ช่วงนี้ Sport Marketing กลายเป็นอีกเครื่องมือที่น่าจับตา เพราะไม่ใช่แค่มีพลังในการเข้าถึงผู้บริโภคที่ชื่นชอบกีฬาได้ทุกเพศทุกวัย ทั้งยังสร้างจุดเด่นให้แบรนด์และการทำตลาดด้วยหลากหลายกลยุทธ์ แต่เพื่อทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงวัตถุประสงค์ของแบรนด์ ไม่ว่าจะสร้าง Loyalty สร้างแรงผลักดัน แม้แต่เข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศ ทุกวัย หรือทั่วโลก เพียงแต่ต้องใส่ไอเดียให้สร้างสรรค์ด้วยรูปแบบและช่องทางใหม่ ๆ ที่ใช้ กีฬา เป็นสื่อกลางในการสื่อสาร แม้แต่ ‘Plan B’ บริษัท แพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ผู้นำสื่อ OOH ก็ยังหันมาจับกลยุทธ์ Sport Marketing เพื่อโปรโมทโปรเจกต์ ‘Thai League : Battle Ball’ ส่งเสริมฟุตบอลไทยลีก
สะท้อนเอกลักษณ์ผ่าน Official License ต่อยอดสู่ของที่ระลึก – มาสคอต
แม้ว่าฟุตบอลจะเป็นกีฬาอันดับ 1 ที่ผู้คนให้ความสนใจและชื่นชอบ ทั้งยังมีแฟนฟุตบอลเป็นจำนวนมาก แต่การจะถ่ายทอดเอกลักษณ์ของฟุตบอลให้ชวนติดตาม ก็เป็น Pain Point ที่ท้าทาย Thai League : Battle Ball อยู่ไม่น้อย เนื่องจากคนส่วนใหญ่มองว่าฟุตบอลมีรายละเอียดและต้องมีทักษะจึงจะสามารถเข้าถึงเกมกีฬาได้ ดังนั้น โปรเจกต์นี้จึงถูกถ่ายทอดผ่านสื่อที่เข้าใจง่ายอย่างการ์ตูน ไม่ใช่แค่ช่วยให้เยาวชนไทยเข้าถึงฟุตบอลได้ง่ายขึ้น
ขณะเดียวกัน Thai League : Battle Ball ยังใช้กลยุทธ์สร้างการจดจำด้วยการชูจุดเด่นของแต่ละทีม และถ่ายทอดออกมาเป็นคาแรคเตอร์พิเศษผ่านตัวละครถึง 16 ตัว มีการผูกเรื่องราว สร้างบทบาทอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่เพื่อสร้างฐานแฟน ๆ จากการอ่าน ติดตามคอนเทนต์ที่เกิดขึ้น หรือให้การสนับสนุนทีมที่ตนเองชื่นชอบ แต่ยังเป็นกลยุทธ์คิดเผื่อ เพื่อทำให้แต่ละคาแรคเตอร์สามารถต่อยอดสู่กิจกรรมอื่นทั้งเชิงพาณิชย์และเพื่อสังคมได้ด้วย ไม่ว่าจะนำไปใช้ผลิตสินค้าที่ระลึก ทำสินค้าพรีเมียม หรือดีไซน์เป็นมาสคอตในงานต่าง ๆ มากกว่าสร้างการรับรู้ให้ฟุตบอล หรือสโมสรไทยลีก ก็ยังทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนได้อีกมากมาย
คอนเทนต์ 16 ตอน กับการถ่ายทอดเส้นทางนักเตะรุ่นเยาว์
แน่นอนว่าคอนเทนต์ของ Thai League : Battle Ball เป็นการสะท้อนสีสันและเอกลักษณ์ของสโมสรในศึกโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020 ทั้ง 16 ทีมออกมา ได้แก่ โปลิศ เทโร เอฟซี, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, พีที ประจวบฯ เอฟซี, การท่าเรือ เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, ตราด เอฟซี, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, ระยอง เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, สมุทรปราการ ซิตี้, สุโขทัย เอฟซี และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับเรื่องราวจากจินตนาการให้แฟนบอลได้สนุกสนานและกระตุ้นความสนใจของเด็ก ๆ ตามเป้าหมายของโปรเจกต์ กับเนื้อเรื่องที่เล่าถึงอดีตนักเตะ “โค้ชยักษ์” ที่กลายเป็นแมวมองหานักเตะรุ่นเยาว์จากทั่วประเทศ เพื่อขัดเกลาฝีมือสู่ทีมชาติไทยรุ่นเยาวชน โดยมีปัญญาประดิษฐ์ “พราย” เป็นบททดสอบให้แก่เหล่าผู้ถูกคัดเลือก โดยพรายสร้างสนามฟุตบอลโฮโลแกรมในแบบต่าง ๆ ไม่จำกัดสถานที่หรือจำนวนผู้เล่น ทั้งยังเก็บสถิติการพัฒนาไว้และชักนำเด็กเหล่านี้เข้าสู่สโมสรฟุตบอลทั่วประเทศ ซึ่งโค้ชยักษ์ได้จัด BATTLE BALL เพื่อเปิดกว้างโอกาสแก่เด็ก ๆ ที่มีความฝันโดยไม่แบ่งแยกเรื่องใด ๆ แต่พร้อมให้พื้นที่สำหรับนักเตะรุ่นเยาว์ที่ต้องฝ่าฟันและต่อสู้กับความพยายามของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การ์ตูน Thai League : Battle Ball ได้ออนแอร์ไปแล้ว 11 ตอน ซึ่งได้การตอบรับเป็นอย่างดีเกินความคาดหมาย
