เทรนด์การดูแลป้องกันและรักษาสุขภาพก่อนการเกิดโรคได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมายอดผู้ป่วยมีอัตราลดน้อยลง ผู้คนเริ่มสนใจปัญหาด้านสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้านโรงพยาบาลจากเดิมที่เน้นการรักษาโรค เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่มุ่งให้ความรู้ในการดูแลร่างกายแบบพึ่งพาตนเอง พร้อมทั้งขยายศูนย์สุขภาพพร้อมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ร่วมถึงการวางโปรแกรมการดูแลตัวเองในอนาคต
ล่าสุด เปิดตัวโรงพยาบาลพานาซี พระราม 2 คือ โรงพยาบาลเฉพาะทางที่ให้บริการทางการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือกแบบองค์รวมระดับสากลจากประเทศเยอรมนี เน้นการรักษาจากต้นเหตุของการเกิดโรค ซึ่งออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล หลีกเลี่ยงการใช้ยาโดยไม่จำเป็น โดยมีศูนย์บริการทางการแพทย์ อาทิ ศูนย์ตรวจสุขภาพ, ศูนย์วัคซีน, ศูนย์ข้อและกระดูกโดยไม่ต้องผ่าตัด, ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย, ศูนย์พัฒนาศักยภาพสมอง, ศูนย์ผิวพรรณ และความงาม และศูนย์ผู้มีบุตรยาก เป็นต้น
สำหรับกลุ่มเป้าหมายเน้นผู้ประกอบการในจังหวัดสมุทรสาครเป็นหลัก รองลงมาคือ คนวัยทำงานในกรุงเทพ และกลุ่มลูกค้าชาวจีน ซึ่งประเทศจีนถือว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งประเทศที่มีศักยภาพในการรักษาโรคลำดับต้น ๆ พบทัวร์ประเทศจีนในรูปแบบ medical travel มีจำนวนมากขึ้นเกินกว่า 200% ในปีที่ผ่านมา โดยอัตราส่วนคนที่เข้ารับการดูแลสุขภาพ พบคนไทย 70% และชาวจีน 30% คาดปีหน้าอาจมีอัตราส่วน 50:50
โรงพยาบาลพานาซี พระราม 2 ทุ่มงบประมาณการสร้างในเฟสแรกที่ 800 ล้านบาท ตั้งเป้าปลายปีรับรายได้ 100 ล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้ารายได้โต 200% ควอร์เตอร์ละประมาณ 200 ล้านบาท จบปีรายได้โต 1,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมแผนขยายสาขาไปยังจังหวัดภูเก็ตและพัทยาในปีหน้า
ศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเปิดโรงพยาบาลพานาซีพระราม 2 เป็นความตั้งใจตั้งแต่เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว เป็นช่วงที่คุณปู่เสีย เลยคิดว่าถ้าพ่อแม่เราไม่สบายจะมีโรงพยาบาลที่ไหนที่ช่วยดูแลฟื้นฟูรักษา และใช้ยาเคมีที่น้อยที่สุด ก็เลยเกิดแนวความคิดอย่างเดียวเลยว่า เราต้องสร้างโรงพยาบาล นโยบายของพานาซีพระราม 2 คือเพราะความเจ็บป่วยป้องกันได้ จึงเน้นในเรื่องของการดูแลรักษาจากต้นเหตุการเกิดโรค แนวทางการป้องกัน ตรวจลึกไปถึงดีเอ็นเอ เพื่อทำการรักษาให้ถูกเฉพาะบุคคล เพราะคนแต่ละคนการให้วิตามินหรือการรักษาย่อมแตกต่างกัน ยีนส์ของแต่ละคน จะสามารถบอกได้ว่าในอนาคตคุณมีความเสี่ยงจะเป็นโรคต่าง ๆ เป็นเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ จึงจ่ายการรักษาให้ตรงจุดและเสริมสร้างการป้องกันโรคให้ถูกต้อง”