ตีกลองรบตั้งแต่ต้นปีให้พร้อมสู้ในยุคที่ธุรกิจและบริการด้านอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์แข่งขันดุเดือด สำหรับ ‘บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด’ ที่ประกาศขับเคลื่อนองค์กรภายใต้แนวคิด ‘THP FIRST’ สร้างองค์กรให้มีความพร้อมในการให้บริการที่ดีที่สุดในทุกส่วนงาน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการไปรษณีย์และบริการอีคอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ครบวงจร
ปีที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทย ได้มีการขยับอย่างต่อเนื่องให้สามารถสู้กับคู่แข่งที่รุกอย่างหนักในธุรกิจนี้ โดยเฉพาะคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Kerry Express (เคอรี่ เอ็กซ์เพรส) อาทิ การเปิดตัว ‘รถจักรยานยนต์นำจ่ายโฉมใหม่’ ติดตั้งกล่องไฟเบอร์กลาสนำร่องในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ทั่วประเทศ รองรับความต้องการของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
หรือ การจับมือ ‘ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส’ เปิด ‘คูเรียร์โพสต์’ (Courier Post) ในการให้บริการด้านลอจิสติกส์ระหว่างประเทศภายใน 2-4 วัน พร้อมมีโซลูชั่น On Demand Delivery ให้เลือกวิธีการจัดส่งได้ตามความต้องการ
กระทั่งประกาศลดราคาค่าส่งพัสดุแบบด่วน หรือ EMS ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า พัสดุต้องมีน้ำหนักตั้งแต่ 3 – 20 กิโลกรัม โดยราคาที่ปรับลดนั้นจะเริ่มต้นที่ 5 บาท และลดสูงสุดอยู่ที่ 115 บาท ฯลฯ
สำหรับยุทธศาสตร์ในปี 2562 สมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า จะเน้นพัฒนารอบด้าน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการไปรษณีย์และบริการ อีคอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ครบวงจร ด้วยแนวคิด ‘THP FIRST’ มุ่งเน้นการทำงานและการให้บริการที่ดีที่สุดในทุกส่วนงาน มีการกำหนดมาตรฐานการทำงานของพนักงานและลูกจ้างให้เหมาะสมและดีที่สุด เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้ดียิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น ด้านการบริการ ด้วยการนำนวัตกรรมเข้ามาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการมากขึ้น อาทิ บริการเก็บเงินที่อยู่ผู้รับ (Cash On Delivery : COD) เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซ และกลุ่มผู้ซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน และเป็นหนึ่งในการเสริมสร้างศักยภาพด้านการให้บริการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร
รวมถึงให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากร ผ่านการจัดกิจกรรมฝึกอบรมพนักงานและลูกจ้างให้สามารถปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพ มีความรู้ความสามารถทันโลกและเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล พร้อมกับสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมภายในองค์กร เพื่อให้เกิดการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงคุณภาพบริการ กระทั่งสามารถต่อยอดเป็นมาตรฐานการให้บริการและผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและผู้เกี่ยวข้อง ที่จะทำให้ไปรษณีย์ไทยเป็นองค์กรที่ผู้ใช้บริการไทยนึกถึงในลำดับแรก
“เราเชื่อมั่นว่า การยกระดับมาตรฐานคุณภาพการให้บริการ รวมถึงบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ของไปรษณีย์ไทย ตามแนวทางการดำเนินงาน THP FIRST ในปีนี้ จะทำให้เราสามารถเติบโต และมีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมกับก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการไปรษณีย์และบริการอีคอมเมิร์ซโลจิสติกส์ครบวงจร ด้วยมาตรฐานสากลที่ผู้ใช้บริการไทยนึกถึงในลำดับแรก”
นอกจากแนวคิด THP FIRST แล้ว ไปรษณีย์ไทย เตรียมจะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ออกมา รวมถึงขยายความร่วมมือต่าง ๆ อย่างเช่น จับมือ กรมท่าอากาศยาน ขยายจุดติดตั้งเครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติ (Automated Postal Machine: APM) เพื่ออำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานฯ และมีสิ่งของที่ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ เพื่อให้บริการฝากส่งสิ่งของทั้งในและต่างประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง ในอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่าย
โดยขณะนี้มีการติดตั้ง ใน 8 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ , ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ , ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช , ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี , ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี , ท่าอากาศยานขอนแก่น , ท่าอากาศยานแม่สอด และท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี ซึ่งในปี 2562 มีแผนจะติดตั้งเครื่องดังกล่าวมาติดตั้งเพิ่มเติมอีก 10 แห่ง และคาดว่า จะสามารถติดตั้งครบทุกแห่งภายในปี 2563