หลังเกิดกระแสข่าวใหญ่ เมื่อ Plan B เข้าซื้อหุ้น BNK48 กลุ่มศิลปิน ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในตอนนี้ ส่งผลให้ บรรดาโอตะและเหล่าสาวกของ BNK เกิดความเป็นห่วง ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับกลุ่มศิลปิน BNK48 โดยการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 182 ล้านบาท ด้วยสัดส่วนหุ้น 35% ซึ่งการเข้าร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ทั้ง Plan B และ BNK48 สามารถพัฒนาตามแผนที่วางไว้ได้
โดยทางด้าน Plan B ชี้แจงว่า การเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ อยากให้บรรดาโอตะและเหล่าสาวก BNK48 เกิดความสบายใจได้ว่า Plan B จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของ BNK48 โดยสิ่งที่ Plan B จะเข้าไปช่วยดูแลคือในส่วนของผู้สนับสนุน BNK48 (Sponsorship) เนื่องจากที่ผ่านมา Plan B มองว่าสิ่งที่น้องๆ สมาชิก BNK48 ได้รับ เมื่อเทียบกับสิ่งที่สปอนเซอร์นำชื่อเสียงและน้องๆ ไปโปรโมท สร้างมูลค่าสูงกว่าที่สปอนเซอร์จ่าย
นั่นจึงทำให้นับจากนี้ไป การติดต่อเจรจาเพื่อเป็นสปอนเซอร์ให้กับกลุ่ม BNK48 จะต้องดำเนินการโดยมีทาง Plan B เข้ามาช่วยพิจารณา ถึงความสมเหตุสมผล ในข้อเสนอต่างๆ ของสปอนเซอร์ นอกจากนี้ BNK48 ยังสามารถใช้สื่อต่างๆ ของทาง Plan B ในการโปรโมทกิจกรรมและโครงการต่างๆ ของ BNK48 ในอนาคต ซึ่งจะช่วยทำให้เกิด Win Win ทั้งกลุ่ม BNK48 และทาง Plan B
นอกจากนี้ Plan B ยังมองว่าธุรกิจสื่อโฆษณา แม้จะมีการเติบโต แต่ก็เป็นการเติบโตแบบมีขีดจำกัด ซึ่งจะขยายอัตราการเติบโต จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง โดยมองว่า BNK48 จะเป็นรูปแบบหนึ่งในการสร้าง Content เพื่อให้ Plan B เปลี่ยนโฉมธุรกิจจาก Media มาสู่ Channel
สำหรับการร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นผลมาจากการร่วมมือกันในโครงการ “ช้างศึก” ที่ Plan B นำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเข้ามาใช้ในธุรกิจ เมื่อมีการพูดคุยร่วมกันก็ทำให้เห็นว่า การร่วมมือกันของทั้งสองฝ่ายจะช่วยสร้างประโยชน์ซึ่งกันและกัน โดยทาง BNK48 จะสามารถใช้สื่ต่างๆ ที่ Plan B มีอยู่ในมือเพื่อโปรโมทกิจกรรมและโครงการต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ BNK48 สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคตระยะยาว
ขณะที่ทาง Plan B มองว่า BNK48 จะเป็น Content ด้านมิวสิคมาร์เก็ตติ้งที่ช่วยต่อยอดการ Transform ไปสู่ธุรกิจในรูปแบบของ Channel สำหรับรายได้ของธุรกิจ BNK48 จะมาจาก 4 ช่องทาง ประกอบไปด้วย สปอนเซอร์ (Sponsorship), คอนเทนท์ด้านออนไลน์ (Online Content), การจำหน่ายตั๋ (Ticket) และการขายแผ่นซีดีและอื่นๆ (Merchant)
ทางด้านของ BNK48 ยังชี้แจงว่า ในอนาคตทางกลุ่มยังได้มีโครงการร่วมมือกับ Grammy ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของละคร, ภาพยนตร์และรายการอื่นๆ รวมไปถึงการร่วมมือกับช่อง WorkPoint เพื่อสร้าง Content ขณะที่ Plan B กำลังเล็งนำธุรกิจเข้ไปสู่ e-Sport ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สำคัญ
เห็นได้ชัดว่า Plan B กำลังปรับเปลี่ยนตัวเองจาก Media (Out of Home) ไปเป็น Channel สำหรับธุรกิจอื่นๆ ในการเข้ามาโปรโมท หากมองตามแผนที่ผ่านมาของ Plan B จะเห็นว่า Plan B ใช้กลยุทธ์ Marketing ที่อยู่ในความสนใจของหลายคน ไม่ว่าจะเป็น Sport Marketing เช่น ในโครงการช้างศึก หรือแม้แต่โครงการในอนาคตที่จะทำร่วมกับ e-Sport และ Music Marketing ที่ได้เข้าซื้อหุ้นของ BNK48
นั่นจึงหมายความว่า Plan B ยังขาด Movie Marketing และเมื่อ พิจารณาโครงการในอนาคตของ BNK48 จะเห็นว่ามีเรื่องของการทำภาพยนตร์ และคาดว่า Plan B น่าจะมีแผนหรือได้รับอานิสงส์ ในการทำกลยุทธ์ Movie Marketing ในอนาคตเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน