกต่างและทำให้เกิดคุณค่าใหม่ให้กับแบรนด์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่แม้จะมีหลายแบรนด์ใช้กลยุทธ์ Collaboration ก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จไปเสียหมด นั่นเป็นเพราะยังขาดส่วนผสมสำคัญที่ทำให้การ “X” ประสบความสำเร็จได้ นั่นคือ ‘การสร้าง Story’ ให้เกิดขึ้นร่วมกัน ทั้งนี้ เราได้เห็น เพอร์ร่า (PURRA) แบรนด์น้ำแร่ ที่เพิ่งเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ Limited Edition เมื่อไม่นาน เบื้องหลังความสำเร็จจากการดีไซน์แพ็กเกจใหม่ ผ่าน 4 ดีไซน์เนอร์ชั้นนำของไทย ที่นอกจากจะมีการสร้าง Story ยังสร้าง “Emotional Benefits” ที่น่าสนใจมากทีเดียวเราจึงขอนำมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้ทราบกัน
น้ำแร่เพอร์ร่า (PURRA) เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ Limited Edition โดยร่วมมือกับ Qurator ซึ่งเป็นศูนย์รวมดีไซเนอร์ไทยชั้นนำ ที่ ดิเอ็ม ควอเทียร์ คัดเลือก 4 ดีไซน์เนอร์ชื่อดังของไทย มาสร้างสรรค์แพ็กเกจพิเศษให้สวยงาม ได้แก่ หมู-อาซาว่า เจ้าของแบรนด์ ASAVA , ปุ้น-ชนาภา ตรีรัตนชาติ จากแบรนด์ IRADA , ปฏิญญา เกี่ยวข้อง เจ้าของแบรนด์ PATINYA และ โรจน์-ภูวภวิศ กฤตพลนารา ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ ISSUE ทั้งหมดนี้มาในคอนเซ็ปต์เดียวกันคือ “คุณค่าดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง” ภายใต้ชื่อแคมเปญว่า “The woman Effect”
ทั้งนี้น้ำแร่ “เพอร์ร่า” มองว่าในตลาดน้ำแร่ในประเทศไทย Functional Benefits ที่แต่ละแบรนด์มีนั้นมีความแตกต่างกันน้อยมาก ด้วยความที่เป็นแหล่งน้ำในประเทศไทยทั้งหมด รวมถึงปริมาณและจำนวนแร่ธาตุต่างๆ ก็มีความใกล้เคียงกัน เพอร์ร่าจึงมองการสร้างคุณค่าของสินค้าผ่านการสร้าง “Emotional Benefits” หรือคุณค่าทางความรู้สึกของผู้บริโภคเมื่อคิดถึงน้ำแร่เพอร์ร่า ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคของน้ำแร่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ แต่การจะสื่อถึงแต่เรื่องสุขภาพ ก็จะเป็นการวนกลับไปหา Functional Benefits จึงต้องหา insight อีกด้านที่เป็นจุดร่วมของความสนใจของผู้บริโภค ที่จะสร้างความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ รวมถึงสามารถพูดผ่านมุมมองของน้ำแร่ได้อย่างลงตัว จึงเป็นที่มาของการนำ “แฟชั่น” มาใช้ในเคมเปญนี้นั่นเอง
โดยน้ำแร่ “เพอร์ร่า”วางโพสิชั่นตัวเองว่าไม่ได้เป็นแค่น้ำแร่ธรรมดาแต่เป็น น้ำแร่จากธรรมชาติ 100% ที่แฝงไปด้วยคุณค่ามากมายจากแร่ธาตุหลากหลายชนิด เปรียบเหมือนกับ “ผู้หญิง” เพศที่ไม่ธรรมดา เพศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกและอารมณ์ที่หลากหลาย แต่ก็มีคุณค่าดีๆ ที่ซ่อนอยู่มากมายในตัว
จากแนวคิดดังกล่าวนี้เอง เพอร์ร่า จึงเลือกที่จะถ่ายทอดผ่านมุมมองผ่านดีไซน์เนอร์ชั้นนำของประเทศไทยทั้ง 4 คน เพื่อสะท้อนแต่ละคุณค่าที่พวกเขามองเห็นในตัวของผู้หญิง โดยนำเสนอออกมาผ่านดีไซน์พิเศษของฉลากน้ำแร่เพอร์ร่า 4 แบบ ตามคุณค่าที่แต่ละดีไซน์เนอร์มองเห็น เพื่อให้เราได้สัมผัสกับแง่มุมที่หลากหลายของผู้หญิง และคุณค่าที่มากมายของน้ำแร่เพอร์ร่า น้ำแร่ธรรมชาติ 100%
Issue
คุณโรจน์-ภูวภวิศ กฤตพลนารา ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ ISSUE ให้นิยามว่า ผู้หญิงคือความน่าค้นหา มีสิ่งน่ามหัศจรรย์ซ่อนอยู่มากมาย การดีไซน์จะเป็นการต่อยอดจากธรรมชาติทั้งสีสันและลวดลาย ที่ออกแบบตัดทอนมาเป็นรูปทรงเลขาคณิตจากคอลเล็กชั่น AW 16 ของ ISSSUE เกิดเป็นความสวยงามโดดเด่น แปลกหน้า น่าติดตามเหมือนผู้หญิงที่ทรงเสน่ห์
#ผู้หญิงคือความน่าค้นหา #PurraXIssue #PurraTheWomenEffect #PurraLimited
ASAVA
คุณหมู-พลพัฒน์ อัศวประภา เจ้าของแบรนด์ ASAVA มองว่า ผู้หญิงเปรียบเสมือนความเข้มแข็ง จึงเกิดเป็นดีไซน์ของลายเรขาคณิตที่ดูแปลกใหม่ ผสานกับความเรียบง่านของลายริบบิ้น สะท้อนถึงความเรียบโก้ที่ทรงพลังของไลฟ์สไตล์แบบผู้หญิงในเมืองใหญ่