ปลายทาง Sport Marketing กับการทำ Collaboration
นอกจากการเปิดโอกาสให้กับสโมสรฟุตบอลได้ต่อยอดคอนเทนต์ที่เป็น Official License ผ่านสินค้าที่ระลึก หรือมาสคอตแล้ว โปรเจกต์นี้ยังถูกต่อยอดให้แบรนด์ต่าง ๆ ร่วมสร้างสีสันจากตัวละคร หรือทำการ Collaboration ร่วมกัน ถือเป็นโอกาสของทั้งโปรเจกต์ Thai League : Battle Ball และแบรนด์ที่สนใจเรื่อง Sport Marketing หรือต้องการนำ License จากการ์ตูนเรื่องนี้ ไปต่อยอดเป็นสินค้าหรือบริการใหม่ เพื่อสร้างสีสันใหม่ ๆ แก่ลูกค้า รวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กและผู้ที่ชื่นชอบฟุตบอล หรือแม้แต่กิจกรรมที่สอดคล้องกับสโมสรไทยลีกในแต่ละจังหวัด ก็สามารถดีไซน์ออกมาให้สอดคล้องกับแต่ละกิจกรรมได้
ยกตัวอย่าง แกรนด์สปอร์ต ที่นำตัวละครจาก 3 ตอนไปร่วมสนุกจัดกิจกรรมออฟไลน์ ทำให้ตัวละครออกมามีชีวิตโลดแล่นในโลกจริง ทั้งยังมีแพลนการทำกิจกรรมหลากหลายในปี 2021 เช่น การแพลนให้โรงเรียนในแต่ละภูมิภาคได้มีกิจกรรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อปลูกฝังเยาวชนและสร้างแรงบันดาลใจให้มีความสนใจกีฬามากขึ้น
เลือก Sport Marketing แต่ใช้การ์ตูนให้เข้าถึงง่าย
เมื่อ Plan B เลือกกลยุทธ์ Sport Marketing มาเข้าถึงผู้บริโภค สิ่งที่เกิดขึ้นคือการใช้สื่อสร้างสรรค์ให้อยู่ในรูปแบบความบันเทิงอย่าง การ์ตูน COMICS โดยร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และไทยลีก ผุดโปรเจกต์ Thai League : Battle Ball เพื่อปลูกฝังและสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนที่สนใจกีฬา ผ่านลายเส้นการ์ตูนและเรื่องราวฟุตบอล ทำให้เข้าถึงได้ง่ายทุกเพศทุกวัย ทั้งยังผ่านสายตาจากสื่อโฆษณาในเครือ Plan B ซึ่งเป็นสื่อโฆษณาออฟไลน์ แต่ต่อยอดเป็นโปรเจกต์ O2O เพิ่มการนำเสนอผ่านสื่อออนไลน์ด้วยการ์ตูนออนไลน์ เพื่อโปรโมทสโมสรฟุตบอลไทยลีกให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นนอกจากเกมการแข่งขันในสนาม
โปรเจกต์ Thai League : Battle Ball ได้นำเสนอเรื่องราวฟุตบอลในรูปแบบการ์ตูน แต่มาพร้อมความสะดวกตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เพราะให้เปิดอ่านผ่านออนไลน์ จากเว็บไซต์ WeComics หรือ Facebook Fanpage: Battle Ball และ Facebook Fanpage: ไทยลีก ได้ง่าย ๆ
โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติ 20 ปี ที่ต้องการเพิ่มจำนวนประชากรฟุตบอล พร้อมกับขยายฐานแฟนบอลไปสู่กลุ่มเด็กและเยาวชน แน่นอนว่าการ์ตูนและสื่อออนไลน์กลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับเด็ก ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สุด ภายใต้ภารกิจใหม่ที่ทั้งสมาคมฯ และไทยลีก ไม่เคยทำมาก่อน จึงมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญในการถ่ายทอดลายเส้นการ์ตูน อย่าง “หนู – เอกรัฐ มิลินทะภาส” นักเขียนมืออาชีพเจ้าของรางวัลมากมาย เช่น การ์ตูนเรื่องเดโมนิคคอรี่ย์ สำนักพิมพ์ NED และเรื่องแพนดอร่า สำนักพิมพ์ LET’S COMIC ที่เคยได้รางวัล Bronze Award จากรางวัลการ์ตูนนานาชาติ เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงาน เพื่อทำให้ฟุตบอลไทยได้รับการต่อยอดไปในมิติต่าง ๆ ไม่จำกัดอยู่แค่ภาพการแข่งขันหรือข่าวกีฬาเช่นนี้