#ผู้หญิงคือความเข้มแข็ง #PurraXAsava #PurraTheWomenEffect #PurraLimited
IRADA
คุณปุ้น-ชนาภา ตรีรัตนชาติ เจ้าของแบรนด์ IRADA เล่าให้เราฟังถึงที่มาของดีไซน์ขวด ว่า ผู้หญิงคือความช่างเลือก และมักเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแฟชั่นหรือความเป็นอยู่ จึงนำเอาเส้นโค้งเว้า เอกลักษณ์ของผู้หญิงมาจัดวางกับเส้นสายของสถาปัตยกรรมให้เกิดเป็นความลงตัว
#ผู้หญิงคือความช่างเลือก #PurraXIrada #PurraTheWomenEffect #PurraLimited
PATINYA
คุณปฏิญญา เกี่ยวข้อง เจ้าของแบรนด์ Patinya บอกว่า ความอ่อนไหว อ่อนหวานและไร้เดียงสาของผู้หญิงถูกนำมาสื่อสารผ่านลายลูกไม้ที่สวยงาม หรูหรา ประณีต แสดงถึงความงามของผู้หญิงที่แตกต่างในบุคลิกและอารมณ์
#ผู้หญิงกับความอ่อนหวาน #PurraXPatinya #PurraTheWomenEffect #PurraLimited
ทั้งหมดนี้คือ การหาแง่มุมที่สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน ระหว่างผู้สร้างสรรค์ความงามภายนอกให้ผู้หญิง (แฟชั่น เสื้อผ้า) กับแบรนด์ผู้ทำให้ผู้หญิงงดงามจากภายใน ซึ่งก็คือ น้ำแร่เพอร์ร่า นั่นเอง เป็นการหาจุดกึ่งกลางของตัวเอ็กซ์ X ที่เกิดขึ้นจากการ Collaboration
แน่นอนว่าเป็นความเก๋ เป็นความสวย ที่สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ได้ แต่นี่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้น้ำแร่เพอร์ร่าประสบความสำเร็จเสียทีเดียว เพราะเบื้องหลังที่แท้จริงคือ การที่น้ำแร่เพอร์ร่าได้นำเอากลยุทธ์ Storytelling มาใช้เป็นอีกส่วนผสมที่สำคัญ ใช้การเล่าเรื่องเพื่อสร้างมูลค่า สร้างเรื่องราวการ X กัน ให้เกิดความสตรองมากขึ้นไปกว่าเดิมนั่นเอง
ไม่เพียงแค่นั้น เพอร์ร่า ยังไม่ลืมพลังของโซเชียลฯ ที่จะช่วยผลักดันให้ message ดังกล่าวขยายออกไปได้อีกด้วย ดังนั้น นอกเหนือจากการใช้วิธีการ Collaboration และการสร้าง Storytelling แล้ว ก็ยังใช้ Online Influencer ในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ผ่านแอดมินเพจดัง ไม่ว่าจะเป็น Jay the Rabbit และช่า-บันทึกของตุ๊ด แล้วยังมีเน็ตไอดอลคนดังอื่นๆ อีกมาก อาทิ น้องสนุ๊ก-ธันย์ชนก สายสวัสดิ์, น้องมุก-วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์, และน้องพลอยฝน-เฌอปัฐน์ กิตติพรวริษฐ์ ฯลฯ ทำให้เกิดกระแสและความสนใจจากสื่อมากมาย โดยเฉพาะสื่อในสายแฟชั่นความงาม ให้ความสนใจการ Collaboration ในครั้งนี้ ยิ่งส่งให้แคมเปญดังกล่าวได้รับการตอบรับเพิ่มยิ่งขึ้น
ที่สำคัญที่สุดสื่อได้ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มผู้บริโภคน้ำแร่ที่เป็นผู้หญิงยุคใหม่ใส่ใจในการดูแลสุขภาพ และสนใจในเรื่องแฟชั่น จนทำให้มีผู้บริโภคจำนวนมาก มีการถ่ายภาพน้ำแร่เพอร์ร่าฉลากพิเศษนี้ลงสื่อออนไลน์ ทั้งทาง FB และ Instagram พร้อมใส่ # ถึงแบรนด์ ทั้ง #Purra และ #PurraTheWomenEffect รวมถึง # ชื่อดีไซเนอร์ต่างๆ ซึ่งการที่มีผู้บริโภคโปรโมทสินค้าให้กับแบรนด์ ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างมากในการทำการตลาด เพราะนอกจากจะเป็นการได้ free media แล้วยังเป็นการสร้างสาวกของแบรนด์ หรือ Brand Advocacy ที่จะส่งผลดีกับแบรนด์ในระยะยาวนั่นเอง
การสร้างสรรค์งานนอกจากจะมีวัตถุดิบที่ดีแล้ว จำจะต้องมีหลายกลยุทธ์เข้ามาผสมผสานกัน เพื่อที่จะก่อให้เกิดอิมแพ็คมากที่สุด ซึ่งแคมเปญ The woman Effect ของน้ำแร่เพอร์ร่า ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้เราได้เห็นว่า เพียงแค่การสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่อาจจะยังไม่พอในการทำการตลาดยุคนี้ จะต้องมีส่วนผสมอื่นๆ เข้าไปช่วยเพิ่มเติมอรรถรสให้กับแคมเปญสตรองและมีสีสันมากขึ้น ซึ่งในจุดนี้ Collaboration แคมเปญล่าสุดจาก “เพอร์ร่า” ถือว่าทำได้ดีทีเดียวค่ะ.
Copyright © MarketingOops.com